สุขที่แท้จริงเริ่มที่ไหน


    ความสุขที่แท้จริงคืออะไร ทุกคนต้องการความสุขที่แท้จริงหรือเปล่าคะ เพราะเหตุว่าความสุขที่มีแต่ละวันเพียงเล็กน้อย ชั่วขณะที่เมื่อกี้นี้รับประทานอาหารอร่อยก็เป็นความสุข หรือตั้งแต่เช้ามาเห็นดอกไม้สวยๆ ขณะเห็นนั้นก็เป็นความสุขที่เกิดจากการเห็น แต่ว่าเป็นความสุขที่แท้จริงหรือเปล่า เพราะเป็นความสุขชั่วคราวแต่ละขณะ ก็หมดไปแล้ว เห็นอาหารที่วางอยู่บนโต๊ะ มีความสุขไหมคะที่จะได้รับประทาน เห็นไหมคะ มีความสุขที่จะได้รับประทานก็ไม่รู้ แล้วความสุขเล็กน้อยที่จะได้รับประทานก็หมดไป เพราะว่ามีความสุขที่มากกว่านั้นอีก แต่ยังไม่เกิดขึ้น

    เพราะฉะนั้น ชีวิตประจำวันเล็กๆ น้อยๆ ก็จะเห็นได้ว่า มีความสุขเล็กๆ น้อยๆ ชั่วครั้งชั่วคราวที่เกิดขึ้นปรากฏแล้วก็หมดไป

    เพราะฉะนั้น ต้องมีความสุขอื่นเป็นความสุขที่แท้จริง แต่ยังไม่รู้ว่า ความสุขนั้นคืออะไร ก็ไม่สามารถพบความสุขนั้นได้ ต้องรู้จักสิ่งที่มีจริงๆ จึงจะรู้ว่า สิ่งที่ชื่อว่า ความสุขที่มีจริงนั้นคืออะไร

    เพราะฉะนั้น ชีวิตก็เต็มไปด้วยความหวัง แต่ความหวังจะเป็นจริงหรือจะสมหวังไหม ไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชาของใครเลย ตักอาหารมาแล้ว เกิดอาหารเปรี้ยวไป เป็นอย่างไรคะ หวังว่าอาหารที่เคยรับประทานจะอร่อย แต่พอรสเปลี่ยนไป ไม่ใช่ความสุขแล้ว ไม่สมหวัง แม้แต่เพียงสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ถ้าได้เข้าใจความจริง

    เพราะฉะนั้น สุขจริงๆ ต้องเป็นสุขที่ได้เข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังมี เพราะอะไรคะ เพราะสิ่งนั้นกำลังมี สิ่งอื่นไม่มี เช่น ในขณะที่ได้ยินเสียง เสียงมี ปรากฏเดี๋ยวนี้เอง มีจริงๆ ปรากฏว่ามีชั่วคราว แล้วก็ดับไป ในขณะที่เสียงปรากฏ ไม่มีอย่างอื่นปรากฏเลย แต่หวังหรือเปล่า ไม่สิ้นสุดความหวังเลยสักอย่างเดียว ไม่ว่าอะไรจะกระทบตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจก็คิดถึงสิ่งนั้นด้วยความหวัง อยู่ด้วยความหวัง แต่ไม่เคยเห็นความหวัง และความหวังก็ไม่มีจบ ไม่มีสิ้นสุดเลย แล้วแต่จะหวังเรื่องอะไร

    เพราะฉะนั้น ไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงแน่นอน เพราะเหตุว่าเพียงหวังแล้วได้ แล้วก็หวังต่อไปอีก เพียงหวังอีก แล้วก็ได้อีก แล้วก็หวังต่อไปอีก จะมีความสุขได้อย่างไรในเมื่อไม่รู้จักพอ และไม่เข้าใจความจริงว่า แท้ที่จริงแล้วขณะนั้นเป็นอะไร ไม่มีสิ่งอื่นเลย มีเพียงสิ่งเดียวที่กำลังปรากฏแต่ละทาง ทางตากำลังเห็น ถ้าเป็นความเห็นที่ถูกต้อง ขณะนั้นไม่มีอย่างอื่น มีเพียงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นกับเห็นเท่านั้นเอง แล้วก็หมดไป ในขณะที่เสียงปรากฏ ความจริงคือเสียงที่ปรากฏกับได้ยินที่ปรากฏแล้วก็หมดไป แต่หวังอะไรจากสิ่งที่เพียงปรากฏ เพราะเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปอยู่ตลอดเวลา อย่างนี้จะเป็นความสุขที่แท้จริงได้ไหมคะ ไม่มีการจบสิ้นความหวัง ยิ่งหวังมาก ยิ่งเป็นทุกข์ เพราะมีความติดข้องด้วยความไม่รู้ในสิ่งที่ปรากฏ หลงเข้าใจว่า สิ่งที่กำลังปรากฏขณะนี้ยั่งยืน ไม่เกิด ไม่ดับเลย เช่น กำลังมีคนนั่งอยู่ที่นี่ ไม่ปรากฏว่าเกิดดับ เพราะไม่รู้ความจริงว่า แต่ละขณะจิต จิตเกิดขึ้นทีละหนึ่งขณะ ชีวิตก็เป็นอยู่ชั่วขณะจิตหนึ่งที่เกิดขึ้น ถ้าจิตนั้นดับแล้วไม่เกิดอีกเลย ไม่มีจิตอีกเลย ก็ไม่เป็นเรา หรือเป็นบุคคลหนึ่งบุคคลใด ดีไหมคะ ข้อสำคัญที่สุด การรู้ความจริง ไม่ได้หมายความว่า เราจะถึงการประจักษ์แจ้งความจริง เพียงแต่กำลังสะสมความเห็นถูกว่า ความเห็นจริงๆ ในสิ่งที่มีตั้งแต่เกิดจนตาย ความจริงความเห็นถูกคืออย่างไร และความไม่รู้คืออย่างไร

    เพราะฉะนั้น ถ้าไม่ได้ยินได้ฟังพระธรรมเลย ก็จะไม่รู้ แสวงหาความสุขด้วยความหวัง แต่ไม่รู้ความจริงว่า หวังอะไรในสิ่งที่เพียงปรากฏแล้วก็หมดไป ทุกอย่างที่กำลังปรากฏขณะนี้เป็นอย่างนี้

    เพราะฉะนั้น บางคนอาจจะบอกว่า ความสุขที่แท้จริงคือนิพพาน ไกลไหมคะ นิพพานคืออะไร ก็ไม่รู้ เพราะขณะนี้มีสิ่งที่ปรากฏแล้วไม่รู้ แล้วจะมีนิพพานเป็นอารมณ์ได้อย่างไร แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า นิพพานสุข นอกจากจะเข้าใจมั่นคงที่รู้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่เข้าใจว่าเป็นเรา เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ยั่งยืน ความจริงก็เป็นสิ่งที่มีจริงแต่ละหนึ่ง คิดดูนะคะ แต่ละอย่าง แยกย่อยออกไปแล้วก็เป็นธรรม หรือสิ่งที่มีจริงหลากหลายต่างกันมาก ตาก็ไม่ใช่หู ไม่ใช่คิด ไม่ใช่เสียง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเพียงแต่ละหนึ่ง ซึ่งเมื่อรวมกันก็ทำให้เข้าใจผิด คิดว่าเป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่ยั่งยืน เพราะไม่รู้ความจริง

    เพราะฉะนั้น ถ้าเป็นความสุขที่แท้จริงด้วยปัญญาที่สามารถเห็นจริงๆ ว่า ความสุขที่แท้จริงนั้นเมื่อเข้าใจความจริงของสิ่งที่กำลังมี กำลังปรากฏ จนกระทั่งสามารถประจักษ์แจ้ง แล้วรู้ว่า สิ่งที่มีจริงขณะนี้เกิดปรากฏแล้วหมดไป สุขไหมคะ เพียงเกิดปรากฏว่า มีสั้นมาก ชั่วคราวจริงๆ แล้วก็ดับไป สุขจริงๆ หรือเปล่า จะเป็นสุขจริงๆ ไม่ได้เลย

    เพราะฉะนั้น สุขที่แท้จริงก็จะเริ่มจากความเห็นถูก ความเข้าใจถูกที่ทำให้ไม่ยึดมั่นในสิ่งที่ปรากฏว่า เป็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เที่ยง


    หมายเลข 9283
    19 ก.พ. 2567