เพียรเป็นได้ทั้งกุศลและอกุศล
ศุกล เรื่องของ “เพียร” เป็นเรื่องที่ละเอียดมาก โดยมากเป็นตัวเป็นตนที่จะเพียร ถ้าโดยความเข้าใจแล้วต้องไม่ลืมว่า ไม่มีตัว ไม่มีตน
ท่านอาจารย์
ศุกล เพียรที่จะฟังคำอธิบายให้เกิดความเข้าใจ
ท่านอาจารย์
ศุกล เพียรครับ
ท่านอาจารย์ นี่คือความเพียรทางกายหรือเปล่าคะ ท่านถึงไม่ให้ไปทรมานทำอะไรด้วยความต้องการ อยากจะเห็น อยากจะนั่ง อยากจะสบาย นั่นเป็นอกุศลทั้งหมด ไม่ใช่เข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏให้ถูกต้องตามความเป็นจริง
เพราะฉะนั้นความรู้ถูกนี่สำคัญมาก ต้องรู้จริงๆว่า ความรู้นั้นไม่ได้รู้อย่างอื่น ปัญญาของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสรู้อย่างอื่นเลย นอกจากขณะนี้ที่กำลังเห็น ประจักษ์แจ้งความจริงของขณะที่กำลังเห็น กำลังได้ยิน กำลังมีชีวิตปกติธรรมดา โลภะ โทสะ โมหะ โลก นี่คือโลก ทุกอย่างเป็นโลก เกิดดับ
นี่คือสิ่งที่พระผู้มีพระภาคตรัสรู้ ปัญญาต้องรู้อย่างนี้ เพราะฉะนั้นขณะใดก็ตามที่ความเพียรนั้นเป็นไปเพื่อเข้าใจสิ่งนี้ ขณะนั้นก็เพียรแล้ว เพียรนั่ง เพียรฟัง นี่คือความเพียรทางกาย ไม่ใช่ให้ไปทำอย่างอื่นที่ไม่รู้อะไรเลย และทำไปด้วยความพอใจ หวังว่าจะสบาย หวังว่าจะสงบ หวังอะไรก็ไม่ทราบ แต่ไม่รู้ว่า พระผู้มีพระภาคตรัสรู้ความจริงในขณะนี้
เพราะฉะนั้นถ้าเพียรเพื่อที่เข้าใจสภาพธรรมในขณะนี้ นี่ทุกคนนั่นตั้ง ๒ ชั่วโมงแล้ว ใช่ไหมคะ เพียรไหมคะ อาจจะหิวน้ำ อาจจะเมื่อย อยากจะเดิน แต่ก็มีความเพียรที่จะฟัง
เพราะฉะนั้นไม่ต้องไปเพียรทำอย่างที่เขาทำกัน คือ เพียรทำด้วยความเป็นตัวตนเพื่อความไม่รู้ และเพื่อความพอใจ เพื่อความสบาย แต่ไม่ใช่เพื่อปัญญารู้สิ่งที่พระผู้มีพระภาคตรัสรู้ คือ เพียรเข้าใจสิ่งที่กำลังปรากฏ ให้ถูกต้องตามความเป็นจริง