มิตรแท้คือผู้ที่หวังดี พร้อมทำประโยชน์เกื้อกูลทุกสถาน ทั้งต่อหน้าและลับหลัง และทั้งกาย วาจา และใจ

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  17 พ.ค. 2565
หมายเลข  43118
อ่าน  921

"มิตรแท้คือผู้ที่หวังดี"


คัดจาก พื้นฐานพระอภิธรรม แผ่นที่ ๑๑ (ครั้งที่ 601-660) พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 604

สนทนาธรรม ที่ มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

วันอาทิตย์ที่ ๒๙ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๒


ส. อันนี้จะนำไปสู่การตอบปัญหาของคุณพิสิษฐ์ แต่ควรได้ตามข้อความที่เราได้ฟังจากพระไตรปิฎก เพราะควรเข้าใจทุกคำจริงๆ ชัดเจน มั่นคง ไม่อย่างนั้นไปพบคำอื่นอีกก็ไม่เข้าใจอีก เพราะมีคำว่า “มิตร” อีกหลายแห่ง

เพราะฉะนั้น ก่อนอื่นต้องทราบว่า มิตรไม่ใช่ศัตรูแน่ มิตรตรงกันข้ามกับศัตรู "มิตรคือผู้ที่หวังดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ทั้งกาย วาจา ใจ ไม่คิดร้ายต่อเพื่อน"

เพราะฉะนั้น หายากหรือหาง่าย?

เห็นกัน เดี๋ยวก็โกรธกัน มิตรหรือเปล่าคะขณะที่โกรธ?

พิศิษฐ์ ไม่ใช่ครับ

ส. มิตรแท้คือผู้ที่หวังดี พร้อมทำประโยชน์เกื้อกูลทุกสถานทั้งต่อหน้าและลับหลัง และทั้งกาย ทั้งวาจา ทั้งใจ นั่นคือมิตรผู้ที่หวังดี ในสังสารวัฏก็คงจะมีทั้งมิตรและศัตรูแน่นอน แม้ในปัจจุบันชาตินี้หรือชาติต่อๆ ไป ก็จะมีทั้งคนที่หวังดีและหวังร้าย ถ้าเป็นศัตรูก็ตรงกันข้ามทุกประการ ทั้งกาย วาจา ก็เป็นไปในทางทำลายและทำร้าย นั่นคือศัตรู

เพราะฉะนั้น ก็แสดงให้เห็นว่า ถ้าสามารถเข้าใจพระธรรมจริงๆ ด้วยปัญญาที่มีความเห็นที่ถูกต้อง ก็จะรู้ตั้งแต่ต้นว่า ใครเป็นมิตรและใครไม่เป็นมิตร ก่อนจะพูดถึงเรื่องปัญญาเกิดและสะสมอยู่ที่ไหน ก็ต้องเข้าใจว่า การฟังพระธรรมแม้ในเรื่องธรรมดามาก แต่พระผู้มีพระภาคก็ทรงแสดงความลึกซึ้งชองธรรมะทั้งหมดที่ทรงแสดง

ด้วยเหตุนี้เมื่อเข้าใจคำว่า “มิตร” ก็พอจะรู้ว่า ใครเป็นมิตรบ้าง เวลาไหน กำลังโกรธเป็นมิตรไหมคะ อย่างไรๆ ยังขุ่นเคืองใจ ไม่พอใจที่ยังไม่ได้ดับ ก็ยังไม่พอใจ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนสนิทคุ้นเคยกันมานาน หรือวงศาคณาญาติก็ยังมีกาละที่โกรธ ขณะนั้นเป็นมิตรหรือเปล่า

พิศิษฐ์ ไม่เป็นครับ

ส. เพราะฉะนั้น สั้นมาก ชั่วขณะตามสภาพธรรมะที่มีปัจจัยเกิดขึ้นเป็นไปทุกอย่าง

นี่แสดงให้เห็นว่า กว่าจะเข้าถึงคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจริงๆ ซึ่งเป็นเรื่องของธรรมะ แม้ว่าจะทรงแสดงเรื่องใดก็ตาม ก็จะต้องหมายความถึงสิ่งที่พระองค์ได้ตรัสรู้ตามความเป็นจริง

เพราะฉะนั้น ในพระสูตรนี้ มิตรก็หายากแล้ว หรือหาง่าย? ตามกาลด้วย ตามสถานการณ์ด้วย แต่ยังทรงแสดงถึงกัลยาณมิตรเพิ่มขึ้นมาอีก กัลยาณมิตรจะต่างกับมิตรไหมคะ

พิศิษฐ์ ต่างครับ

ส. ต้องต่างแน่ เพราะมิตรก็อาจจะช่วยในสังสารวัฏ ไม่ว่าในเรื่องการงาน ในธุรกิจ ในความเป็นอยู่ แต่กัลยาณมิตรต้องเหนือกว่ามิตร เพราะสามารถให้สิ่งที่มิตรให้ไม่ได้ มิตรที่ให้กันมาแล้วในสังสารวัฏ ก็ให้ความสะดวกสบาย ให้การอุปการะ ให้ประโยชน์ แต่กัลยาณมิตรเป็นมิตรที่งามเหนือกว่ามิตรธรรมดา ให้สิ่งที่คนอื่นให้ไม่ได้ คือ ปัญญา มีมิตรที่ให้ปัญญาเมื่อไร เมื่อนั้นรู้ว่า บุคคลนั้นเป็นกัลยาณมิตร สูงสุดคือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าไม่มีการตรัสรู้ของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ถ้าพระองค์ไม่ทรงแสดงพระธรรม มีใครจะได้ยินได้ฟังสิ่งที่ไม่สามารถคิดเองและเข้าใจเองได้ แม้ว่าขณะนี้ก็กำลังมีอยู่ ตั้งแต่เกิดจนตาย แต่ก็ไม่สามารถรู้ความจริงนั้นได้เลย

ด้วยเหตุนี้กัลยาณมิตรก็เหนือกว่ามิตรธรรมดา สูงสุดคือพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า นอกจากให้ปัญญาก็ยังให้ทุกสิ่งทุกอย่างด้วย เพราะเหตุว่าเมื่อมีปัญญาเกิดขึ้น ปัญญาเป็นสภาพที่เห็นถูกต้องตามความเป็นจริงของสภาพธรรมะ

เพราะฉะนั้น เวลาที่มีปัญญา ความเห็นถูก ความคิดต่างๆ จะถูกไหมคะ

พิศิษฐ์ ถูกต้องครับ

ส. ตามปัญญา วันหนึ่งๆ ทุกคนคิดมาก แต่ไม่รู้เลยว่า ที่คิดนั้นเป็นความคิดที่ดีหรือไม่ดี แต่คิดแล้ว แต่ใครจะบอกให้รู้ว่า เมื่อมีปัญญา มีความเห็นถูกต้องแล้ว ความคิดก่อนๆ ซึ่งเคยคิดไปในทางไม่ดี ในทางเบียดเบียน ในทางติดข้อง ในทางเอาเปรียบ ในทางขาดเมตตา นานาประการในความคิดเหล่านั้นก็จะค่อยๆ เปลี่ยน ค่อยๆ คลาย ค่อยๆ ลด แล้วเพิ่มทางฝ่ายกุศลขึ้นได้

ด้วยเหตุนี้การฟังพระธรรมไม่ผิวเผิน ถ้าเผินก็คือไม่ได้สาระจริงๆ ได้เพียงชื่อ เพียงคำ เช่น สามารถบอกได้ว่า มิตรเป็นอย่างไร และกัลยาณมิตรเป็นอย่างไร แต่ถ้าเข้าใจมั่นคงจริงๆ ก็สามารถทำให้กุศลทั้งหลายเจริญขึ้นมากกว่าที่เคยเป็น ที่เคยเข้าใจธรรมะผิวเผิน...

..ด้วยเหตุนี้ จะฟังเพียงกัลยาณมิตรธรรมดา หรือกัลยาณมิตรผู้สูงสุด เลิศประเสริฐกว่าบุคคลใดทั้งสิ้น ซึ่งเป็นโอกาสจะได้ยินได้ฟัง เพราะมีพระไตรปิฎกและมีการศึกษาธรรมะ แต่ต้องละเอียดจริงๆ แม้แต่ในขณะที่ฟัง..."


ฟัง "เสียงบันทึกการสนทนาทั้งหมดในครั้งนี้" โปรดคลิกที่ลิงก์นี้ : พื้นฐานพระอภิธรรม แผ่นที่ ๑๑ (ครั้งที่ 601-660) พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 604


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 17 พ.ค. 2565

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Sea
วันที่ 17 พ.ค. 2565

กราบขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
Sottipa
วันที่ 17 พ.ค. 2565

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
เมตตา
วันที่ 17 พ.ค. 2565

กราบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ด้วยความเคารพยิ่ง และกราบยินดีในความดีทุกท่านค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 17 พ.ค. 2565

กราบอนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
napachant
วันที่ 17 พ.ค. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
Selaruck
วันที่ 18 พ.ค. 2565

กราบเท้าบูชาพระคุณท่านอาจารย์สุจินต์บริหารวนเขตต์ที่เคารพยิ่ง ท่านผู้เป็นกัลยามิตรที่แท้จริงในยุคนี้

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ