การปฏิบัติสมถะวิปัสนา

 
bigtoo
วันที่  3 พ.ค. 2562
หมายเลข  30823
อ่าน  861

ทำไมบ้านธัมมะถึงไม่ให้ไปปฏิบัติธรรมที่สำนักต่างๆ . ดูแล้วจัดแย้งกับคำสอนของพระองค์นะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
paderm
วันที่ 3 พ.ค. 2562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

คำว่า ปฏิบัติ ที่ใช้กันในภาษาไทย กับปฏิบัติในภาษาบาลี ความหมายไม่ตรงกัน กล่าวคือ โดยมากจะเข้าใจว่าเป็นการไปทำ แต่ความจริงแล้ว ไม่ใช่การไปทำ เพราะเหตุว่า ปฏิบัติธรรมไม่ใช่การไปทำปฏิบัติ ไม่ใช่การไปทำอะไรที่ผิดปกติขึ้นมา แต่ธรรมเกิดขึ้นทำกิจหน้าที่ของธรรม นั่นก็คือ สติ และ สัมปชัญญะ (ปัญญา) เกิดขึ้นระลึกรู้ ตรงลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏในขณะนี้ตามความเป็นจริง ซึ่งจะต้องอาศัยการฟัง การศึกษาพระธรรม สะสมความเข้าใจในเรื่องของสภาพธรรมไปตามลำดับ เพราะเหตุว่า ถ้าไม่มีความเข้าใจที่ถูกต้องแล้ว การปฏิบัติถูกต้องย่อมมีไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นความเข้าใจถูก เห็นถูก จึงเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ปฏิบัติธรรม คือ การถึงเฉพาะลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ ขณะใดที่สภาพธรรมปรากฏให้รู้ สติเกิดระลึกลักษณะของสภาพธรรม ขณะนั้นก็ถึงเฉพาะที่ลักษณะของสภาพธรรมว่าเป็นธรรม ไม่ใช่เรา จึงเป็นความหมายที่ถูกต้องของการปฏิบัติธรรม คือการถึงเฉพาะลักษณะของสภาพธรรมว่าเป็นธรรมไม่ใช่เรา เพราะสติและปัญญาที่เกิดรู้ตามความเป็นจริง

ในสมัยครั้งพุทธกาลไม่มีสำนักปฏิบัติธรรมของบรรพชิต หรือสำนักปฏิบัติธรรมของคฤหัสถ์ เพราะผู้ที่ฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมในยุคนั้น ท่านมีปกติเจริญสติปัฏฐาน (ระลึกรู้ลักษณะของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏตามความเป็นจริง) คือ ไม่มีการจำกัดหรือเลือกสถานที่ กาลเวลา และอารมณ์ คือ ทุกที่ทุกเวลาเป็นปกติ เพราะฉะนั้น จึงไม่มีหลักฐานใดๆ แสดงว่ามีการสร้างหรือมีสำนักปฏิบัติธรรมของบรรพชิตหรือสร้างสำนักปฏิบัติธรรมของคฤหัสถ์ ในยุคนี้มีความเห็นผิดว่า ถ้าจะปฏิบัติธรรม ต้องอยู่ในห้องหรือไปสำนักปฏิบัติ ไปสถานที่อื่นๆ ปฏิบัติไม่ได้ จึงมีการสร้างสำนักปฏิบัติเพื่อการปฏิบัติธรรม ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักพระธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา

ที่น่าพิจารณา คือ ปัญญาจะเจริญขึ้นตามลำดับจนถึงความสมบูรณ์พร้อม (ถึงความเป็นพระอริยบุคคลข้ามพ้นจากความเป็นปุถุชนได้) ก็ต้องมาจากการค่อยๆ สะสมความเข้าใจถูกเห็นถูกไปทีละเล็กทีละน้อย ไม่ใช่การไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ตามสำนักต่างๆ ด้วยความต้องการ ด้วยความเห็นผิดคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงของธรรม เพราะนั่นไม่ใช่หนทางที่จะทำให้ถึงความเจริญขึ้นของปัญญาเลย นำคำว่าปฏิบัติธรรมมาใช้ แต่ไม่ใช่เลยแม้แต่น้อย

สาวกในครั้งอดีต มีความเข้าใจถูกเห็นถูกในธรรม ก็เพราะได้อาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง ฉันใด สาวกในยุคนี้สมัยนี้ จะมีความเข้าใจถูกเห็นถูกในธรรม ก็ต้องอาศัยการฟังพระธรรมศึกษาพระธรรมตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง เช่นเดียวกัน ซึ่งจะประมาทในแต่ละคำของพระธรรมที่พระองค์ทรงแสดงไว้ดีแล้ว ไม่ได้เลย

เชิญคลิกอ่านที่นี่

ทำไมบ้านธัมมะ ไม่มีการยกย่องคำสอน พระอาจารย์มั่น หลวงตาบัว หลวงพ่อชา

เชิญชมวีดีโอ ดังนี้

คลิปวีดีโอ...สำนักปฏิบัติทำลายคำสอน และ พระภิกษุเชียร์ฟุตบอล

ขอเชิญคลิกอ่านข้อความเพิ่มเติมได้ที่นี่

สำนักปฏิบัติ...?

เรื่อง สำนักปฏิบัติ โดย อ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์

การตั้งสำนักปฏิบัติธรรม จำเป็นหรือไม่ในยุคนี้

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
khampan.a
วันที่ 3 พ.ค. 2562

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงพระธรรมตลอด ๔๕ พรรษา เพื่อประโยชน์แก่ผู้ฟังผู้ศึกษาจะได้เกิดปัญญา ความเข้าใจถูกเห็นถูก ไม่ใช่ให้ไปทำอะไรด้วยความไม่รู้ สิ่งที่สำคัญของพุทธบริษัท คือ การฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมให้เข้าใจ การไปทำอะไรด้วยความไม่เข้าใจ ด้วยความเห็นผิด ด้วยความเป็นตัวตนที่จดจ้องต้องการ นั่นไม่ใช่หนทางที่จะเป็นไปเพื่อความเข้าใจสภาพธรรมตามความเป็นจริง เพราะปฏิบัติธรรมในพระพุทธศาสนา เป็นเรื่องของความเข้าใจโดยตลอด

จึงควรเริ่มต้น ด้วยความตั้งใจที่จะศึกษาธรรม เพื่อความเข้าใจอย่างถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง ถ้ามีความตั้งใจจริงๆ เห็นประโยชน์จริงๆ ไม่ขาดการฟัง ไม่ขาดการศึกษา ความรู้ความเข้าใจ ก็จะค่อยๆ เจริญขึ้น อย่างแน่นอน การศึกษาธรรม ก็คือ ศึกษาสิ่งที่มีจริง ที่กำลังปรากฏในขณะนี้ ซึ่งแต่ก่อนไม่เคยรู้เลย ว่า เป็นธรรม ทุกขณะเป็นธรรมจริงๆ ไม่พ้นไปจากนามธรรม กับ รูปธรรม ไม่พ้นไปจากจิต เจตสิก รูป เลย ค่อยๆ สะสมความเข้าใจ ไปทีละเล็กทีละน้อย การฟังพระธรรมบ่อยๆ เนืองๆ จะทำให้ปัญญาเจริญขึ้น ทำให้มีความมั่นคง ในเหตุ ในผลของธรรม จนกว่าจะประจักษ์แจ้งได้จริงๆ ว่า ธรรม เป็น ธรรม ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน เป็นเพียง สภาพธรรมที่เกิดขึ้นตามเหตุตามปัจจัย แล้วก็ดับไป เท่านั้นเอง ครับ.

...อนุโมทนาในกุศลจิตของทุกๆ ท่านครับ...

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 5 มิ.ย. 2562

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
kullawat
วันที่ 6 มิ.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
Selaruck
วันที่ 11 มิ.ย. 2562

การฟังธรรม แล้วพิจารณา แล้วเข้าใจ ในแต่ละคำ โดยต้องเริ่มต้นจากคำว่าธรรมะ คืออะไร นี้เป็นต้นไปแล้ว ก็เป็นการเริ่ม "ปฏิบัติ" แล้ว เพราะพิจารณาได้ตลอดไม่ว่าที่ใหนหรทอเมื่อใดขณะที่มีลมหายใจ ทั้งสิ่งที่เห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ได้ลิ้มรส การสัมผัส และการตรึกนึกคิดต่างๆ

ถ้าไม่รู้อะไรเลยแล้วไปนั่งหลับตาจินตนาการหาสิ่งที่ไม่มี ไม่เข้าใจอะไร นั่นคือถูกหลอกเป็นตอให้อยู่ในความไม่รู้

ฟังธรรมที่แสดงถูกต้องแล้วมีแต่ทำให้เกิดความเข้าใจ เกิดความสว่าง

กราบแทบเท้าท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์ ที่เคารพยิ่ง ที่ทำให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งในพระธรรมคำสอนของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า

กราบขอบคุณและอนุโมทนากับบ้านธัมมะและคณะวิทยากรทุกท่าน

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
napachant
วันที่ 11 มิ.ย. 2562

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chatchai.k
วันที่ 20 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
Witt
วันที่ 14 ส.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ