การแผ่เมตตาและกรวดน้ำ
ได้ฟังเรื่องแผ่เมตตาจากท่านอาจารย์จึงได้รู้ว่าที่ท่องๆ กัน สัพเพ สัตตา ถ้าสภาพธรรมตามความเป็นจริงขณะนั้นไม่ประกอบด้วยเมตตา เมตตาก็ไม่ถึงผู้รับ เลยสงสัยว่าในกรณีที่กรวดน้ำหลังถวายสังฆทาน สภาพจิตตอนนั้นก็ไม่ใช่เมตตาเสมอไป บางทีก็เมื่อย ร้อน หงุดหงิด แบบนี้บุญจะถึงผู้ล่วงลับไหมคะ เราสามารถระลึกย้อนหลังถึงบุญสังฆทานให้แม่ เมื่อจิตสงบ ผ่อนคลายได้ไหมคะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
ข้อความใน พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า ๕๒๙ อธิบายถึงความเป็นจริงของเมตตาไว้ดังนี้
“เมตตา มีความเป็นไปโดยอาการที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลเป็นลักษณะ มีการนำเข้าไปซึ่งประโยชน์เกื้อกูลเป็นกิจ มีการกำจัดความโกรธ ความอาฆาตเป็นอาการปรากฏ มีการมองเห็นสิ่งที่น่าพอใจของสัตว์ทั้งหลาย (คือไม่เป็นศัตรู) เป็นเหตุใกล้ให้เกิด เมตตานี้มีการสงบพยาบาทเป็นสมบัติ มีการเกิดขึ้นแห่งเสน่หา (ความติดข้อง หรือ โลภะ) เป็นวิบัติ”
ข้อความใน พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ หน้าที่ ๑๖๗ เมตตาภาวสูตร แสดงไว้ว่าเมื่อเมตตาเจริญขึ้น ก็เป็นเหตุให้พรหมวิหารประการอื่นๆ เจริญขึ้นด้วย ดังนี้
“เมตตานี้ มีความประพฤติอาการอันเป็นประโยชน์เกื้อกูลในสัตว์ทั้งหลายเป็นลักษณะ มีการประมวลประโยชน์เกื้อกูล เป็นกิจ มีการปลดเปลื้องความอาฆาตเป็นเครื่องปรากฏ ผิว่าเมตตา อันบุคคลเจริญแล้ว ทำให้มากแล้วโดยไม่ว่างเว้น เมื่อเป็นเช่นนั้น ภาวนา (การอบรมธรรมฝ่ายดี) มีกรุณาเป็นต้น ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายทีเดียว เพราะเหตุนั้นเมตตาจึงเป็นที่ตั้งแห่งพรหมวิหารธรรม นอกนี้”
จะเห็นได้จริงๆ ว่า กุศลเป็นกุศล อกุศลเป็นอกุศล ความจริงเป็นอย่างไร ก็เป็นอย่างนั้น ใครๆ ก็เปลี่ยนแปลงความจริงนี้ไม่ได้
พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง อุปการะเกื้อกูลเพื่อความเจริญขึ้นของกุศลธรรมประการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ไม่ใช่อกุศลธรรม แม้แต่ในเรื่องของเมตตา ก็เช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นสภาพธรรมฝ่ายดี และเป็นประโยชน์ในที่ทั้งปวง ไม่ว่าจะอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม ไม่เป็นพิษเป็นภัยแก่ใครทั้งสิ้น เป็นธรรมที่ควรมี ควรอบรมให้มีขึ้นแทนที่จะโกรธกันหรือไม่พอใจกัน ถ้าเป็นเมตตาแล้ว ใจเบาสบาย ไม่หนักด้วยอำนาจของโทสะ
เรื่องการแผ่เมตตา เป็นการแสดงถึงบุคคลผู้ที่มีปัญญาอบรมเจริญเมตตาจนมีกำลังมาก ไม่มีประมาณ จิตสงบถึงระดับฌานจิต เป็นเมตตาฌาน แล้วจึงแผ่ความปรารถนาดี ความหวังดีไปในสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงทุกหมู่เหล่า ทุกทิศทุกที่ ไม่มียกเว้นสัตว์ประเภทใดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากมาก กว่าจะถึงเมตตาฌาน เมื่อเป็นเช่นนี้ ในชีวิตประจำวัน ยังไม่มีเมตตาที่มีกำลังจนกระทั่งถึงเมตตาฌาน ก็ยังไม่สามารถแผ่ได้ และที่สำคัญ เมตตา ไม่ใช่เรื่องท่อง ไม่ได้อยู่ที่คำแผ่ แต่สามารถอบรมเจริญได้ในชีวิตประจำวัน โดยเป็นมิตร เป็นเพื่อนกับทุกคน มีความหวังดี ไม่หวังร้ายต่อผู้อื่น ครับ
ขอเชิญคลิกศึกษาจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ ครับ
อบรมเจริญเมตตาในชีวิตประจำวัน
เมตตาเป็นเพื่อนได้ทุกกรณี หวังดีตลอดกาล
ส่วนประเด็นการกรวดน้ำ ควรที่จะได้พิจารณาว่า สำคัญที่ความเข้าใจถูกเห็นถูก ไม่ใช่ไปทำอะไรตามๆ กัน ด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจ พระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของความเข้าใจ พระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เป็นไปเพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกตั้งแต่ต้นจนถึงที่สุดจริงๆ ไม่มีคำสอนที่ให้มีการไปทำ อะไรด้วยความไม่รู้ด้วยความไม่เข้าใจ เลยแม้แต่น้อย แต่ทรงแสดงพระธรรมไปตาม ความเป็นจริงของธรรม ซึ่งถ้าได้เข้าใจถูกเห็นถูกแล้ว จะเบาสบายด้วยความเข้าใจ ไม่หวั่นไหวไปกับเหตุการณ์หรือเรื่องต่างๆ ที่ไม่ทำให้เกิดความเข้าใจถูกเห็นถูกและความคิดที่ว่าถ้าไม่กระทำอย่างนั้นอย่างนี้แล้วจะไม่เป็นกุศล ก็จะไม่เกิดขึ้น เพราะได้ เข้าใจอย่างถูกต้องว่า ขณะใด เป็นกุศล ขณะใดไม่ใช่กุศล พร้อมกันนั้นเพราะได้เข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ก็สามารถน้อมประพฤติปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้องได้ และยังสามารถ อธิบายให้ผู้อื่นเข้าใจในเหตุในผลตามความเป็นจริงได้ด้วย
การเจริญกุศลประการต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ทั้งในเรื่องการให้ทาน รักษาศีล และการอบรมเจริญปัญญา เป็นความดีที่เกิดขึ้นในชีวิตประจำวัน เมื่อได้เจริญกุศลแล้ว ยังสามารถเจริญกุศลต่อได้อีกด้วยการอุทิศส่วนกุศล ให้ผู้อื่นได้เกิดกุศลจิตอนุโมทนา ซึ่งเป็นกุศลเจตนา ที่มุ่งจะให้ผู้ได้อนุโมทนา อย่างแท้จริง โดยไม่ต้องใช้วัตถุสิ่งของอะไรเลย นอกจาก สภาพจิตที่ดีงามเท่านั้น ซึ่งขณะที่อนุโมทนา ก็เป็นกุศลจิตของผู้ที่อนุโมทนาเอง เป็นไปตามการสะสมของแต่ละบุคคล เพราะบางคนก็ไม่อนุโมทนา ขณะที่ไม่อนุโมทนา ไม่ใช่กุศลเลย ครับ
ขอเชิญคลิกศึกษาจากคำบรรยายของท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ เพิ่มเติมได้ที่หัวข้อด้านล่างนี้ ครับ
ทำบุญกรวดน้ำจะถึงผู้รับไหม
... ยินดีในกุศลของคุณแคนดี้และทุกๆ ท่านด้วยครับ ...

