ปล่อยวางความเป็นเรา
ท่านอาจารย์ ทุกอย่างควรที่จะได้เข้าใจให้ชัดเจน ถ้ามีผู้ที่บอกว่าให้ปล่อยวาง ก็น่าจะถามว่าให้ปล่อยอะไร วางอะไร ไม่ใช่พอเขาบอกว่าให้ปล่อยวาง เราก็ตามเขาไปเลย ใช่ไหม พากันปล่อยวาง แต่ความจริงต้องถามว่าให้ปล่อยอะไร ให้วางอะไร หรือว่าจะให้ปล่อยวางอะไร จะมีคำตอบสำหรับผู้ที่บอกว่าให้ปล่อยวางไหม ยังไม่รู้เลยว่าจะให้ปล่อยอะไร วางอะไร แต่ปล่อยวางที่นี่หมายความถึง " ปล่อยวางความเป็นเรา " ด้วยความเห็นถูกเข้าใจถูก เพราะเหตุว่าทุกข์ทั้งหลายที่มีเพราะมีเรา ถ้าไม่มีเราเป็นแต่เพียงธรรมเท่านั้น จะเดือดร้อนไหม แล้วธรรมนั้นๆ ก็เกิดต้องเกิดตามเหตุตามปัจจัย ใครจะเลือก ใครจะบังคับให้ธรรมชนิดนี้ไม่เกิดกับตน ให้ไปเกิดกับคนอื่น ก็ไม่ได้ เพราะเหตุว่าธรรมเป็นธรรม เมื่อธรรมแต่ละอย่างเกิดแสดงว่ามีเหตุปัจจัยพร้อมที่จะให้เกิดเป็นอย่างนั้น จะให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย
เพราะฉะนั้นขอให้เข้าใจตามความเป็นจริงว่า ธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ เกิดเป็นอย่างนี้ไม่เป็นอย่างอื่น เพราะเหตุว่ามีปัจจัยที่จะเป็นอย่างนี้ ขณะนี้มีใครง่วงนอนไหม ถ้ามีเกิดแล้ว เป็นอย่างอื่นไม่ได้ต้องง่วง ขณะนี้มีใครรู้สึกเจ็บตรงไหน ไม่ให้เจ็บไม่ได้ เพราะว่ามีเหตุปัจจัยเกิดแล้วปรากฏแล้ว เพราะฉะนั้นการที่จะรู้จักธรรม ก็คือรู้จักเมื่อธรรมเกิด เกิดเป็นอย่างไร ต้องเข้าใจให้ถูกต้องว่าสิ่งนั้นคืออะไร และก็เกิดมาจากเหตุอะไร นั่นจึงจะสามารถที่จะปล่อยวางความเห็นผิด และการยึดถือธรรมว่าเป็นเรา เพราะเหตุว่าที่เราเดือดร้อนกันเพราะไม่รู้ว่าธรรมเป็นธรรม ธรรมที่เกิดทั้งหมดตั้งแต่เกิดจนตายถือว่าเป็นเราเกิด และก็เราตาย แต่ถ้ารู้จริงๆ ว่าเป็นธรรมทั้งหมดไม่มีเราเลย ก็เป็นเรื่องของสภาพธรรมที่มีเพราะความไม่รู้ ถ้ามีความรู้เพิ่มขึ้น ก็จะมีความเข้าใจ ซึ่งจะทำให้ค่อยๆ ละ ค่อยๆ วางความเป็นตัวตนจากสภาพธรรมนั้นๆ ได้ เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่ว่าปล่อยวางก็ปล่อยวาง แต่ไม่รู้ว่าปล่อยวางอะไร ต้องมีความเห็นความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย