แค่ตามดูจิต ไปถึงสภาวะ นิพพาน ได้หรือครับ

 
เจริญในธรรม
วันที่  21 ส.ค. 2565
หมายเลข  43513
อ่าน  405

มีผู้แนะนำท่านนึง ท่านแนะนำให้ไปปฏิบัติที่สำนักนึง ไม่ขอเอ่ยชื่อ

ท่านบอกว่า ที่นี่สอน ให้ตามดูจิต หากเจอสภาวะที่ว่างเปล่า

ให้ดูสภาวะนี้ และให้คงสภาวะนี้ให้เคยชิน สม่ำเสมอ และตามดูสวะนี้ให้เกิดบ่อยๆ

เพราะสภาวะนี้ คือนิพพาน แล้วเมื่อไม่มีสภาวะอื่นๆ เช่นไม่มีพอใจ ไม่พอใจ ไม่โกรธ ไม่ยินดี และหลายๆ สภาวะเกิดขึ้นอีกเลย มีแต่สภาสะนี้สภาสะเดียว ก็จะ นิพพาน

ในปัจุบัน ท่านว่าอย่างนี้ เป็นวิธีที่ง่ายๆ ลัดตรงในการดูจิต ไปนิพพาน เป็นวิธีของหลวงปู่ดุล สายหลวงปู่มั่น ที่ใครๆ บอกเป็นอรหันต์

ซึ่งท่านบอกว่าเป็นวิธีขิงพระพุทธเจ้า แต่สาวกในประเทศไทยมาสอนกันแบบยากๆ ใช้ความเพียร

ข้อมูลดังกล่าวจริงเท็จประการใด หรือ การฝึกปฏิบัติไป นิพพาน ต้องวิธิยากๆ เท่านั้น หรือจะไป นิพพาน ต้องสั่งสมบุญบารมีไปอีกแสนชาติ

ขอความเมตตาจากผู้รู้ธรรม ด้วยครับ ขอบคุณมากๆ ครับ

#ผู้ต้องการปฏิบัติเพื่อ มรรค ผล นิพพาน


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
khampan.a
วันที่ 22 ส.ค. 2565

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ธรรม เป็นเรื่องที่ละเอียดลึกซึ้งเป็นอย่างยิ่ง ถ้าไม่เริ่มต้นที่การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรม ย่อมไม่มีทางที่จะเข้าใจได้เลย และที่สำคัญ ธรรม เป็นสิ่งที่มีจริงแต่ละอย่างๆ ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามเหตุตามปัจจัย ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น กล่าวได้ว่าชีวิตประจำวันเป็นธรรม มีธรรมเกิดขึ้นเป็นไปอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยปราศจากธรรมเลย แม้แต่ จิตมีจริงๆ ถ้าไม่ได้ฟังพระธรรมก็จะไม่มีความเข้าใจถูกก็ได้แต่พูดคำว่า จิต โดยที่ไม่รู้ว่า จิต คืออะไร จิตเป็นสภาพธรรมที่มีจริงๆ เป็นใหญ่เป็นประธานในการรู้แจ้งอารมณ์

ดังนั้น ไม่เคยขาดธรรมแล้ว แต่ที่ขาด คือ ความเข้าใจถูกเห็นถูก ซึ่งเป็นธรรมอีกอย่างหนึ่ง เป็นธรรมฝ่ายดี ที่เกิดขึ้นทำกิจเข้าใจถูกเห็นถูกตามความเป็นจริงของธรรม เมื่อไม่มีความเข้าใจถูกเห็นถูกแล้ว ก็จะทำให้มีการประพฤติที่ผิด มีการไปทำอะไรด้วยความเป็นตัวตนจดจ้องต้องการ โดยที่ไม่รู้เลยว่า นั่นเป็นความติดข้องต้องการที่ทำให้มีการกระทำที่ผิดปกติอย่างนั้น เมื่อเพ่งดูจิตด้วยความไม่รู้ นั่น คือไปทำสิ่งที่ผิด ย่อมมีแต่ทำให้ความเห็นผิดและความไม่รู้เพิ่มมากขึ้น ไม่มีทางถึงพระนิพพานได้เลย

จึงขอให้เริ่มต้นที่การฟังพระธรรมให้เข้าใจ ฟังในเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ ว่า สิ่งที่มีจริง ที่ควรฟังควรศึกษาให้เข้าใจนั้น คือ อะไร ซึ่งก็ไม่พ้นไปจากสภาพธรรมที่มีจริงในขณะนี้ เลย เมื่อมีความเข้าใจในเรื่องของสภาพธรรมที่มีจริง จากการได้ฟังได้ศึกษาในสิ่งที่มีจริงบ่อยๆ เนืองๆ ก็ย่อมจะเป็นเหตุให้สติเกิดขึ้นระลึกตรงลักษณะของสภาพธรรมและปัญญารู้ตามความเป็นจริงได้ โดยไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครทั้งสิ้น เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยจริงๆ ครับ.

...ยินดีในความดีของทุกๆ ท่านครับ..

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Selaruck
วันที่ 22 ส.ค. 2565

แม้พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ายังตรัสด้วยพระองค์เองว่า ธรรมะลึกซึ้ง ละเอียด ยากที่จะรู้ได้

แล้วท่านผู้นั้นหรือใครอื่น เป็นใคร ที่กล้ามาบอกว่ามีวิธีง่ายๆ ลัดตรงดูจิตไปนิพพาน เป็นเรื่องของคนที่ไม่รู้และเห็นผิดอย่างมหาศาล แล้วยังมาบอกให้คนอื่นให้ประพฤติตาม เป็นบาปมากค่ะ จิตเกิดดับแสนโกฏขณะเพียงชั่วลัดนิ้วมือ แล้วใครอาจหาญจะไปตามดูจิตได้

เรา ผู้ที่คิดว่าตัวเองเป็นพุทธศาสนิกชน ควรศึกษาพระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าที่แท้จริง จากท่านผู้เคารพในพระธรรมในแต่ละคำอย่างสูงสุด ซึ่งในปัจจุบันจะหาใครเทียบท่านไม่ได้ คือท่านอาจารย์สุจินต์บริหารวนเขตต์

เมื่อได้ศึกษาแล้วจะทำให้เราค่อยๆ สว่างจากความมืดทั้งมวล แม้จะยังไม่ประจักษ์ในสภาพธรรมแต่ละสภาพๆ แต่ที่แน่นอนจะทำให้เราทราบได้ว่าใครกล่าวคำจริงที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ดีแล้ว หรือใครกล่าวคำไม่จริง

ขอท่านผู้ถามศึกษาในหนังสือปรมัตถธรรมสังเขป และฟังแนวทางการเจริญวิปัสนา ของท่านอาจารย์สุจินต์บริหารวนเขตต์ นะคะ แล้วท่านจะได้คำตอบในทุกคำถามค่ะ

ขออนุโมทนาในกุศลจิตทุกประการค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Selaruck
วันที่ 22 ส.ค. 2565

กราบขอบคุณและอนุโมทนาอาจารย์คำปั่นในคำอธิบายที่ชัดแจ้งยิ่งค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
chatchai.k
วันที่ 22 ส.ค. 2565

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ