เสียงมีความหมายหรือไม่


    ท่านอาจารย์ พูดคำว่า “เสียง” เพื่อจะรู้ลักษณะของเสียง เสียงเป็นสิ่งที่มีจริงมีลักษณะ ที่เราใช้คำว่า เป็นเสียง ไม่ใช่เป็นกลิ่น ไม่ใช่เป็นรส ใช้คำต่างกัน เพื่อแสดงความหมายของสิ่งที่มีลักษณะอย่างนั้นๆ เสียงมีความหมายหรือเปล่า

    ผู้ฟัง เสียงเป็นเสียง ไม่มีความหมายครับ

    ท่านอาจารย์ อย่าลืมว่า เสียงไม่มีความหมายแน่นอน เสียงไม่รู้อะไรเลย เสียงเกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัยแล้วก็ดับไป แล้วอะไรรู้ความหมายของเสียง

    ผู้ฟัง ก็มีสภาพรู้ที่รู้

    ท่านอาจารย์ นี่ก็ต่างกันแล้วระหว่างเสียงกับสภาพรู้ เพราะฉะนั้น ในขณะที่เสียงปรากฏ มีสภาพที่ได้ยินเสียงนั้นชัดเจนไม่ใช่เสียงอื่น ถูกต้องไหมคะ

    ผู้ฟัง ถูกต้องครับ

    ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น ได้ยินจะคิดเรื่องราวต่างๆ ได้ไหม ได้ยินจะคิดว่า เสียงนั้นหมายความว่าอะไรได้ไหม

    ผู้ฟัง ตามที่ศึกษา ไม่ได้

    ท่านอาจารย์ ตามที่ศึกษา แล้วเข้าใจว่าอย่างไร

    ผู้ฟัง เข้าใจว่าได้หรือไม่ได้ เพราะฉะนั้น ถ้าจะอ้างตามที่ศึกษา ไม่ได้หมายความว่าเราเข้าใจอย่างนั้น เพียงแต่เรากล่าวตามที่ได้ศึกษา ยังไม่ใช่ความเข้าใจที่ไตร่ตรองพิจารณาแล้วมั่นคงว่า เสียงเป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง มีจริงๆ ปรากฏว่ามีจริงเมื่อมีจิตได้ยินเกิดขึ้น แต่เสียงเองไม่ได้มีความหมายอะไรเลยทั้งสิ้น เสียงเป็นเสียงเท่านั้น แต่เสียงที่หลากหลายกันทำให้สภาพที่ได้ยินเสียงมีสภาพที่จำเสียงนั้นด้วยในขณะที่เสียงปรากฏ

    เพราะฉะนั้น เมื่อจำลักษณะความหลากหลายความต่างกันของเสียง ก็คิดถึงความหมายของเสียงนั้นๆ เพราะฉะนั้น เสียงเองไม่ได้มีความหมายอะไรเลยทั้งสิ้น เสียงเป็นเสียง แต่สภาพที่ได้ยิน สภาพที่เข้าใจเสียงนั้นต่างหากที่คิดว่า เสียงนั้นหมายความถึงอะไร คำเดียวกันต่างภาษา ความหมายต่างกัน แม้แต่เสียงอย่างนี้ ถ้าคนไทยได้ยิน เข้าใจอย่างหนึ่ง คนจีนได้ยิน ก็อาจจะเข้าใจอีกอย่างหนึ่งก็ได้ เพราะว่าตัวเสียงเองไม่มีความหมาย แต่สภาพธรรมที่ได้ยินเสียง และจำเสียง เห็นความหลากหลายของเสียง จนกระทั่งสามารถจำได้ว่า เวลาที่เสียงนั้นปรากฏ เสียงนั้นหมายความว่าอะไร เพราะคิดถึงลักษณะที่หลากหลายของเสียง

    ด้วยเหตุนี้การศึกษาธรรมจึงต้องละเอียดที่จะต้องเข้าใจแต่ละคำ หมายความถึงสภาพธรรมแต่ละอย่างที่จะต้องเข้าใจจริงๆ อย่าใจร้อนจะรู้เรื่องราวมากๆ ของสิ่งนั้น แล้วก็สับสน โดยไม่รู้ว่า ขณะนี้เสียงกำลังปรากฏ แล้วความจริงก็คือเสียงเกิดขึ้น แล้วก็ดับไป การจะรู้ความจริงของเสียงก็คือ ทุกสิ่งแม้แต่เสียงก็มี แต่จากไม่มี แล้วก็มี แล้วก็หามีไม่ ทุกอย่างหมด ตั้งแต่เกิดจนตายเป็นอย่างนี้ เพื่อให้รู้ความจริงว่า ไม่ใช่ของใคร แล้วไม่มีใครเป็นเจ้าของ


    หมายเลข 8987
    19 ก.พ. 2567