พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๑๐. โลกสูตร

 
บ้านธัมมะ
วันที่  28 ส.ค. 2564
หมายเลข  36231
อ่าน  345

[เล่มที่ 24] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 294

๑๐. โลกสูตร


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 24]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 30 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 294

๑๐. โลกสูตร

[๑๙๖] เทวดาทูลถามว่า

เมื่ออะไรเกิดขึ้น โลกจึงเกิดขึ้น โลกย่อมชมเชยในอะไร โลกยึดถือซึ่งอะไร โลกย่อมเดือดร้อนเพราะอะไร.

[๑๙๗] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า

เมื่ออายตนะ ๖ เกิดขึ้น โลกจึงเกิดขึ้น โลกย่อมทำความชมเชยในอายตนะ ๖ โลกยึดถืออายตนะ ๖ นั่นแหละ โลกย่อมเดือดร้อนเพราะอายตนะ ๖

จบโลกสูตร

จบอันธวรรคที่ ๗

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 30 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 295

อรรถกถาโลกสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในโลกสูตรที่ ๑๐ ต่อไป :-

ในคำว่า กิสฺมิํ โลโก สมุปฺปนฺโน นี้เทวดาทูลถามว่า เมื่ออะไรเกิดขึ้น โลกจึงเกิดขึ้น.

บทว่า ฉสุ นี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า เมื่ออายตนะภายใน ๖ เกิดขึ้น โลกจึงเกิดขึ้น.

บทว่า ฉสุ กุพฺพติ ได้แก่ ย่อมทำความชมเชยในอายตนะ ๖ เหล่านั้นนั่นแหละ.

บทว่า อุปาทาย อธิบายว่า ก็โลกยึดถือ คือ อาศัยแล้ว เกี่ยวเนื่องแล้วซึ่งอายตนะเหล่านั้นนั่นแหละเป็นไป.

บทว่า วิหญฺติ แปลว่า ย่อมเดือดร้อน คือ ย่อมบีบคั้น ในเพราะอายตนะ ๖ เหล่านั้นนั่นเอง อธิบายว่า ปัญหานี้มาด้วยสามารถแห่งอายตนะอันเป็นภายในด้วยประการฉะนี้ ส่วนการนำมาด้วยสามารถแห่งอายตนะทั้งภายในและภายนอก ก็ย่อมสมควร. เพราะว่า เมื่ออายตนะภายใน ๖ เกิดขึ้นแล้ว อายตนะภายนอกนี้ก็ชื่อว่าเกิดขึ้นแล้ว.

ดังนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้า จึงตรัสว่าโลกย่อมทำความชมเชยในอายตนะภายนอก ๖ โลกยึดถืออายตนะภายใน ๖ โลกย่อมเดือดร้อน ในเพราะอายตนะภายนอก ๖ ดังนี้.

จบอรรถกถาโลกสูตรที่ ๑๐

จบอันธวรรคที่ ๗

สูตรที่กล่าวในอันธวรรคนั้น คือ

๑. นามสูตร

๒. จิตตสูตร

๓. ตัณหาสูตร

๔. สัญโญชนสูตร

๕. พันธนสูตร

๖. อัพภาหตสูตร

๗. อุฑฑิตสูตร

๘. ปิหิตสูตร

๙. อิจฉาสูตร

๑๐. โลกสูตร

พร้อมทั้งอรรถกถา.