ทุกคำที่ใช้บ่งถึงความเป็นจริง

[เล่มที่ 47] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๖ - หน้า 157
ที่ชื่อว่า ปฏิรูปเทส ได้แก่ประเทศใดที่บริษัททั้ง ๔ เที่ยวไป ประเทศที่บุญกิริยาวัตถุทั้งหลายมีทานเป็นต้นย่อมเป็นไป ประเทศที่ นวังคสัตถุศาสน์ ย่อมรุ่งเรือง การอยู่ในปฏิรูปเทสนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า เป็นมงคล เพราะเป็นปัจจัยแห่งการบำเพ็ญบุญของสั
[เล่มที่ 1] พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ ปฐมภาค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 56 - 58
[พระพุทธพจน์มี ๙ อย่าง]
พระพุทธพจน์มี ๙ อย่าง ด้วยสามารถแห่งองค์อย่างไร? จริงอยู่ พระพุทธพจน์นี้ทั้งหมดทีเดียว มี ๙ ประเภท คือ สุตตะ เคยยะ เวยยากรณะ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมมะ เวทัลละ.
อ.วิชัย: การศึกษาธรรมะ และการกล่าวธรรมะ ซึ่งข้อความใน โสตานุคตสูตร พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ธรรมะที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ นวังคสัตถุศาสน์ ครับ ก็คือพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรมเหล่านั้นเป็นธรรมอันภิกษุนั้นฟังเนืองๆ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฏฐิ เธอมี ...
ท่านอาจารย์ครับ การศึกษาธรรมะนี่ อย่างเมื่อครู่นี่ได้ฟังก็คิดถึงสิ่งที่ได้ฟังมาครับ อย่างถามว่า ขันธ์ ๕ คืออะไร? ก็ตอบเลยตามเหมือนคล่องจากสิ่งที่เราได้ศึกษามาว่า ขันธ์ ก็คือสิ่งที่มีปัจจัยเกิดขึ้น เมื่อเกิดก็มีความหลากหลาย แบ่งออกเป็น ๕ ขันธ์ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็ดูเหมือนกับคล่ิง แล้วก็คิดแล้วก็รู้แล้วว่า ขณะนั้นเป็นการคิดถึงเรื่องจริงๆ ไม่ได้มีความเข้าใจว่า นี่แหละ ขันธ์อยู่ตรงนี้แหละ แต่ว่า ดูเหมือนการฟังก็ต้องคิดถึงเรื่องในสิ่งที่ฟัง แม้คนฟังเองหรือแม้แต่ขณะที่สนทนาธรรมะเองก็ต้องกล่าวอย่างนี้ครับท่านอาจารย์ กล่าวถึงเรื่องในสิ่งที่เราเรียนมา ก็เลยสงสัยว่า แล้วการที่จะฟังอย่างนี้สนทนาอย่างนี้ความเข้าใจที่จะค่อยๆ ปรุงแต่งขึ้นนี่ครับมันจะเป็นความละเอียดอย่างไรครับ
ท่านอาจารย์: ได้ยินคำว่า ขันธ์ รู้จักไหม?
อ.วิชัย: ก็ขันธ์ ๕ ครับ
ท่านอาจารย์: นั่นงัย ใช่ไหม จำนวนมาแล้ว!! ไม่ได้ถามว่าขันธ์มีเท่าไหร่?
อ.วิชัย: ก็สิ่งที่เกิดขึ้นครับ
ท่านอาจารย์: แล้วทำไมเป็นขันธ์ล่ะ?
อ.วิชัย: ก็เหมือนกับเป็นกองเป็นส่วนที่เขาเกิดขึ้นครับ
ท่านอาจารย์: เป็นหนึ่ง หรือเป็นกอง?
อ.วิชัย: เป็นแต่ละหนึ่งๆ ของธรรมะครับ
ท่านอาจารย์: เห็นไหม เพราะฉะนั้น การฟังธรรมะถ้าเราฟังชื่อเราจะไม่ได้เข้าใจ ทั้งหมดเป็นชื่อ ไม่ใช่ชื่อเปล่าๆ แต่เป็นชื่อที่กล่าวถึงสิ่งที่มีจริง ต่างกันแล้วใช่ไหม?
ถ้าพูดถึงขันธ์ ไม่ได้พูดคำเปล่าๆ แต่กล่าวถึงสิ่งที่มีจริง แต่ใช้คำว่า ขันธ์ เพราะอะไร?
อ.วิชัย: เพราะเป็นความจริงอย่างนั้นครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ก็ต้องมีเหตุผลใช่ไหม?
อ.วิชัย: แต่ดูเหมือนความเข้าใจเราน้อยมากเพียงนิด
ท่านอาจารย์: ได้ยินคำว่า ขันธ์ คงได้ยินต่อไปว่ากี่ขันธ์?
อ.วิชัย: ๕ ขันธ์ครับ
ท่านอาจารย์: ๕ ขันธ์ อะไรบ้าง?
อ.วิชัย: รูปขันธ์ ๑
ท่านอาจารย์: อ้าว!! ไม่รู้จักเลย พูดได้!! ก็มีใช่ไหม?
อ.วิชัย: ครับ
ท่านอาจารย์: เพราะฉะนั้น ต้องไม่ลืมว่า ทุกคำที่ใช้บ่งถึงความเป็นจริง มีจริงของธรรมะที่ละเอียดโดยนัยยะประการต่างๆ เพราะลึกซึ้ง เห็นไหม แค่นี้!! ฟังแล้วเห็นความลึกซึ้งไหม? ต้องกล่าวโดยนัยยะประการต่างๆ ว่า ทำไม อะไรเป็นขันธ์ แล้วทำไมขันธ์ ๕
อ.วิชัย: ดูเหมือนคล่องในการคิดอย่างนั้นครับ แต่ไม่ได้มีความละเอียดที่จะรู้
ท่านอาจารย์: ส่วนใหญ่ได้ยินแล้วจำ
อ.วิชัย: ครับ
ท่านอาจารย์: ไหนลองว่ามาตามที่ได้ยินแล้วจำซิ พอได้ยินคำว่า ขันธ์ มีคำต่อไปว่าอะไร?
อ.วิชัย: ขันธ์ก็มี ๕
ท่านอาจารย์: อ้าว!! ทันทีเลยหรือ? พอพูดถึงขันธ์ก็มี ๕ อย่างนั้นหรือ?
อ.วิชัย: ก็ตามที่เรียน สิ่งที่มีจริงๆ แล้วเกิดขึ้นครับ
ท่านอาจารย์: สิ่งที่มีจริงแล้วเกิดขึ้น อะไรล่ะ?
อ.วิชัย: อย่างแข็ง เป็นต้นครับ
ท่านอาจารย์: ถ้าไม่ได้ยินจะรู้ไหมคำว่า รูป แต่แข็งมี
อ.วิชัย: แต่แข็งมี
ท่านอาจารย์: แล้วแข็งเป็นขันธ์
อ.วิชัย: เกิดมีจริง ขณะนั้นเป็นขันธ์ครับ
ท่านอาจารย์: แล้วขันธ์อะไร?
อ.วิชัย: แข็งเป็นธาตุที่ไม่รู้ ก็เป็นรูปขันธ์ครับ
ท่านอาจารย์: นั่นไง!! ก็จำได้
อ.วิชัย: จำได้ครับ แต่ดูเหมือนการสนทนาก็ต้องพูดให้เข้าใจอย่างนี้หรือเปล่าครับ
ท่านอาจารย์: ถูกต้อง แต่ต้องละเอียด ใครทำให้ขันธ์เกิดขึ้นได้ไหม?
อ.วิชัย: ไม่ได้ครับ
ท่านอาจารย์: ค่ะ เมื่อเกิดแล้วดับ แสดงว่า ต้องมีปัจจัยให้เกิดใช่ไหม? ทั้งหมดกล่าวถึงสิ่งที่มีจริงโดยนัยยะประการต่างๆ ให้รู้ว่า อันนี้กล่าวโดยนัยยะของขันธ์ อุปทานขันธ์ ๕ ทำไมเป็นขันธ์ ๕ เพราะอุปานขันธ์ ๕
อ.วิชัย: เป็นที่ยึดมั่นที่ตั้งของความยึดมั่น
ท่านอาจารย์: แล้วเราก็ไม่รู้ว่า ยึดมั่นอะไรบ้าง ใช่ไหม? แต่รู้ว่ามีขันธ์ ๕ อย่างนั้นหรือ?
อ.วิชัย: หมายถึงว่า ถ้าคนจู่ๆ มานั่ง แล้วบอกว่า ขันธ์ ๕ เขาพูดตาม แต่อย่างไรก็ไม่มีทางรู้จัก
ท่านอาจารย์: นั่นแหละ แล้วก็ไม่ใช่ศึกษาธรรมะ แล้วก็ไม่รู้จักพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
อ.วิชัย: เพราะฉะนั้น การฟังแต่ละครั้ง เราก็สนทนากว่าการปรุงแต่งของความเข้าใจจะนิดๆ หน่อยๆ
ท่านอาจารย์: ทีละคำ ขันธ์เป็นธรรมะหรือเปล่า?
อ.วิชัย: นานมากเลยครับ
ท่านอาจารย์: เพราะเหตุว่า ไม่รู้มานานเท่าไหร่ เพราะฉะนั้น ความรู้กว่าจะไปละลายกว่าจะแตะ เบาแค่ไหน กว่าจะค่อยๆ หมดไปจนถ้ายังสงสัยถ้าขณะนี้ไม่เกิดดับ ไม่ใช่พระโสดาบัน
เพราะฉะนั้น ที่เป็นใครต่อใครนั่งอยู่ที่นี่ เป็นดอกไม้ เป็นโต๊ะ เป็นเก้าอี้ เป็นอัตตา
เพราะฉะนั้น พระโสดาบันดับอัตตานุทิฏฐิ ความเห็นว่า เป็นเรา ดับทิฏฐิทุกประการ ทิฏฐุปาทาน เวลานี้ไม่มีใครรู้หรอกว่า อุปาทานเต็ม แล้วเวลาที่เราพูดถึงอุปาทานเราไปคิดถึงเฉพาะตอนที่มั่นคงเนียวแน่นหนาแน่น ก็เดี๋ยวนี้ไงล่ะ!! ไม่เห็นปรากฏเป็นเฉพาะสิ่งที่กระทบตาแล้วดับ เป็นคนอย่างนี้ พูดเท่าไหร่ก็ยังเห็นเป็นคน อุปาทานยึดมั่นแค่ไหน!! ในอะไรบ้าง ใน ๔ อย่าง?
เพราะฉะนั้น พูดถึงธรรมะทุกประเภท ไม่อยู่ไกล อยู่ที่ศีรษะจรดเท้า ไม่เคยคิดถึงไม่เคยรู้ คิดว่าอยู่ห่างไกลมาก แต่ความจริงนี่เป็นแหล่งของธรรมะทั้งหมด พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงตรัสคำว่า โอปนยิโก น้อมมาที่ตน เพราะเห็นตรงนี้ ใครเคยคิดบ้างว่า เห็นตรงนี้ เห็นโน่นเห็นนี่ แล้วก็เกิดด้วยแล้วก็ดับด้วย
เห็นไหม! ฟังต้องละเอันดแต่ละคำ จนกระทั่งมีความเข้าใจมากขึ้นๆ จึงสามารถที่จะรู้ว่า นามรูปปริเฉทญาณะ ไม่ใช่ชื่อ แต่เป็นความจริงปัญญาระดับไหน? ระดับที่ ถ้าไม่มีการฟังเลย เดี๋ยวนี้เป็นเราเห็น แต่เห็นเกิดที่ตา สิ่งที่ปรากฏต้องปรากฏกับจักขุวิญญาณ คือเห็นที่เกิดตรงตา เดี๋ยวนี้ไม่ได้เป็นอย่างนั้น แล้วก็พูดเรื่องขันธ์ กี่ขันธ์ค่ะตอนเห็น?
วิสุทธิมรรคแปล ภาค ๑ ตอน ๒ [แก้บท โอปนยิโก]
ธรรมชื่อ โอปนยิกะ เพราะควรนำเข้าไป ก็แลความ (ต่อไป) นี้ เป็นวินิจฉัยในบทนี้ คือการนำเข้าไป ชื่อ อุปนยะ ธรรมย่อมควร ซึ่งการที่บุคคลแม้ผ้าหรือศีรษะไฟไหม้ก็เฉย (คง) นำเข้าไปในจิตของตนๆ โดยทำให้มีขึ้นจนได้ เพราะเหตุนั้น ธรรมนั้นจึงชื่อ อุปนิยกะ อุปนิยกะนั้นเองเป็นโอปนยิกะ คำวิเคราะห์นี้ใช้ได้ในโลกุตตรธรรมที่เป็นสังขตะ ส่วนในโลกุตตรธรรมที่เป็นอสังขตะ (วิเคราะห์ว่า) ธรรมนั้นควรซึ่งการนำเข้าไปด้วยจิต เหตุนั้นจึงชื่อ โอปนยิกะ หมายความว่าควรซึ่งการผนึกเข้าโดยทำให้แจ้ง หรือมิฉะนั้น (ธรรม คือ) อริยมรรค ชื่อว่า อุปเนยฺย เพราะนำ (พระอริยบุคคล) เข้าไปถึงพระนิพพาน ธรรมคือผล แลพระนิพพานชื่อว่า อุปเนยฺย เพราะเป็นธรรมที่บุคคลพึงนำเข้าไปถึงความที่จะพึงทำให้แจ้ง โอปนยิกะ ก็ อุปเนยฺย นั่นเอง
อ.วิชัย: ทั้งพูดด้วยความไม่เข้าใจจริงๆ ครับท่านอาจารย์
ท่านอาจารย์: ไม่สามารถจะรู้ได้ว่า กำลังมีก็ไม่รู้
ขอเชิญอ่านได้ที่ ..
ผลของการฟังธรรมเนืองๆ [โสตานุคตสูตร]
ประเทศที่ นวังคสัตถุศาสน์ ย่อมรุ่งเรือง [สุตตนิบาต]
พระพุทธพจน์มี ๙ อย่าง [นวังคสัตถุศาสน์]
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.วิชัย ด้วยความเคารพค่ะ


