เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ปี ๒๕๒๐ (9)

 
kanchana.c
วันที่  12 ส.ค. 2559
หมายเลข  28071
อ่าน  903

(ภาพจากแฟ้มภาพ เมื่อครั้งท่านอาจารย์เดินทางไปนมัสการพระเขี้ยวแก้ว ที่เมืองแคนดี้ ประเทศศรีลังกา เมื่อเดือนตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘)

ที่แคนดี้ได้มีโอกาสไปที่โรงเรียนเด็กแห่งหนึ่ง เป็นโรงเรียนที่น่าสนใจมากชื่อ มหาเวรีมหาวิทยาลัย ซึ่ง Mr. H.L. Jay เป็นครูใหญ่ ซึ่งอบรมกุลบุตรกุลธิดาเด็กๆ ให้เป็นชาวพุทธที่ดีตั้งแต่อายุยังน้อย ด้วยการประพฤติปฏิบัติตามพระธรรม การอบรมจิตใจ โรงเรียนนี้ค่อนข้างขัดสน เด็กไม่มีอุปกรณ์ในการศึกษามาก เด็กบางคนก็ไม่มีสมุดเลย แต่ครูก็ไม่ว่าอะไร ให้ใช้สิ่งอื่นแทนได้ และฝึกเด็กให้รู้จักประหยัด และใช้สิ่งอื่นชดเชยในสิ่งที่ไม่มี ไม่มีสมุดก็ใช้กระดาษอื่น หรือส่วนของกระดาษพิมพ์ ซึ่งโดยมากมักจะพิมพ์หน้าเดียว แล้วอีกหน้าหนึ่งทิ้งไป ครูใหญ่โรงเรียนนี้ก็อนุญาตให้เด็กเหล่านั้นเอากระดาษเหล่านั้นมาใช้ในการเรียนได้

ในวันนี้ก็ได้มีโอกาสไปตอบปัญหาธรรมของเด็กๆ ลองคิดว่า เด็กจะถามว่าอะไร ส่วนใหญ่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ที่นี่หรือที่ไหน ก็มักจะสนใจเรื่องตายแล้วเกิดเรื่องหนึ่ง แล้วเรื่องผลของกรรมอีกเรื่องหนึ่ง แล้วก็เป็นเรื่องที่ยากจะพิสูจน์ได้และเชื่อได้สำหรับเด็กๆ เช่น เรื่องพระอินทร์ซึ่งได้มาเฝ้าพระผู้มีพระภาคตามที่ปรากฏในพระไตรปิฎกเป็นต้น และเรื่องสวรรค์ เรื่องนรก เป็นเรื่องที่เด็กๆ สนใจมาก

เด็กถามว่า จะเชื่อได้อย่างไรว่า มีนรกหรือสวรรค์ ซึ่งความจริงไม่ว่าจะเป็นเรื่องนรก สวรรค์ เรื่องพระอินทร์ หรือเรื่องตายแล้วเกิดก็ตาม สำหรับเด็กควรจะอภัยให้ได้ เพราะว่าเด็กไม่รู้อะไรก็ถามอย่างนั้น และมีความมั่นใจในผู้ใหญ่ว่า ผู้ใหญ่สามารถที่จะตอบให้ความรู้ความเข้าใจได้ เพราะฉะนั้น เด็กก็ถามทุกอย่างที่เด็กอยากจะทราบ แต่ว่าสำหรับผู้ใหญ่แล้ว ควรที่จะได้คิดว่า ถ้าบุคคลใดถามเรื่องตายแล้วเกิด อยากจะให้พิสูจน์แบบไหน คนที่ถามต้องการคำตอบหรือการพิสูจน์ในลักษณะใด ในลักษณะที่จะเห็นการตายแล้วเกิดหรืออย่างไร เป็นไปได้ไหมที่จะให้มีคนตอบให้หมดสงสัยในเรื่องตายแล้วเกิด นอกจากผู้ที่จะถามเองนี้ต้องคิดว่าทำอย่างไรจึงจะหายสงสัย เพราะเหตุว่าเห็นไม่ได้แน่ ใครจะไปเห็นใครตายแล้วเกิดได้ เพียงแต่รู้ได้ว่า จิตเกิดขึ้นแล้วดับได้ ขณะสุดท้ายของชีวิตนี้ ภพนี้ ชาตินี้ ชื่อว่าตาย แล้วก็ตามเหตุตามปัจจัย ซึ่งเมื่อยังมีกรรม ยังมีกิเลส ยังไม่ใช่พระอรหันต์ ก็ต้องมีการเกิด แต่การที่จะให้คนอื่นตอบโดยประการต่างๆ เท่าไร ก็ไม่มีวันที่จะหมดความสงสัยไปได้ เพราะฉะนั้น แทนที่จะถามก็ควรที่จะได้พิจารณาว่า ตนเองนี้สมควรไหมที่จะถาม และเมื่อถามแล้วต้องการคำตอบชนิดใดที่จะให้หมดความสงสัยได้ เพราะไม่ใช่เรื่องที่จะเห็นด้วยตา ไม่ใช่เรื่องที่จะได้ยินด้วยหู แต่เป็นเรื่องที่จะต้องพิจารณาในเหตุผลว่า เป็นอย่างไร

ถ. ทางตานี้ก็เห็นได้

สุ. ใครที่จะทำ หรือเพียรที่จะทำ เพียงแต่จะให้ตอบเท่านั้น เหมือนกับจะดูว่า ผู้ตอบจะตอบอย่างไรจึงจะเชื่อ เพราะว่าทางตานี้ก็เห็นไม่ได้ แต่ถ้ามีเหตุ ผลก็ต้องมี และถ้ายังไม่ใช่พระอรหันต์ เมื่อกิเลสยังมี กรรมยังมี ก็จะต้องมีการเกิดต่อไป

สำหรับเรื่องนรก สวรรค์ ก็เคยพูดถึงแล้วว่า เป็นการได้รับอารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ถ้าเป็นนรกก็ประสบกับอนิฏฐารมณ์ อารมณ์ที่ไม่น่าพอใจมาก แม้ในโลกมนุษย์นี้ก็เป็นได้ การที่จะอยู่ท่ามกลางกองไฟ หรือการที่จะได้รับอันตรายจากอาวุธต่างๆ ก็เป็นได้ แม้ในโลกนี้ก็ยังมีได้ เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นผลของกรรม ซึ่งมีกำลังมากกว่านั้น ก็ย่อมทำให้ได้รับกระทบกับอารมณ์ต่างๆ เหล่านั้นที่ไม่น่าพอใจมากขึ้น

สำหรับเรื่องพระอินทร์ ก็เช่นเดียวกัน เพราะว่าเด็กอยากจะได้เห็น ก็เลยถามเด็กว่า อยากจะจับพระอินทร์ไหม หรือเพียงแค่อยากจะเห็นเท่านั้น อยากจะกระทบ อยากจะสัมผัสด้วยหรือเปล่า ซึ่งเด็กก็ตอบว่าอยาก ก็ถามเด็กว่า จะจับพระอาทิตย์พระจันทร์ได้ไหม ในเมื่อพระอาทิตย์พระจันทร์ก็ยังปรากฏให้เห็น อยู่ใกล้กว่าพระอินทร์ ก็ยังจับไม่ได้ จับไม่ถึง เพราะฉะนั้น พระอินทร์มีจริง แต่ว่าอยู่ไกลกว่าพระอาทิตย์และพระจันทร์มาก เพราะฉะนั้น ก็ควรที่จะได้ทราบว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสัมผัสหรือจับถูกต้องพระอินทร์ได้ เพราะแม้พระอาทิตย์พระจันทร์ซึ่งมองเห็นก็ยังสัมผัสกระทบไม่ได้

.........

ขอเชิญติดตามตอนอื่นๆ ได้ที่ลิงค์ด้านล่าง.....

เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ปี ๒๕๒๐ (1)
เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ปี ๒๕๒๐ (2)
เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ปี ๒๕๒๐ (3)
เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ปี ๒๕๒๐ (4)
เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ปี ๒๕๒๐ (5)
เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ปี ๒๕๒๐ (6)
เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ปี ๒๕๒๐ (7)
เมื่อท่านอาจารย์ได้รับเชิญไปสัมมนาทางพุทธศาสนาที่ศรีลังกา ปี ๒๕๒๐ (8)

ลิงค์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง...

- ณ กาลครั้งหนึ่ง ที่ ศรีลังกา ตอนที่ ๓ สิกิริยา-ถ้ำดัมบูลลา-พระเขี้ยวแก้ว


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
s_sophon
วันที่ 13 ส.ค. 2559

ผมขออนุญาต นำคำตอบต่างๆ นี้ไปใช้ประโยชน์แก้ความสงสัยกับท่านอื่นนะครับ

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
ํํญาณินทร์
วันที่ 13 ส.ค. 2559

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
thilda
วันที่ 20 ส.ค. 2559

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ