ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๑๓

 
khampan.a
วันที่  21 ก.ค. 2562
หมายเลข  31056
อ่าน  1,668

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

ขออนุญาตแบ่งปันข้อความธรรม (ปันธรรม) ที่ได้จากการฟังพระธรรมจากท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ในแต่ละครั้ง รวบรวมเป็นธรรมเตือนใจเพื่อศึกษาและพิจารณาร่วมกัน เพื่อความเข้าใจธรรม (ปัญญ์ธรรม) ตามความเป็นจริง ซึ่งเป็นข้อความที่สั้นบ้าง ยาวบ้าง แต่ก็มีอรรถที่สมบูรณ์ พอที่จะเข้าใจได้ควรค่าแก่การพิจารณาอย่างยิ่ง ดังนี้

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๑๓



~ เมื่อมีความเข้าใจในความเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและในพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ก็เป็นการเคารพอย่างยิ่ง บูชาพระองค์ยิ่งกว่าด้วยดอกไม้ธูปเทียนเครื่องสักการะใดๆ เพราะเป็นการบูชาด้วยการฟังคำที่ควรฟังแล้วก็มีความเข้าใจ เพราะฉะนั้น ขณะใดก็ตามที่ฟังพระธรรมแล้วเข้าใจ นั่นคือ การบูชาคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกเวลา

~ เข้าใจ คือ ปัญญา รู้ว่าอะไรถูก อะไรผิด เพราะฉะนั้น เมื่อรู้แล้ว ก็ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ทำในสิ่งที่ผิด ปัญญา เป็นสภาพที่เข้าใจถูกเห็นถูก เมื่อเข้าใจว่าอะไรดี ก็นำไปสู่ทางที่ดี เมื่อรู้ว่าอะไรไม่ดี ก็ไม่ไปสู่ทางที่ไม่ดี

~ คำพูดที่แสดงถึงความสำคัญตน ย่อมเกิดจากอกุศลจิตที่ตรงกันข้ามกับสภาพจิตใจที่อ่อนโยน มีเมตตา มีความเป็นเพื่อน อย่างสิ้นเชิง

~ เมื่อมีความเข้าใจอย่างถูกต้องแล้ว ความเข้าใจ ไม่ได้นำทุกข์โทษภัยหรือความโศกเศร้ามาให้เลย ไม่ว่าขณะใดทั้งสิ้นที่เข้าใจธรรม (เข้าใจสิ่งที่มีจริงตรงตามความเป็นจริง) ปลาบปลื้มยินดีที่ได้เข้าใจ ผ่องใส พ้นจากความทุกข์

~ เสียหายอะไรที่จะพูดคำจริง เป็นประโยชน์หรือเปล่าที่จะให้คนที่ไม่รู้ คนที่ไม่ตรง ได้เริ่มพิจารณา ให้รู้ ให้ตรง เพื่อประโยชน์ คือ จากที่เคยเข้าใจผิด เคยหลงผิด เคยทำผิด ก็จะได้รู้ความจริง ว่า "ผิด" แล้วไม่ทำอย่างนั้นอีก

~ ชีวิตทั้งหมดที่เกิดมา ค่า อยู่ที่เข้าใจพระธรรม เพราะว่า เกิดมามีแต่
โลภะ (ความติดข้อง) โทสะ (ความขุ่นเคืองใจ) และกิเลสต่างๆ เหมือนเกิดมาเพื่อเก็บขยะจริงๆ อกุศลทั้งหลาย เหมือนขยะ เหมือนเชื้อโรค ก็เก็บไป พอกพูนมากขึ้น แต่ขณะใดก็ตาม ที่เป็นความเข้าใจถูกความเห็นถูก ขณะนั้น มีค่าที่สุดในชีวิต

~ สิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตซึ่งจะติดตามไปได้ที่มีประโยชน์สูงสุด คือ ปัญญา ความเห็นถูก ความเข้าใจถูก เพราะว่า ตั้งแต่เกิดมาอาจจะมีทรัพย์สมบัติ มีรูปสมบัติ มียศ มีบริวาร มีทุกอย่าง แต่ไม่มีปัญญา เพราะฉะนั้น ทรัพย์สมบัติตามไปได้ไหม? รูปสมบัติก็ตามไปไม่ได้ บริวารสมบัติ ทุกอย่างเหล่านั้นก็ตามไปไม่ได้ แต่ปัญญาสามารถที่จะสะสมสืบต่อในจิตที่จะทำให้มีโอกาสได้ยินได้ฟังและก็เกิดความเห็นถูกขึ้นได้

~ ไม่ให้อกุศลเกิด ห้ามไม่ได้ แม้แต่เดี๋ยวนี้อกุศลก็ยังเกิดได้ เพราะฉะนั้น พระธรรมเท่านั้น ซึ่งน่าอัศจรรย์ เมื่อมีความเข้าใจที่ถูกต้อง ปัญญาซึ่งเป็นความเห็นถูกที่ถูกต้องก็จะทำให้ไม่หวั่นไหวหรือว่าหวั่นไหวน้อยลง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น และทำสิ่งที่ถูกต้อง

~ กล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต่อไป ตลอดไป เพื่อโอกาสของคนที่มีโอกาสจะไตร่ตรองว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรควร อะไรไม่ควร เพราะถ้าไม่รู้ต่อไป ก็ทำสิ่งที่เป็นภัยกับตัวเองและทำลายคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

~ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำ หวังดี เกื้อกูล เป็นประโยชน์ให้คนฟังได้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น กัลยาณมิตรสูงสุด ก็คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำจริง ไม่ได้หวังให้ใครเข้าใจผิด ทรงแสดงธรรมโดยนัยต่างๆ มากมายหลากหลาย โดยประการทั้งปวง ที่จะทำให้ค่อยๆ เข้าใจขึ้น

~ เหตุไม่ดี ต้องนำมาซึ่งผลที่ไม่ดี เพราะฉะนั้น ถ้าเห็นอย่างนี้จริงๆ
มีหรือที่ใครจะทำชั่ว

~ ความไม่รู้ สะสมมามากและนานแสนนาน การที่จะรู้จนสามารถละความไม่รู้ได้จนหมดสิ้นจะนานมากสักแค่ไหน แต่ก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เมื่อมีการฟังพระธรรม สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูก

~
จากไม่มีสิ่งที่ติดข้องต้องการ แล้วก็มีขึ้น ติดข้องในสิ่งนั้น และแล้วสิ่งที่ติดข้องนั้น ก็จากไป หมดไป เหมือนไม่เคยมี แต่โลภะความติดข้องต้องการสะสมสืบต่อไป

~
เรื่องของอกุศลธรรมเป็นสิ่งที่มีมาก และถ้าไม่ทราบจริงๆ ว่า ตัวท่านมีอกุศลมากเพียงใด การที่จะละกิเลสย่อมเป็นสิ่งซึ่งเป็นไปไม่ได้ แล้วในวันหนึ่งๆ ก็มีอกุศลธรรมหลายประการ ซึ่งจะแสดงให้เห็นว่า ท่านเป็นผู้ที่ยังมีอกุศลธรรมที่จะต้องละคลาย ขัดเกลาจนกว่าจะดับสิ้นเป็นสมุจเฉท (ถอนขึ้นได้อย่างเด็ดขาด)

~ ข้อสำคัญที่สุด ควรจะเห็นข้าศึกภายใน คือ ความโกรธของตนเอง แทนที่จะคิดว่า ท่านมีศัตรูหลายคน หรือว่าอาจจะมีคนที่ไม่ชอบท่าน ทำสิ่งที่ไม่ดีกับท่านหลายคน แต่ตามความเป็นจริงแล้ว ข้าศึกที่แท้จริงอยู่ภายใน คือ ความโกรธของท่านเอง, กิเลสของตนเอง ไม่ได้อยู่ที่คนอื่น และไม่ใช่คนอื่นนำมาให้


~
อกุศลใหญ่ๆ โตๆ ก็มาจากทีละเล็กทีละน้อยนี่เอง

~ หิริ (ความละอายต่อบาป) โอตตัปปะ (ความเกรงกลัวต่อบาป) คุ้มครองจิตและเจตสิก (สภาพธรรมที่เกิดประกอบพร้อมกับจิต) ไม่ให้ตกไปในทางฝ่ายอกุศล


~
ปัญญา สละความเห็นผิดและความไม่รู้ ธรรม เป็น อนัตตา ต้องไม่ลืม ว่า อกุศล มีมาก ดูเหมือนจะละไม่ไหว แต่กำลังของปัญญาที่ค่อยๆ เจริญขึ้น ก็จะค่อยๆ ขัดเกลาละคลายจนกระทั่งสามารถดับจนหมดสิ้นได้

~
ฟัง ไม่รู้เรื่อง เพราะคิดเรื่องอื่น อย่างนี้ไม่ใช่การฟังด้วยดี หรือ ฟังพระธรรม เพราะอยากได้บุญ นั่นก็ไม่ใช่การฟังด้วยดี เพราะจุดประสงค์ของการฟังพระธรรม ก็เพื่อความเข้าใจถูกเห็นถูกเท่านั้น อยาก โน่น อยาก นี่ นั่นไม่ใช่เหตุที่จะทำให้เข้าใจความจริง

~
ความดีเท่านั้นที่จะทำให้ความชั่วน้อยลง ขณะที่กุศลเกิด ย่อมบั่นทอนไม่ให้อกุศลเกิดขึ้น

~ ถูก คือ ถูก ผิด คือ ผิด เปลี่ยนแปลงให้เป็นอย่างอื่นไม่ได้


~
กำลังเสื่อมอยู่ตลอดเวลา ในขณะที่เป็นอกุศล จะข้ามพ้นจากความเสื่อมได้ เมื่อได้รับการรักษาจิต ด้วยความเข้าใจพระธรรม การฟังพระธรรมให้เข้าใจ เป็นยารักษาจิตที่ไม่สะอาดให้ค่อยๆ สะอาดขึ้น

~ ถ้ามีจิตอนุเคราะห์ ไม่ว่าเขาจะดีหรือเลว ก็สามารถอนุเคราะห์ได้ เพราะคนเลววันนี้ อาจจะเป็นคนดีในวันหน้า ก็ได้

~ ชื่อว่าปัญญาแล้ว ย่อมเข้าใจความจริง ถูกต้อง ตรง ไม่ผิด แม้ในขั้นของการฟัง

~ เห็น เป็น เห็น จำ เป็น จำ คิด เป็น คิด เป็นธรรม (สิ่งที่มีจริง) แต่ละหนึ่ง

~
๔๕ พรรษา ตลอดระยะเวลาแห่งการประกาศพระศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นคำจริงทั้งนั้น ทำให้ผู้ได้ฟังได้ศึกษามีความเข้าใจถูกเห็นถูกยิ่งขึ้น


~ ฟังพระธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เพื่อให้รู้ความจริงของสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง ไม่ใช่ให้ไม่รู้

~
ถ้าเป็นเพื่อน ก็ต้องให้สิ่งที่ดีกับเพื่อน สิ่งที่ดีที่สุด คือ ปัญญาความเข้าใจถูกเห็นถูก อกุศล เช่น ความโกรธ ความสำคัญตน ความแข่งดี เป็นต้น เกิดขึ้นเป็นไป นั่น ไม่ใช่เพื่อน และไม่เป็นเพื่อนกับคนอื่นด้วยในขณะนั้น

~
คนไม่ดี คนเลว แล้วเราไปโกรธ คนนั้น เราก็เลว เหมือนกัน

~
เป็นคนดี ทำความดี ไม่ประมาท และฟังพระธรรมให้เข้าใจ จะทำให้รอดพ้นจากภัยในสังสารวัฏฏ์

~ ถ้าไม่เข้าใจก็ไปในทางผิด แต่ถ้ามีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้วปัญญานำไปสู่ทางที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น ก็จะเห็นได้ว่าไม่ใช่เราเลย แต่เป็นธรรมทั้งหมด เพราะฉะนั้น เวลาที่ธรรมซึ่งเป็นอวิชชา (ความไม่รู้) และ
โลภะ
(ความติดข้องความต้องการ) เกิดขึ้น ก็นำไปสู่ทางผิดแน่นอน
แต่ถ้าเป็นความเข้าใจที่ถูกต้อง ถึงอย่างไรก็นำไปสู่ในทางที่ถูกต้อง ไม่ไปสู่ทางที่ผิด.

ขอเชิญคลิกอ่านย้อนหลังครั้งที่ผ่านมาได้ที่นี่ครับ

ปันธรรม - ปัญญ์ธรรม ... ครั้งที่ ๔๑๒


...กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์
ที่เคารพยิ่ง
และขออนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
มกร
วันที่ 21 ก.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Chinjang
วันที่ 21 ก.ค. 2562

กราบอนุโมทนาสาธุครับ ขอขอบพระคุณอย่างสูงยิ่งครับ คุณคำปั่น อักษรวิลัย ท่านเป็นกัลยาณมิตร ผู้ประเสริฐครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
swanjariya
วันที่ 21 ก.ค. 2562

กราบเท้าท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง

กราบอนุโมทนาขอบพระคุณท่านอาจารย์คำปั่น อักษรวิลัย

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
meenalovechoompoo
วันที่ 21 ก.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
Nattaya40
วันที่ 21 ก.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
mammam929
วันที่ 21 ก.ค. 2562

กราบขอบพระคุณและกราบอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
nattawan
วันที่ 21 ก.ค. 2562

ชีวิตทั้งหมดที่เกิดมา ค่า อยู่ที่เข้าใจพระธรรม เพราะว่า เกิดมามีแต่
โลภะ (ความติดข้อง) โทสะ (ความขุ่นเคืองใจ) และกิเลสต่างๆ เหมือนเกิดมาเพื่อเก็บขยะจริงๆ อกุศลทั้งหลาย เหมือนขยะ เหมือนเชื้อโรค ก็เก็บไป พอกพูนมากขึ้น แต่ขณะใดก็ตาม ที่เป็นความเข้าใจถูกความเห็นถูก ขณะนั้น มีค่าที่สุดในชีวิต

ขอบพระคุณ และอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
panasda
วันที่ 21 ก.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
jaturong
วันที่ 22 ก.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
kukeart
วันที่ 22 ก.ค. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
มังกรทอง
วันที่ 19 ธ.ค. 2564

คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำ หวังดี เกื้อกูล เป็นประโยชน์ให้คนฟังได้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น กัลยาณมิตรสูงสุด ก็คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำจริง ไม่ได้หวังให้ใครเข้าใจผิด ทรงแสดงธรรมโดยนัยต่างๆ มากมายหลากหลาย โดยประการทั้งปวง ที่จะทำให้ค่อยๆ เข้าใจขึ้น น้อมกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ ขอรับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ