ศึกษาพระไตรปิฎก คือ การรักษาพระพุทธศาสนา

 
ธรรมทัศนะ
วันที่  29 ส.ค. 2552
หมายเลข  13398
อ่าน  4,799

พระไตรปิฎก คือคัมภีร์ที่ประมวลเอาคำสอนของพระพุทธเจ้ามาจารึกไว้พระไตรปิฎกจึงเป็นที่รวบรวม บรรจุไว้ หรือจารึกไว้ ซึ่งพระพุทธศาสนานั้นเอง ในเมื่อพระไตรปิฎกเป็นที่ประมวลไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา คือ คำสอนของพระพุทธเจ้า เพราะฉะนั้น การศึกษาพระไตรปิฎกจึงเป็นการรักษาพระพุทธศาสนา


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
pornpaon
วันที่ 30 ส.ค. 2552

ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

ขอร่วมแสดงความคิดเห็นค่ะ

การอ่านการศึกษาพระไตรปิฎก ไม่ใช่การอ่านหนังสือหรือศึกษาเพื่อจำเรื่องราวหรือชื่อยากๆ ให้ได้มากๆ อย่างที่มีคนจำนวนมากในปัจจุบันเข้าใจผิดกัน และเรียกเอาเองว่ากำลังศึกษาพระปริยัติธรรม แต่การศึกษาพระไตรปิฎก คือการศึกษาพระธรรมคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้าทุกส่วน โดยละเอียดรอบคอบ ไม่เผิน ไม่ผ่าน พิจารณาอย่างระมัดระวังถี่ถ้วนตลอดทั้งสามปิฎก

นับแต่พระวินัย ข้อปฏิบัติของภิกษุเพื่อการขัดเกลากิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย แม้คฤหัสถ์ก็ควรศึกษา เพื่อช่วยกันรักษาภิกษุอย่างถูกต้อง ไม่ใช่อนุโลมเอาเอง

พระสูตร ที่ดูราวกับเป็นเรื่องราวของผู้คนต่างๆ เท่านั้น แต่ความจริงคือเรื่องราว ที่ทรงแสดงเพื่อให้เข้าใจถึง เหตุ ซึ่งเป็นที่มาแห่งผลต่างๆ ในชีวิตประจำวันจริงๆ ของสรรพสัตว์ทั้งหลายที่เวียนว่ายกันมายาวนานในสังสารวัฏฏ์ หาเบื้องต้นและที่สุดไม่ได้ เพราะผลทั้งหลายย่อมไหลมาแต่เหตุทั้งสิ้น

พระอภิธรรม ธรรมอันยิ่งละเอียดยิ่ง เพื่อให้เข้าใจความจริงว่า ไม่มีสัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขา ทั้งหมดเป็นเพียงรูปธรรมและนามธรรม เป็นสภาพธรรมแต่ละลักษณะในแต่ละขณะ เกิดดับๆ สืบต่อกันไป รวดเร็วราวกับไม่ได้ดับหรือเกิดขึ้นสืบต่อ

ความเข้าใจในพยัญชนะและอรรถทั้งหลายในพระไตรปิฎก โดยไม่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างที่สุด เพราะเมื่อเข้าใจถูกย่อมปฏิบัติถูก เดินบนหนทางที่ถูก และย่อมรักษา พร้อมทั้งสืบต่อพระศาสนาได้อย่างถูกต้องด้วย

ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหารวนเขตต์

ท่านได้ศึกษาพระธรรมคำสอนที่ละเอียด ลึกซึ้ง จากพระไตรปิฎกอย่างละเอียด และได้นำความรู้ความเข้าใจในพระธรรมนั้นเผยแพร่แก่ชนทั้งหลาย อย่างไม่เห็นแก่ความเหน็ดเหนื่อยและอุปสรรคใดๆ มาอย่างยาวนานยิ่ง

ขอบพระคุณและขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
สุภาพร
วันที่ 2 ก.ย. 2552

ขอนอบน้อมแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และ ขอกราบอนุโมทนาท่านอาจารย์สุจินต์ บริหาวรวนเขตต์ ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ที่ได้นำพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ มาบรรยายให้เห็นถูกเข้าใจถูก

ขอขอบพระคุณและอนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 3  
 
ธนกฤต
วันที่ 16 ก.ย. 2552

เรียนพระไตรปิฎกเป็นการรักษาพระพุทธศาสนาอย่างยอดเยี่ยม เล่ม 32 หน้า 174

พระสูตรยังดำรงอยู่ ตราบใด พระวินัยยังรุ่งเรืองอยู่ ตราบใด ภิกษุทั้งหลายย่อมเห็นแสงสว่าง เหมือนพระอาทิตย์อุทัยอยู่ ตราบนั้น เมื่อพระสูตรไม่มีและแม้พระวินัยก็หลงเลือนไป ในโลกก็จักมีแต่ ความมืดเหมือนพระอาทิตย์อัสดงคต (ลับไป) เมื่อภิกษุยังรักษา พระสูตรอยู่ ย่อมเป็นอันรักษาปฏิบัติไว้ด้วย นักปราชญ์ดำรงอยู่ ในการปฏิบัติ ย่อมไม่คลาดจากธรรมอันเกษมจากโยคะ

พระอรรถกถาจารย์อธิบายเพิ่มเติมความว่า เหมือนอย่างว่า ในระหว่างโคตัวผู้ ๑๐๐ ตัว หรือ ๑๐๐๐ ตัว เมื่อไม่มีแม่โคผู้จะรักษาเชื้อสายเลย วงศ์เชื้อสาย ก็ไม่สืบต่อกัน ฉันใด เมื่อภิกษุเริ่มวิปัสสนา ตั้ง ๑๐๐ ตั้ง ๑๐๐๐ รูป มีอยู่ แต่ปริยัติ (การเล่าเรียนพระไตรปิฎก) ไม่มี ชื่อว่าการแทงตลอดอริยมรรคก็ไม่มี ฉันนั้นนั่นแล. อนึ่งเมื่อเขาจารึกอักษรไว้หลังแผ่นหิน เพื่อจะให้รู้ขุมทรัพย์ อักษรยังทรงอยู่เพียงใด ขุมทรัพย์ทั้งหลายชื่อว่ายังไม่เสื่อมหายไป เพียงนั้น ฉันใด เมื่อปริยัติยังทรงอยู่ พระศาสนา ก็ชื่อว่า ยังไม่อันตรธาน ไป ฉันนั้นเหมือนกันแล. ผู้ตำหนิการเรียนพระไตรปิฎก...คือมหาโจรทำลายพุทธศาสนา (ตัวจริง) เล่ม 78 หน้า 881 แม้ผู้มีปัญญาทราม ก็จะนั่งในท่ามกลางแห่งอุปัฏฐากทั้งหลาย กล่าวอยู่ว่า เราย่อมสละปริยัติ (การเล่าเรียนพระธรรม – วินัย) ดังนี้เป็นต้น ด้วยคำว่า เมื่อเราตรวจดูหมวดสามแห่งธรรมอันยังสัตว์ ให้เนิ่นช้าในมัชฌิมนิกายอยู่ มรรคนั่นแหละมาแล้วพร้อมด้วยฤทธิ์ ชื่อว่าปริยัติ ไม่เป็นสิ่งที่กระทำได้โดยยากสำหรับพวกเรา การสนใจ ในปริยัติ ย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ ดังนี้ ย่อมแสดงซึ่งความที่ตน เป็นคนมีปัญญามาก. ก็เมื่อภิกษุนั้นกล่าวอยู่อย่างนี้ ชื่อว่า ย่อมทำลายพระศาสนา. ชื่อว่า มหาโจรเช่นกับบุคคลนี้ ย่อมไม่มี เพราะว่า บุคคลผู้ทรงพระปริยัติ ชื่อว่า ย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ หามีไม่

 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
จักรกฤษณ์
วันที่ 17 ก.ย. 2552

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
chatchai.k
วันที่ 23 มิ.ย. 2564
 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ