ณ พระวิหารเชตวัน

 
พุทธรักษา
วันที่  14 ม.ค. 2552
หมายเลข  10908
อ่าน  949


ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

แนวทางเจริญวิปัสสนาโดย อาจารย์สุจิตน์ บริหารวนเขตต์

บุคคลในครั้งอดีต ถ้าได้เห็นพระวิหารเชตวัน ก็จะได้เห็นศาลา โรงไฟต่างๆ เห็นที่จงกรม เห็นพระผู้มีพระภาค เห็นพระภิกษุสงฆ์ เห็นกิจวัตร เห็นข้อประพฤติปฏิบัติ ของท่านเหล่านี้ ในครั้งโน้น แต่ว่าในสมัยนี้ พระวิหารเชตวันก็ยังเป็นสถานที่น่ารื่นรมย์

แต่ว่าผู้ที่เข้าไปก็ดี ออกมาก็ดี ผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมาจักษุวิญญาณของผู้นั้น ก็เห็นพระวิหารเชตวันแต่ก็อาจจะ ไม่ได้เป็นผู้ที่รู้ลักษณะของการเห็น รู้ลักษณะของการได้ยิน รู้ลักษณะของเย็น ร้อน อ่อน แข็ง ที่กำลังปรากฏในขณะนั้น

ไม่เหมือนผู้ที่เข้า ออก ณ พระวิหารเชตวัน ในครั้งโน้นซึ่งไม่ว่าจะเป็นภิกษุ ภิกษุณี หรือ อุบาสก อุบาสิกาท่านเหล่านั้น ฟังธรรม และ เจริญสติปัฏฐานรู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่กำลังปรากฏในขณะนั้นแล้วแต่ว่า ท่านจะอบรมเจริญสติปัฏฐานกัน มากน้อยนานเท่าไร จึงจะบรรลุมรรคผลได้ ซึ่งเรา ก็ควรจะได้ทราบถึงอดีต ของสถานที่ และ อดีตของบุคคลเพื่อเทียบเคียงกับหนทางปฏิบัติ ให้ถูกต้อง

และพระวิหารเชตวันนั้นเมื่อท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างแล้วก็เป็นสถานที่ ที่ทำให้ท่านเกิดความปีติ เป็นอันมากถึงแม้ว่าท่านจะได้สิ้นชีวิตไปแล้วและได้ไปเกิดเป็นเทพบุตรในชั้นดุสิตท่านก็มาเฝ้าพระผู้มีพระภาคกราบทูลให้ทราบถึงความปีติของท่าน

ใน สังยุตตนิกาย สคาถวรรค อนาถบิณฑิกสูตร ที่ ๑๐ มีข้อความว่า

อนาถบิณฑิกเทวบุตร ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง แล้วได้กล่าวคาถาเหล่านี้ ในสำนักของพระผู้มีพระภาค ว่า "ก็พระเชตวันนี้นั้น อันหมู่แห่งท่านผู้แสวงคุณพำนักอยู่พระธรรมราชา ก็ประทับอยู่แล้วเป็นที่เกิดปีติแก่ข้าพระองค์สัตว์ทั้งหลาย ย่อมบริสุทธิ์ด้วยส่วน ๕ นี้ คือกรรม วิชชา ธรรม ศีล และ ชีวิตอันอุดมหาใช่บริสุทธิ์ด้วยโคตรหรือทรัพย์ไม่เพราะเหตุนั้น แหละบุรุษผู้เป็นบัณฑิต เมื่อเล็งเห็นประโยชน์ของตนพึงเลือกเฟ้นธรรม โดยแยบคายอย่างนี้จึงจะบริสุทธิ์ในธรรมนั้นพระสารีบุตร รูปเดียวเท่านั้นเป็นผู้ประเสริฐด้วยปัญญา ศีล และ ธรรมเครื่องสงบระงับภิกษุใด เป็นผู้ถึงฝั่ง ภิกษุนั้นก็มีท่านพระสารีบุตรนั้น เป็นอย่างเยี่ยม" เมื่ออนาถบิณฑิกเทวบุตร ได้กล่าวดังนี้แล้วก็ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทำประทักษิณ แล้วอันตรธานไปในที่นั้นเอง

ขออนุโมทนา

ขออุทิศกุศลแด่สรรพสัตว์



  ความคิดเห็นที่ 1  
 
suwit02
วันที่ 14 ม.ค. 2552

สาธุ

ผมขอเสนอลิ้งค์ของพระสูตรในกระทู้นี้ครับ

อนาถปณฑิกสูตร

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
Komsan
วันที่ 15 ม.ค. 2552
ขออนุโมทนาครับ
 
  ความคิดเห็นที่ 4  
 
opanayigo
วันที่ 15 ม.ค. 2552

อนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 5  
 
นายเรืองศิลป์
วันที่ 16 ม.ค. 2552

อนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 6  
 
paderm
วันที่ 18 ม.ค. 2552

[เล่มที่ 25] พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๒ - หน้าที่ 502

๕. รามเณยยกสูตร

[๙๒๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบด้วยพระคาถาว่า อารามอันวิจิตร ป่าอันวิจิตร สระโบกขรณีที่สร้างอย่างดี ย่อมไม่ถึงเสี้ยวที่ ๑๖ อันแบ่งออก ๑๖ ครั้ง แห่งภูมิสถานอันรื่นรมย์ของมนุษย์ พระอรหันต์ทั้งหลายอยู่ในที่ใดเป็นบ้านหรือป่าก็ตาม เป็นที่ลุ่มหรือที่ดอนก็ตาม ที่นั้นเป็นภูมิสถานอันน่ารินรมย์

 
  ความคิดเห็นที่ 7  
 
pornpaon
วันที่ 21 ม.ค. 2552
ขออนุโมทนาค่ะ
 
  ความคิดเห็นที่ 8  
 
pamali
วันที่ 22 มิ.ย. 2553

ขออนุโมทนาค่ะ

 
  ความคิดเห็นที่ 9  
 
chatchai.k
วันที่ 25 ธ.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ