หนทางสู่ความเป็นพระโสดาบัน (ภาคแรก)

 
วันชัย๒๕๐๔
วันที่  17 มี.ค. 2564
หมายเลข  33894
อ่าน  872

ท่านอาจารย์ ทุกคำ นำไปสู่ความเข้าใจถูกต้อง ว่าไม่มีเรา ให้มั่นคงขึ้น เดี๋ยวนี้ แม้ฟัง แต่ความหนาแน่นของอวิชชา ความไม่รู้ และโลภะ ความติดข้องในสังสารวัฏฏ์ ปกปิดไว้เลย สภาพธรรมะที่เห็น ดับแล้ว ใครรู้? ปกปิดแล้ว สภาพธรรมะที่ได้ยินเมื่อกี้นี้ ก็หมดแล้ว ก็จริง แต่ทำไมไม่รู้? แล้วทำไมยังยึดถือว่าที่ได้ยินเป็นเรา ดับแล้ว เป็นเราตรงไหน? หาอีกได้ไหม? ถ้าไม่ได้ แล้วยังคงมีเราได้อย่างไร?

ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ฟัง ค่อยๆ ไตร่ตรอง รู้ว่า เปลี่ยนความจริงนี้ไม่ได้ แต่ความจริงนี้จะต้องประจักษ์แจ้ง จึงจะมั่นคงว่า ไม่ใช่เรา เพียงแค่ฟังเท่านี้ เป็นเราฟัง ใช่ไหม? เป็นเราทั้งหมด ไม่ว่าอะไรทั้งสิ้น

เพราะฉะนั้น ทุกอย่างที่เคยเป็นเรา เป็นธรรมะแต่ละหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่เรา มีจริงเมื่อเกิดขึ้น เกิดแล้วก็ดับไป แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย จริงไหม? รู้ได้ไหม? รู้ได้!! เมื่อไหร่? ไม่ใช่เมื่อไม่ฟังอีกเลย ถ้าไม่ฟังอีกเลย ก็หมดทาง แต่พอฟังแล้ว ค่อยๆ เข้าใจขึ้น...น้ำทีละหยด...

[เล่มที่ 36] พระสุตตันตปิฎก อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม ๓ - หน้าที่ ๘๑๘

ปหีนสูตร

ว่าด้วยธรรมที่พระโสดาบันละได้แล้ว

[๓๖๑] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการนี้ อันบุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฏฐิละได้แล้ว ธรรม ๖ ประการเป็นไฉน คือ สักกายทิฏฐิวิจิกิจฉาสีลัพพตปรามาส ๑ ราคะที่เป็นเหตุไปสู่อบาย ๑ โทสะที่ เป็นเหตุไปสู่อบาย ๑ โมหะที่เป็นเหตุไปสู่อบาย ๑

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม ๖ ประการนี้แล อันบุคคลผู้ถึง พร้อมด้วยทิฏฐิละได้แล้ว.

จบปหีนสูตรที่ ๖

ติดตามบันทึกการสนทนาฉบับเต็มได้ที่ลิงค์ด้านล่าง :


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 18 มี.ค. 2564

ขออนุโมทนาครับ 

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ