พระไตรปิฎกและอรรถกถาแปล ฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย

๘. หิริสูตร ว่าด้วยเกียดกันอกุศลด้วยหิริ

 
บ้านธัมมะ
วันที่  28 ส.ค. 2564
หมายเลข  36179
อ่าน  413

[เล่มที่ 24] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 95

๘. หิริสูตร

ว่าด้วยเกียดกันอกุศลด้วยหิริ


อ่านหัวข้ออื่นๆ ... [เล่มที่ 24]


  ข้อความที่ 1  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 30 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 95

๘. หิริสูตร

ว่าด้วยเกียดกันอกุศลด้วยหิริ

[๓๘] เทวดากล่าวว่า

บุรุษที่เกียดกันอกุศลธรรมด้วยหิริได้มีอยู่น้อยคนในโลก ภิกษุใดบรรเทาความหลับเหมือนม้าดีหลบแซ่ ภิกษุนั้นมีอยู่น้อยรูปในโลก.

[๓๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

ขีณาสวภิกษุพวกใด เป็นผู้เกียดกันอกุศลธรรมด้วยหิริ มีสติประพฤติอยู่ในกาลทั้งปวง ขีณาสวภิกษุพวกนั้น บรรลุนิพพานเป็นส่วนสุดแห่งทุกข์แล้ว ย่อมประพฤติเรียบร้อย ในบุคคลผู้ไม่เรียบร้อย.

 
  ข้อความที่ 2  
 
บ้านธัมมะ
วันที่ 30 ม.ค. 2565

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้า 96

อรรถกถาหิริสูตร

พึงทราบวินิจฉัยในหิริสูตรที่ ๘ ต่อไป :-

ชนใดย่อมเกียดกันอกุศลธรรมทั้งหลายด้วยหิริ เพราะเหตุนั้น ชนนั้นจึงชื่อว่าผู้เกียดกันอกุศลธรรมด้วยหิริ.

บทว่า โกจิ โลกสฺมิํ วิชฺชติ นี้ เทวดาทูลถามว่า ใครๆ เห็นปานนี้ยังมีอยู่หรือ.

บทว่า โย นินฺทํ อปโพเธติ แปลว่า บุคคลใดเมื่อนำความครหา (ความชั่ว) ออกย่อมรู้.

บทว่า อสฺโส ภโทฺร กสามิว อธิบายว่า ม้าอาชาไนยตัวเจริญ เมื่อสารถีนำแซ่ออกย่อมรู้ ย่อมไม่ให้แซ่ตกไปในตน เพราะเห็นเงาแห่งปฏักเป็นราวกะแทงอยู่ ฉันใด ภิกษุใด เมื่อไม่ให้อักโกสนวตถุ (เรื่องด่า) อันเป็นจริงตกไปในตน ชื่อว่านำความนินทาออก เมื่อนำออกย่อมรู้.

เทวดาทูลถามว่า พระขีณาสพเห็นปานนี้ สักองค์หนึ่งมีอยู่หรือ. แต่ว่า บุคคลผู้ชื่อว่าพ้นจากการด่าด้วยถ้อยคำอันไม่เป็นจริง ย่อมไม่มี.

บทว่า ตนุยา แปลว่า น้อย อธิบายว่า ชื่อว่า พระขีณาสพทั้งหลายเกียดกันอกุศลธรรมทั้งหลายด้วยหิริ เที่ยวไปอยู่ มีน้อย.

บทว่า สทา สตา ได้แก่ ผู้ประกอบด้วยความไพบูลย์แห่งสติตลอดกาลเป็นนิตย์.

บทว่า อนฺตํ ทุกฺขสฺส ปปฺปุยฺย ได้แก่ บรรลุพระนิพพานอันเป็นธรรมที่สิ้นสุดของวัฏทุกข์.

คำที่เหลือ มีนัยตามที่กล่าวแล้วนั่นแหละ.

จบอรรถกถาหิริสูตรที่ ๘