เพราะปัญญาสามารถเข้าถึงความจริง

[เล่มที่ 75] พระอภิธรรมปิฎก ธรรมสังคณี เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 332 -333
ความหมายของคําว่า ปัญญินทรีย์
ปชานาตีติ ปฺา ธรรมที่ชื่อว่า ปัญญา เพราะอรรถว่าย่อมรู้ทั่ว. ถามว่า ย่อมรู้ทั่วซึ่งอะไร? ตอบว่า ย่อมรู้ทั่วซึ่งอริยสัจทั้งหลายโดยนัยมีคําว่า นี้ทุกข์ เป็นต้น แต่ในอรรถกถาท่านกล่าวว่า ชื่อว่า ปัญญา เพราะอรรถว่า ย่อมให้รู้ ถามว่า ย่อมให้รู้อะไร? ตอบว่า ย่อมให้รู้อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา.
[เล่มที่ 31] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้า 490
๓. ปัญญาสูตร
ว่าด้วยสัตว์ผู้มีปัญญาจักษุน้อย
[๑๗๕๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ฉันนั้นเหมือนกัน สัตว์ผู้ประกอบด้วยปัญญาจักษุ อันเป็นอริยะ มีประมาณน้อย โดยที่แท้ สัตว์ผู้ตกไปในอวิชชาเป็นผู้งมงาย มีมากกว่า ฯลฯ
จบปัญญาสูตรที่ ๓
[เล่มที่ 45] พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม ๑ ภาค ๔ - หน้าที่ 602
๘. กัลยาณสูตร
ว่าด้วยศีลงาม ธรรมงาม ปัญญางาม
[๒๗๗] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้มีศีล มีธรรมงาม มีปัญญางาม เรากล่าวว่า เป็นพระอรหันตขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ เป็นบุรุษผู้สูงสุดในธรรมวินัยนี้.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้มีศีลงามอย่างไร? ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมแล้วด้วยความสำรวมในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร มีปกติเห็นภัยในโทษมีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้มีศีลงามอย่างนี้แล ภิกษุเป็นผู้มีศีลงามด้วยประการดังนี้.
ภิกษุเป็นผู้มีธรรมงามอย่างไร? ภิกษุในธรรมวินัยนี้เป็นผู้ประกอบด้วยความเพียรในการเจริญโพธิปักขิยธรรม ๓๗ ประการเนืองๆ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้มีธรรมงามอย่างนี้แล ภิกษุเป็นผู้มีศีลงาม มีธรรมงามด้วยประการดังนี้.
ภิกษุเป็นผู้มีปัญญางามอย่างไร? ภิกษุในธรรมวินัยนี้ กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไปด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในปัจจุบันเข้าถึงอยู่ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุเป็นผู้มีปัญญางามอย่างนี้แล ภิกษุเป็นผู้มีศีลงาม มีธรรมงาม มีปัญญางาม ด้วยประการนี้ เรากล่าวว่า เป็นพระอรหันตขีณาสพ อยู่จบพรหมจรรย์ เป็นบุรุษสูงสุดในธรรมวินัยนี้.
อ.อรรณพ: ท่านอาจารย์ครับ เมื่อวานก็ได้กล่าวข้อความ ธรรมที่กระทำที่พึ่ง ข้อแรกครับ แล้วมีข้อความที่ท่านกล่าวว่า มีปกติเห็นภัยในโทษแม้เล็กน้อย แล้วก็มีคำว่า มีปกติ ด้วย ซึ่งท่านอาจารย์ก็กล่าวไว้ ถ้าไม่อบรมเจริญสตินี่ครับ ไม่มีทางที่จะเห็นภัยในโทษ กราบเท้าท่านอาจารย์ครับ
ท่านอาจารย์: เห็นไหม เดี๋ยวนี้ไม่ได้รู้สิ่งที่เกิดแล้ว ถูกต้องไหม?
อ.อรรณพ: ใช่ครับ
ท่านอาจารย์: ก็เป็นอย่างนี้ไปตลอดจนกว่าจะค่อยๆ เข้าใจ และปัญญาก็สามารถที่จะเห็นโลภะที่ละเอียด จึงสามารถที่จะละโลภะได้ เพราะปัญญาที่สามารถเข้าถึงความจริง ซึ่งก่อนนั้น เพราะอวิชชา โลภะก็เลยสบายไปด้วยกัน
อ.อรรณพ: โลภะก็สบายไป ด้วยโมหะที่ช่วยหุ้มห่อไม่ให้รู้ความจริง โลภะก็ติดสิ่งที่โมหะหุ้มห่อไว้
ท่านอาจารย์: เมื่อไม่รู้ว่า สิ่งนั้นไม่มีแล้ว โลภะก็ย่อมเกิดขึ้น
เพราะฉะนั้น ถ้าสามารถที่จะรู้จริงๆ นั่นแหละ เป็นการที่เรียกว่า โลภะเกิดไม่ได้เมื่อรู้ เห็นไหม? เพราะไม่รู้ความจริงเดี๋ยวนี้ที่เกิดแล้ว โลภะก็ไปกับโมหะทุกเรื่อง เพราะอะไร ที่ว่า โลภะไปแล้ว เพราะไม่รู้สิ่งที่เกิดแล้วเดี๋ยวนี้
อ.อรรณพ: เพราะไม่รู้สิ่งที่เกิดแล้วเดี๋ยวนี้ โลภะก็เลยคิดในสิ่งที่จริงๆ แล้วเกิดดับ แต่เพราะไม่รู้ว่า เกิดดับ โลภะก็เลยนึกเลย ติดอยู่อย่างนั้นๆ ติดอยู่อย่างนี้
ท่านอาจารย์พูดว่า แสนกัปป์ นี่ยังน้อยไป
ท่านอาจารย์: จึงเป็นผู้ตรงที่จะเห็นว่า ขณะนี้ธรรมไม่ได้เปิดเผยให้รู้ ถ้าไม่ใช่ปัญญาที่ค่อยๆ เข้าใจตรงนั้นทีละหนึ่งลักษณะ ก็ถูกปิดบังไปเรื่อยๆ
อ.อรรณพ: กราบเท้าขอบพระคุณท่านอาจารย์เป็นอย่างยิ่ง ที่ผมกราบเรียน ท่านอาจารย์ก็อนุเคราะห์ให้คำตอบที่ยิ่งกว่าคำตอบทั้งหลายหมดเลยที่ว่า ผมก็ปรารถถึงโลภะที่มากมายซับซ้อนซ่อนเงื่อน แยบยลเหลือเกิน โลภะอยากได้เมตตา รู้ว่าโลภะเป็นศัตรูใกล้ของเมตตา ก็มีโลภะที่อยากไม่มีโลภะอีก อยากจะมีเมตตาเยอะๆ อะไรสารพัด
ท่านอาจารย์ก็กล่าวถึงตรงจุดมากเลยว่า โลภะ เพราะไม่รู้ความจริงของสิ่งที่ปรากฏ โลภะก็เลยติดในสิ่งที่ปรากฏเพราะไม่รู้ความจริง จึงไม่ปรากฏดีเสียที เพราะปรากฏกับโลภะ ซึ่งมาพร้อมโมหะ ซึ่งครอบคลุมไว้ปิดไว้ไม่ให้รู้ความจริง โลภะก็เลยติดสิ่งที่โมหะคลุมไว้ไม่ให้เข้าใจ เป็นอย่างนี้
ท่านอาจารย์ก็บอก ปัญญาที่รู้ตรงสิ่งที่กำลังมีขณะนี้จริงๆ ยิ่งเห็นคุณค่าของปัญญาเลยว่า ฟังธรรมก็เพื่อปัญญาจะเกิดขึ้นรู้สิ่งที่กำลังมีเดี๋ยวนี้ เป็นหนทางเดียวที่จะทำลาย โลภะ ในเวลาอีกยาวไกล ไพเราะเพราะเป็นประโยชน์เกื้อกูลที่สุดครับ
ขอเชิญอ่านได้ที่ ...
ปัญญาย่อมทําอริยสัจจะทั้งหลายให้ปรากฏ [ธรรมสังคณี]
ความต้องการ และอวิชชามีมาก [ปัญญาสูตร]
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่งค่ะ
กราบยินดีในกุศลจิตของ อ.อรรณพ ด้วยความเคารพค่ะ


