มุสาวาท คือ คำพูดที่ไม่จริง เป็นเท็จ เจตนาหลอกลวงให้ผู้อื่นรู้ในคำไม่จริง
พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 192
มุสาวาทนั้น มีองค์ ๔ คือ
๑. อตถํ วตฺถุ เรื่องไม่แท้ ๒. วิสํวาทนจิตฺตํ จิตคิดจะพูดให้คลาดเคลื่อน ๓. ตชฺโช วายาโม ความพยายามเกิดจากจิตคิดจะพูดให้คลาดเคลื่อนนั้น ๔. ปรสฺส ตทตฺถวิชานนํ คนอื่นรู้เรื่องนั้น.
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ ---> มุสาวาท มุสาวาท ศีลข้อมุสาวาทา
เหตุที่ทำให้เกิดมุสาวาทนั้น มาจากอกุศลเป็นเหตุครับ
สำหรับพระภิกษุถ้าพูดมุสา เช่น อวดคุณวิเศษที่ตนไม่มี แล้วบอกว่ามีอาบัติปาราชิกค่ะเป็นโทษหนัก ขาดจากความเป็นพระภิกษุ ตัวอย่างจากพระไตรปิฏกค่ะ
พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 463
ภิกษุรู้อยู่ กล่าวเท็จว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้เข้าปฐมฌานได้แล้ว ด้วยอาการ
๗ อย่าง คือ ๑. เบื้องต้นเธอรู้ว่า จักกล่าวเท็จ ๒ . กำลังกล่าว ก็รู้ว่ากล่าวเท็จ ๓. ครั้นกล่าวแล้ว ก็รู้ว่ากล่าวเท็จแล้ว ๔. อำพรางความเห็น ๕. อำพรางความถูกใจ ๖. อำพรางความชอบใจ ๗. อำพรางความจริง ต้องอาบัติปาราชิก.
ถ้าเราต้องพูด เพื่อถนอมน้ำใจคนอื่น และเพื่อรักษาความสามัคคีในหมู่คณะ โดยไม่พูดความจริงทั้งหมด แต่พูดหลีกเลี่ยง ไม่บอกตรงๆ ถือว่าผิดศีลหรือไม่
อนุโลมมุสา คือ การไม่แสดงเรื่องเท็จทั้ง ๗ อย่าง แต่พูดเรื่องไม่จริงซึ่งไม่มีเจตนาจะกล่าวเท็จ แต่เจตนาจะให้เขาเจ็บใจหรือแตกร้าวกัน เป็นต้น เรียกว่า อนุโลมมุสา เช่น
-พูดเสียดแทง กระทบกระแทก แดกดัน
-พูดประชด ยกให้เกินความจริง
-พูดด่ากดให้ต่ำกว่าความเป็นจริง
-พูดสับปลับ ด้วยความคะนองวาจา แต่ไม่ตั้งใจให้เข้าใจผิด
-พูดคำหยาบ คำต่ำทราม ไม่จัดเป็นมุสาวาทแต่ศีลด่างพร้อย
คนที่พูดแบบนี้จะได้รับผลกรรมอย่างไรบ้าง
ถ้าพูดให้เขาแตกแยกกันเป็นการพูดส่อเสียด ถึงจะไม่เป็นมุสา แต่ก็เป็น
อกุศลกรรมบถ วจีทุจริตมี 4 คือพูดเท็จ พูดคำหยาบ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อ ถ้า
การพูดไม่เป็นไปในเรื่องของธรรมะ การพูดนั้นก็เป็นเพ้อเจ้อค่ะ ถ้าล่วงอกุศลกรรมบถ
10 ก็เป็นเหตุให้ไปอบายภูมิค่ะ