เมื่อเห็นพระบรมสารีริกธาตุ ไม่ใช่เพียงกราบไหว้ แต่ต้องเข้าใจธรรม

 
เมตตา
วันที่  8 ต.ค. 2565
หมายเลข  44538
อ่าน  457

เมื่อเห็นพระบรมสารีริกธาตุ คิดถึงพระธรรมอันลึกซึ้ง ก็ค่อยๆ เห็นคุณอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงบำเพ็ญพระบารมีนานแสนนานถึง ๔ อสงไขย แสนกัปป์ ที่จะตรัสรู้ความจริงของสิ่งทั้งปวงที่มีจริงๆ ไม่มีส่วนเหลือ ทรงแสดงธรรมตลอด ๔๕ พรรษาเพื่อเกื้อกูลให้ผู้ฟังได้เข้าใจถึงธรรมที่ทรงตรัสรู้ ธรรมที่ละเอียดลึกซึ้งอย่างยิ่ง เพราะธรรมกำลังปรากฏอยู่ต่อหน้า ธรรมกำลังเกิดดับอยู่ต่อหน้า ก็ยากที่จะรู้ได้ ทรงแสดงให้เห็นถึงความลึกซึ้งอย่างยิ่งของธรรม ให้มีธรรมเป็นเกาะมีธรรมเป็นที่พึ่ง ความเข้าใจธรรมเท่านั้นที่ผู้ประพฤติปฏิบัติตามธรรม ย่อมสามารถพ้นจากทุกข์ได้ เพราะฉะนั้น การระลึกถึงคุณอันยิ่งใหญ่นี้ ไม่ใช่เพียงกราบไหว้ด้วยดอกไม้ของหอม แต่ด้วยการเข้าใจธรรมและประพฤติปฏิบัติตามเพื่อขัดเกลากิเลส

[เล่มที่ 13] พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ 307

ข้อความบางตอนจาก

มหาปรินิพพานสูตร

ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะท่านพระอานนท์ว่าดูก่อนอานนท์ ไม้สาละทั้งคู่ เผล็ดดอกบานสะพรั่งนอกฤดูกาล ร่วงหล่นโปรยปรายลงยังพระสรีระของพระตถาคตเพื่อบูชาพระตถาคต. แม้ดอกมณฑารพอันเป็นของทิพย์

แม้จุณแห่งจันทน์อันเป็นของทิพย์ แม้ดนตรีอันเป็นทิพย์เล่า แม้สังคีตอันเป็นทิพย์ ย่อมเป็นไปในอากาศ เพื่อบูชาพระตถาคต

ดูก่อนอานนท์ พระตถาคตจะชื่อว่าอันบริษัทสักการะ เคารพ นับถือ บูชานอบน้อมด้วยเครื่องสักการะประมาณเท่านี้หามิได้ ผู้ใดแลจะเป็นภิกษุ ภิกษุณี อุบาสก หรืออุบาสิกา ก็ตาม เป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ พระพฤติตามธรรมอยู่ ผู้นั้นย่อมชื่อว่าสักการะ เคารพ นับถือ บูชา ด้วยการบูชาอย่างยิ่ง เพราะเหตุนั้นแหละ อานนท์ พวกเธอพึงสำเหนียกอย่างนี้ว่า เราจักเป็นผู้ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรมอยู่

การบูชาด้วยดอกไม้ เครื่องบูชาต่างๆ ไม่สามารถจะดำรงพระศาสนาไว้ได้ แต่การเข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ แล้วน้อมประพฤติปฏิบัติตามธรรมที่ทรงแสดงเท่านั้น ที่จะดำรงพระศาสนาไว้ได้

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑- หน้าที่ 421

ท่านอธิบายไว้อย่างนี้ว่า ดูก่อนอานนท์ เราตถาคตหมอบอยู่แทบบาท มูลของพระพุทธเจ้าพระนามว่าทีปังกร ประชุมธรรม ๘ ประการ เมื่อจะ กระทำอภินิหาร มิใช่กระทำอภินิหาร เพื่อประโยชน์แก่พวงมาลัยของหอม และดุริยางค์สังคีต มิใช่บำเพ็ญบารมีทั้งหลาย เพื่อประโยชน์แก่สิ่งเหล่านั้น เพราะฉะนั้น เราตถาคตไม่ชื่อว่า เขาบูชาแล้วด้วยการบูชาอันนี้เลย.

ถามว่า ก็เพราะเหตุไร พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสรรเสริญวิบาก ที่แม้ พระพุทธญาณก็กำหนดไม่ได้ของการบูชา ที่บุคคลถือเพียงดอกฝ้ายดอกเดียว ระลึกถึงพระพุทธคุณบูชาแล้วไว้ในที่อื่น ในที่นี้กลับทรงคัดค้านการบูชาใหญ่ อย่างนี้. ตอบว่า เพราะเพื่อจะทรงอนุเคราะห์บริษัทอย่างหนึ่ง เพื่อประสงค์ จะให้พระศาสนาดำรงยั่งยืนอย่างหนึ่ง.

จริงอยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้า ไม่พึงคัดค้านอย่างนั้นไซร้ ต่อไปใน อนาคต พุทธบริษัทก็ไม่ต้องบำเพ็ญศีลในฐานะที่ศีลมาถึง จักไม่ให้สมาธิ บริบูรณ์ในฐานะที่สมาธิมาถึง ไม่ให้ถือห้องคือวิปัสสนาในฐานะที่วิปัสสนา มาถึง ชักชวนแล้วชักชวนอีก ซึ่งอุปัฏฐากกระทำการบูชาอย่างเดียวอยู่. จริงอยู่ชื่อว่าอามิสบูชานั้น ไม่สามารถจะดำรงพระศาสนาแม้ในวันหนึ่งบ้าง แม้ชั่วดื่ม ข้าวยาคูครั้งหนึ่งบ้าง. จริงอยู่ วิหารพันแห่งเช่นมหาวิหาร เจดีย์พันเจดีย์ เช่น มหาเจดีย์ ก็ดำรงพระศาสนาไว้ไม่ได้. บุญูผู้ใด ทำไว้ก็เป็นของผู้นั้นผู้เดียว. ส่วนสัมมาปฏิบัติ ชื่อว่าเป็นบูชาที่สมควรแก่พระตถาคต. เป็นความจริงปฏิบัติ บูชานั้นชื่อว่าดำรงอยู่แล้ว สามารถดำรงพระศาสนาไว้ได้ด้วย เพราะฉะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเมื่อจะทรงแสดงปฏิบัติบูชานั้น จึงตรัสว่า โย โข อานนฺท เป็นต้น

ขอเขิญอ่านเพิ่มได้ที่ ...

การมีธรรมเป็นเกาะเป็นที่พึ่งคือการเจริญสติปัฏฐาน

พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ -หน้าที่ 346

เรื่องปุโรหิตชื่ออัคคิทัต

"มนุษย์เป็นอันมาก ถูกภัยคุกคามแล้ว ย่อมถึงภูเขา ป่า อาราม และรุกขเจดีย์ว่าเป็นที่พึ่ง; สรณะนั่นแลไม่เกษม, สรณะนั่นไม่อุดม, เพราะ บุคคลอาศัยสรณะนั่น ย่อมไม่พ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้. ส่วนบุคคลใดถึงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่ง ย่อมเห็นอริยสัจ ๔ (คือ) ทุกข์ เหตุให้เกิดทุกข์ ความก้าวล่วงทุกข์ และมรรคมีองค์ ๘ อันประเสริฐ ซึ่งยังสัตว์ให้ถึงความสงบแห่งทุกข์ ด้วยปัญญาชอบ; สรณะนั่นแลของบุคคลนั้นเกษม, สรณะนั่นอุดม, เพราะบุคคลอาศัย สรณะนั่น ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้"

ขอเชิญคลิกฟังได้ที่ ...

ศึกษาแล้วน้อมปฏิบัติตาม

จริงใจในการเผยแพร่พระธรรม

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่งค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
muda muda
วันที่ 8 ต.ค. 2565

พระพุทธเจ้าท่านทรงอธิษฐานพระธาตุให้กระจาย ว่า "เราอยู่ได้ไม่นานก็จะปรินิพพาน ศาสนาของเรายังไม่แพร่หลายไปในที่ทั้งปวงก่อน เพราะฉะนั้นเมื่อเราแม้ปรินิพพานแล้วมหาชนถือเอาพระธาตุแม้ขนาดเท่าเมล็ดพันธุ์ผักกาดทำเจดีย์ในที่อยู่ของตนๆ ปรนนิบัติจงมีสวรรค์เป็นที่ไป "เกิดความปิติมากขนลุกความปิตินี้ ต้องบอกต่อ เพื่อให้คนอื่นได้ร่วมอนุโมทนาด้วย และ อ่านดังๆ ให้เทวดาและอมนุษย์ทั้งหลายได้ร่วมอนุโมทนาด้วย เพราะไม่ใช่ใครจะ ได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน ได้ปิติ ได้ขนลุก ได้ไปสวรรค์ แบบนี้ นอกจากผู้ที่ได้เคยสะสมบุพเพกตปุญญตามา กราอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
chatchai.k
วันที่ 8 ต.ค. 2565

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
เข้าใจ
วันที่ 9 ต.ค. 2565

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
มังกรทอง
วันที่ 15 ต.ค. 2565

ธรรมะคือสิ่งที่มีจริง มั่นคงในธรรมพึงฟังแล้วฟังอีก จนเข้าใจในธรรม เกิดขึ้นได้ย่อมมีเหตุ และไม่ใช่เรา ขอน้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ