พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๒. เขมสูตร

 
บ้านธัมมะ
วันที่  29 ส.ค. 2564
หมายเลข  36265
อ่าน  369

[เล่มที่ 24] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 367

๒. เขมสูตร


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 24]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 367

๒. เขมสูตร

[๒๘๑] เขมเทพบุตร ครั้นยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ในสำนักพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า

คนพาลผู้มีปัญญาทราม ย่อมประพฤติกับตัวเองดังศัตรู ย่อมทำกรรมชั่วที่มีผลเผ็ดร้อน บุคคลทำกรรมใดแล้ว ย่อมเดือดร้อนภายหลัง มีหน้านองด้วยน้ำตาร้องไห้อยู่ เสวยผลแห่งกรรมใด กรรมนั้นทำแล้วไม่ดีเลย บุคคลทำกรรมใดแล้วไม่เดือดร้อนในภายหลัง มีหัวใจแช่มชื่นเบิกบานเสวยผลแห่งกรรมใด กรรมนั้นทำแล้วเป็นการดี บุคคลรู้กรรมใดว่าเป็นประโยชน์แก่ตน ควรลงมือกระทำกรรมนั้นก่อนทีเดียว อย่าพยายามเป็นนักปราชญ์เจ้าความรู้ ด้วยความคิดอย่างพ่อค้าเกวียน พ่อค้าเกวียนละหนทางสายใหญ่ที่เรียบเสีย

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 31 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 368

ไปทางไม่เรียบ เพลาเกวียนก็หักสะบั้น ต้องซบเซา ฉันใด บุคคลออกนอกธรรม หันไปประพฤติตามอธรรม ก็ฉันนั้น เป็นคนเขลาเบาปัญญา ดำเนินไปทางมฤตยู ต้องซบเซาอยู่ เหมือนพ่อค้าเกวียนมีเพลาเกวียนหัก ฉะนั้น.

อรรถกถาเขมสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในเขมสูตรที่ ๒ ต่อไป :-

บทว่า ปฏิกจฺเจว แปลว่า ก่อนทีเดียว.

บทว่า อกฺขจฺฉินฺโนว ฌายติ ความว่า พ่อค้าเกวียน มีเพลาเกวียนหักเสียแล้ว ย่อมซบเซา คือ ต้องใช้ความคิดมาก.

ในคาถาที่ ๒. บทว่า อกฺขจฺฉินฺโนว แปลว่า เหมือนพ่อค้าเกวียนมีเพลาเกวียนหักเสียแล้ว.

จบอรรถกถาเขมสูตรที่ ๒