ศึกษารูป-นามและความเป็นอนัตตา

 
รวส
วันที่  9 ม.ค. 2553
หมายเลข  15071
อ่าน  1,560

ศึกษารูป-นามและความเป็นอนัตตาจะมีผลต่อกรรมดี กรรมชั่วอย่างไรบ้าง

ผมเห็นว่าบางครั้งสติปัญญาไม่เกิดด้วยความเป็นอนัตตา ก็จะไปนึกถึงเรื่องกรรม ว่าเหตุที่เป็นเช่นนี้ๆ เป็นเพราะกรรมที่เคยทำไม่ดีแต่ในอดีตชาติ หรือบางครั้งกรรมที่ทำไม่ดีในชาติปัจจุบันก็ตามมา วนเวียนอยู่ในหัว แต่พอสติปัญญาเกิดก็ให้รู้ว่าด้วยความเป็นอนัตตาความคิดนั้นก็ค่อยๆ เบาลงและหายไปแต่ก็จะกลับมาใหม่ด้วยความเป็นอนัตตาอีกนั่นแหละ เฮ เฮ เฮ มีเพื่อนซี้คอยตามติดตลอดไม่ยอมหนีไปไหนด้วย ดีครับเหมือนมีครูอาจารย์คอยตามมาตอกย้ำให้ปัญญาคมกล้ายิ่งๆ ขึ้น

ขอท่านผู้รู้ช่วยชี้ทางสว่างให้ด้วยครับกราบขอบพระคุณครับ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
prachern.s
วันที่ 11 ม.ค. 2553

เป็นธรรมดาครับ ตราบใดที่ยังไม่ดับกิเลสก็เป็นอย่างนี้ เพราะทุกขณะเป็นธัมมะ ค่อยๆ ศึกษาอบรมเจริญปัญญาต่อไป จนกว่าจะดับกิเลสอันเป็นเหตุให้เกิดภพชาติทั้งหมด ปัญหาทั้งปวงก็จบ ครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Sam
วันที่ 12 ม.ค. 2553

ศึกษารูป-นามและความเป็นอนัตตาจะมีผลต่อกรรมดี กรรมชั่วอย่างไรบ้าง

ขอโอกาสแสดงความคิดเห็นนะครับ ผมคิดว่าผลของการศึกษารูป-นาม และความเป็นอนัตตา (ด้วยความละเอียดรอบคอบ ด้วยความแยบคาย และด้วยคำแนะนำของท่านผู้รู้) คือความเข้าใจ และเมื่อมีความเข้าใจอย่างถูกต้อง ก็ย่อมมีผลต่อการกระทำต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ความเข้าใจนั้นเองจะคอยเตือนให้ระลึกได้ว่า

สิ่งใดมีผลเป็นโทษ - ควรหลีกเลี่ยง

สิ่งใดมีผลเป็นคุณ - ควรเจริญ และ

สิ่งใดที่จะนำไปสู่การดับทุกข์อย่างแท้จริง เมื่อเริ่มศึกษานั้น ทำให้เราเริ่มพิจารณาสังเกตตัวเอง ซึ่งมีอกุศลอันน่ารังเกียจมากมายเป็นปกติ ที่เห็นอย่างนั้นไม่ใช่เราแย่ลงเพราะการศึกษาธรรมะ แต่เป็นการเห็นตามความเป็นจริงมากขึ้น อย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงต้องค่อยๆ ศึกษา อบรมเจริญปัญญาต่อไป เมื่อปัญญาเจริญขึ้น ผลที่ทำให้เราทำดีมากขึ้น และหลีกเลี่ยงการทำชั่วได้มากขึ้น ก็จะปรากฎเองครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
nida
วันที่ 12 ม.ค. 2553

การได้ฟังธรรมที่แท้จริงถือว่า เป็นการสะสมด้วยดีครับ และยังมีบุญเก่าในอดีตเป็นเหตุได้ศึกษาจากบ้านธรรมะ ค่อยๆ กินไป สะบายๆ ไม่ต้องรีบเร่งเดี๋ยวติดคอ กินไปๆ เดี๋ยวก็อิ่มเอง เมื่อเหตุสมควรแก่ผล โดยไม่ต้องหวังครับ ว่า ล้วนมันเป็นเอง ไม่ใช่เราเป็นเอง จึงเป็นหนึ่งที่เป็นกลางเสมอภาพกันหมด ทั้งกรรมดีและกรรมชั่วคือ เกิดและก็ดับเป็นธรรมดาเสมอภาพเรียบหมดไม่เป็นคู่ เพราะจิตเดิมแท้ คือ รู้ ดูเท่านั้นเอง จิตไม่มีดี ไม่มีชั่ว เหมือนใบไม้ที่อยู่นิ่งเฉยๆ แต่ที่ใบไม้ไหวไปมา เพราะลมพัดมาซ้ายบ้างขวาบ้าง แต่ถ้าใบไม้ไม่มีหลักฐานที่มั่นคง ก็ปลิวหลุดไปตามกระแสลม

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
WS202398
วันที่ 13 ม.ค. 2553

ผมว่าลองพิจารณาด้วยความไม่เที่ยง และเป็นทุกข์แบบร่วมด้วยช่วยกันไปเลยครับ เป็นกำลังใจให้ครับ

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
WS202398
วันที่ 13 ม.ค. 2553
 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
chatchai.k
วันที่ 17 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ