โลกของความจำ

 
nattawan
วันที่  25 ก.พ. 2562
หมายเลข  30499
อ่าน  640

โลกคือสภาพธรรมะที่เกิดดับ ที่เมืองไทย ที่อินเดียดูเหมือนโลกกว้างใหญ่ แต่ถ้าไม่มีอะไรเกิดเลย .. ไม่มีโลก แต่เพราะเหตุว่ามีสิ่งที่เกิดดับเร็วสุดที่จะประมาณได้มากมายจึงปรากฏความเป็นโลก ที่ตัวก็เป็นโลกเพราะเกิดขึ้นและดับไป "ยาววาหนาคืบ" ทั้งหมดคือรูปธรรม เมื่อไม่รู้ความจริงก็ติดข้องในรูปเป็นรูปูปาทานขันธ์ นำมาซึ่งความรู้สึกยินดี ทุกคนดีใจมากเมื่อได้รูปที่พอใจ เวทนูปาทานขันธ์ เวทนาคือสภาพความรู้สึกดีใจ เสียใจเป็นต้น อุปาทานคือความยึดมั่น ขันธ์คือสิ่งที่เกิดดับแต่ไม่ปรากฏ แล้วก็จำด้วย รู้ไหมว่าอยู่ในโลกของความจำ ตั้งแต่เกิดจนตาย หลับไม่มีอะไรปรากฏ ตื่นขึ้นยังจำได้ว่าเมื่อกี๊หลับ จำทุกอย่างเพราะจิตเกิดต้องมีสัญญาเจตสิกเกิดร่วมด้วยทุกครั้ง มีเวทนาเจตสิกเกิดร่วมด้วย จิตหนึ่งขณะจะมีเจตสิกเกิดร่วมด้วยอย่างน้อยที่สุด ๗ ประเภท มีเวทนาเจสิกเป็นเวทนาขันธ์ สัญญาเจตสิกเป็นสัญญาขันธ์ เดี๋ยวนี้ก็มีใช่ไหม ไม่เคยขาดความจำเลยใช่ไหม แต่ก็ไม่เคยรู้เลยว่าความจำไม่ใช่เราแต่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่เกิดขึ้นทำอย่างอื่นไม่ได้นอกจากจำ ถ้ายังไม่รู้ว่าจำไม่ใช่เราไม่สามารถดับกิเลสได้ ยังคงเป็นเราอยู่

การที่จะดับความเป็นเราต้องละเอียดมาก ไม่ใช่ว่าไม่รู้อะไรเลยแล้วจะดับกิเลสได้ แต่ต้องรู้ทั่วในขันธ์ ๕ ซึ่งยึดถือเป็นอุปาทาน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงความละเอียดยิ่งว่าทุกอย่างเป็นธรรมะทั้งหมด แต่ละหนึ่งๆ และมีการยึดมั่นเพระไม่รู้ความจริงของสิ่งนั้น ไม่มีทางเห็นภัยของการเกิดเพราะยังนั่งอยู่ตรงนี้ ยังเห็นอยู่ตรงนี้ ยังจำได้ตามปกติว่าเป็นอะไร ต่อเมื่อปัญญาสามารถประจักษ์การเกิดขึ้นและดับไปของธรรมะซึ่งเป็นนิมิตที่ปรากฏให้รู้ได้ เมื่อนั้นก็เริ่มเห็นภัย

กว่าจะละความเป็นตัวตนได้ เป็นเรื่องของปัญญาทั้งหมดซึ่งมาจากการฟัง ถ้าไม่มีการฟังให้เข้าใจไม่มีทางที่จะรู้ความจริงของสภาพธรรมะจนดับกิเลสได้ และต้องเป็นผู้ตรง ขณะนี้กำลังพูดเรื่องจิต ทุกคนมีจิต แต่จิตขณะนี้ทำอะไร เกิดขึ้นหรือเปล่า ทำกิจอะไรก็ไม่ได้คิดถึงเลยทั้งสิ้น ทุกอย่างเป็นเรื่องละเอียด และเป็นผู้มีบุญที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อน จึงสามารถรู้ว่าอะไรถูกต้องควรฟังและอะไรผิด ไม่หลงไปตามความผิดมากมาย ท่ามกลางความไม่รู้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสรู้และทรงแสดงพระธรรม แต่ละคนมีชีวิตอยู่ท่ามกลางความเห็นผิดจากการที่ได้รับฟังความไม่จริงและความเข้าใจผิด แต่ถ้ามีบุญที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อนก็สามารถเข้าใจถูกต้องว่าอะไรถูกอะไรผิด และปัญญาที่รู้ตามความเป็นจริงก็จะละสิ่งที่ผิด

กราบบูชาคุณท่านอ.สุจินต์ บริหารวนเขตต์ด้วยความเคารพยิ่ง


  ความคิดเห็นที่ 2  
 
เมตตา
วันที่ 8 มี.ค. 2562

..ขอบคุณและขออนุโมทนาในกุศลวิริยะค่ะ..

ขอเชิญคลิกได้ที่...

โลก ในพระวินัย ของพระอริยเจ้า

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
chatchai.k
วันที่ 21 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ