อินเดีย ...อีกแล้ว10

 
kanchana.c
วันที่  16 พ.ย. 2552
หมายเลข  14272
อ่าน  2,696

ต้นพระศรีมหาโพธิ์

ทุกครั้งที่มานมัสการสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย เมื่อมาถึงพุทธคยา ต้องมานั่ง

ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เพื่อเจริญพุทธานุสสติ ตามกำลังสติปัญญาของตนว่า พระผู้มี

พระภาคทรงตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง ทรงมีพระปัญญาคุณยิ่งกว่ามนุษย์ทั้งหลาย

ทรงจำแนกสภาพธรรมทั้งหมดในโลกออกเป็น ๒ อย่าง คือ นามธรรมและรูปธรรม โดย

นามธรรมเป็นสภาพรู้ รูปธรรมเป็นสภาพธรรมที่ไม่ใช่สภาพรู้ และนามธรรมก็ยังแบ่งออก

เป็นจิต สภาพธรรมที่เป็นใหญ่ในการรู้สิ่งที่ปรากฏ เจตสิก สภาพธรรมที่เกิดพร้อม

จิต ดับพร้อมจิต รู้อารมณ์เดียวกับจิต มีลักษณะและกิจต่างกันตามประเภทของเจตสิก

นั้นๆ บางครั้งได้เจริญเมตตากับเพื่อนร่วมโลกที่มานมัสการพระศรีมหาโพธิ์ด้วยกัน และ

ทุกครั้งได้เจริญปัญญา ด้วยการฟังธรรมและร่วมสนทนาธรรม ทำให้มีความเข้าใจพระ

ธรรมมากขึ้น ดังนั้นจึงควรรู้ความเป็นมาของต้นพระศรีมหาโพธิ์บ้าง ได้ค้นข้อมูลจาก

//www.worldbuddhism.net/buddhap...-bodhitree.htm มีความดังนี้

ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นปัจจุบันนี้ ไม่ใช่ต้นเดิมตั้งแต่ครั้งพุทธกาล แต่เป็นต้นที่ ๔ ซึ่ง

แตกหน่อมาจากต้นเดิม เนื่องจากต้นโพธิ์ถูกทำลายหลายครั้งจากพวกมิจฉาทิฏฐิ และ

คนนอกศาสนา ประวัติของต้นโพธิ์ทั้ง ๔ มีดังนี้

ต้นโพธิ์ต้นแรก เป็นสหชาติ เกิดขึ้นในวันที่พระโพธิสัตว์ประสูติ ตามพุทธประวัติ

กล่าวว่า สหชาติ มี ๗ ประการ คือ กาฬุทายีอำมาตย์, นายฉันนะ, อานนท์พุทธอนุชา,

พระนางพิมพา, ม้ากัณฑกะ, ขุมทรัพย์ ๔ มุมเมือง , ต้นอัสสัตถะพฤกษ์ (ต้นโพธิ์) ต้น

โพธิ์ต้นนี้มีอายุมาจนถึงสมัยพุทธศตวรรษที่ ๒ พระเจ้าอโศกมหาราช กษัตริย์ชาวพุทธ

ผู้ยิ่งใหญ่ ทรงเคารพรักต้นโพธิ์เป็นอย่างยิ่ง จะเสด็จไปนมัสการต้นโพธิ์ทุกเช้าเย็น

พระมเหสีของพระเจ้าอโศกมหาราช คือ พระนางติษยรักษิต ไม่พอพระทัยที่พระเจ้า

อโศกเอาใจใส่ต้นโพธิ์มากเกินไป จึงได้ให้คนใส่ยาพิษเพื่อทำลายต้นโพธิ์ บาง

แห่งบอกว่า พระนางเอาเงี่ยงกระเบนมีพิษมาทิ่มรากต้นโพธิ์จนต้นโพธิ์ตาย เมื่อพระเจ้า

อโศกทรงทราบ ถึงกับทรงวิสัญญีภาพ ล้มสลบลง เสียพระทัยเป็นอย่างยิ่ง ให้คนนำน้ำ

นมโคมารดต้นโพธิ์ทุกวัน และพระองค์เองก็ทรงคุกเข่าที่ต้นโพธิ์นี้ พร้อมกับตั้ง

สัตยาธิษฐานขอให้มีหน่องอก ก็เกิดอัศจรรย์มีหน่อโพธิ์งอกขึ้นมา พระองค์ได้นำมา

ปลูกเป็นต้นที่ ๒ ต้นโพธิ์ต้นแรกมีอายุได้ ๓๔๒ ปี

ต้นโพธิ์ต้นที่ ๒ มีอายุยืนมาจนกระทั่งกษัตริย์นามว่า ศศางกา ได้มาพบต้นพระศรีมหา

โพธิ์ ก็ไม่พอพระทัย เนื่องจากพระองค์นับถือฮินดู จึงได้ให้คนทำลายต้นพระศรีมหา

โพธิ์ และทำลายพระพุทธรูปในวิหารทั้งหมด แต่อำมาตย์ชาวพุทธไม่กล้าทำลายพระ

พุทธรูป จึงได้ใช้วิธีเอาปูนโบกทับเพื่อปิดไว้เฉยๆ ภายหลังพระเจ้าศศางกาได้รับผล

กรรม เกิดแผลพุพองทั่วร่าง และสิ้นพระชนม์อย่างอนาถ ต้นโพธิ์ต้นที่ ๒ มีอายุ ๘๗๑

ปี

หลังจากนั้นไม่นาน พระเจ้าปูรณวรมา กษัตริย์ชาวพุทธ ได้มาพบเห็นต้นพระศรีมหา

โพธิ์ล้มเช่นนั้น ก็เสียพระทัย แต่ให้คนค้นหาหน่อพระศรีมหาโพธิ์ ก็พบหน่อโพธิ์ขึ้นที่

ใต้ต้นโพธิ์ จึงให้มีการปลูกขึ้นใหม่ และสร้างรั้วล้อมป้องกันไว้อย่างแน่นหนา ต้นโพธิ์

ต้นที่ ๓ นี้มีอายุยืนนานมาก ถึง ๑๒๕๘ ปี ก็ล้มไปตามกาลเวลา

ในปี ๒๔๔๓ เซอร์อเล็กซานเดอร์ คันนิ่งแฮม นักโบราณคดีชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นผู้มี

คุณูปการต่อพระพุทธศาสนามาก ได้ขุดค้นพบพุทธสถานหลายแห่ง จนทำให้พระพุทธ

ศาสนาเป็นที่รู้จักของชาวอินเดีย หลังจากลืมเลือนไปแล้วกว่า ๘๐๐ ปี ได้เดินทางไป

ที่พุทธคยา พบต้นพระศรีมหาโพธิ์ล้มอยู่ แต่ได้พบหน่อโพธิ์งอกอยู่ที่ใต้ต้นเดิม ๒ หน่อ

หน่อหนึ่งสูง ๖ นิ้ว ได้ปลูกไว้ที่บริเวณต้นเดิม อีกหน่อหนึ่ง สูง ๔ นิ้ว แยกไปปลูกทาง

ด้านทิศเหนือ ห่างกัน ๒๕๐ ฟุต ต้นโพธิ์ต้นที่ ๔ มีอายุนับจากเริ่มปลูก ปี ๒๔๔๓ ถึง

ปัจจุบัน ๑๐๙ ปี (ข้อความในเว็บไซต์บอกว่า ๑๓๐ ปี แต่เมื่อบวกลบแล้ว ควรเป็น

๑๐๙ ปี)

แม้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นรูปที่ไม่มีใจครอง เป็นสหชาติกับพระผู้มีพระภาค ก็ต้อง

ตกอยู่

ภายใต้ไตรลักษณ์เช่นกัน มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปในที่สุด แสดงให้เห็นถึงความ

ไม่เที่ยงของสังขารทั้งหลาย ซึ่งเป็นการพิสูจน์คำสอนของพระผู้มีพระภาคว่าเป็นความ

จริงแท้ ไม่มีข้อยกเว้น แม้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นปัจจุบันจะไม่ใช่ต้นแรกที่พระองค์ทรง

ประทับนั่งตรัสรู้ แต่ก็เป็นตัวแทนในการตรัสรู้ของพระองค์ เป็นอนุสสติให้ระลึกได้ว่า

พระพุทธเจ้าและพระธรรมเกิดขึ้นแล้วในโลก ณ ที่นี้ และข้อความในพระไตรปิฎกยัง

แสดงว่า พระพุทธเจ้าทุกพระองค์จะประทับตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ ณ ที่นี้ เช่นเดียวกับสถาน

อื่นอีก ๓ แห่งที่จะเป็นที่เดิมตลอดไป คือ สถานที่ทรงแสดงปฐมเทศนา สถานที่เสด็จ

ลงจากดาวดึงส์หลังจากทรงโปรดพุทธมารดา และที่ตั้งขา ๔ ขาของแท่นพระบรรทม

ในพระคันธกุฎีที่พระเชตวัน และบางแห่งแสดงรวมถึงสถานที่ปรินิพพานด้วย


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
ups
วันที่ 16 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
wirat.k
วันที่ 17 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
saifon.p
วันที่ 17 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
sopidrumpai
วันที่ 17 พ.ย. 2552

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
คุณ
วันที่ 17 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
panasda
วันที่ 18 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
jangthi
วันที่ 19 พ.ย. 2552

ขอขอบคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
orawan.c
วันที่ 29 พ.ย. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chantra52
วันที่ 29 พ.ย. 2552

การศึกษาพระธรรมต้องเป็นผู้ละเอียด

 
  ความคิดเห็นที่ 10  
 
chantra52
วันที่ 29 พ.ย. 2552

ขออนุโมทนา

 
  ความคิดเห็นที่ 11  
 
ที่พึ่งที่ระลึก
วันที่ 1 ธ.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 12  
 
hadezz
วันที่ 16 ธ.ค. 2552

ขอบคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 13  
 
pondhip
วันที่ 21 ธ.ค. 2552

ขอบคุณ และอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 14  
 
กระจ่าง
วันที่ 15 ต.ค. 2553
ขอบคุณ และขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 15  
 
guy
วันที่ 15 มี.ค. 2554

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 16  
 
ms.pimpaka
วันที่ 10 พ.ค. 2558

ขอบพระคุณ และขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ