ความต่างและความเหมือน
ศุกล ขอเรียนถามว่า เจริญสติปัฏฐานเหมือนกับการเจริญวิปัสสนาไหมคะ ถ้าเหมือน เหมือนกันอย่างไร ถ้าไม่เหมือน ไม่เหมือนกันอย่างไร
ท่านอาจารย์
ศุกล คำตอบเหมือนกันหรือไม่เหมือนกันครับ
ท่านอาจารย์
เพราะฉะนั้นถ้าใครเขาบอกว่า นี่คือสติปัฏฐาน ด้วยความไม่รู้ เราคิดว่าใช่สติปัฏฐาน ทั้งๆที่ไม่ใช่สติปัฏฐาน พอเขาบอกว่าเหมือน ก็เหมือน
เพราะฉะนั้นเพียงคำพูดไม่พอ ไม่ทำให้เข้าใจ ที่ท่านเคยอุปมาไว้ว่า เหมือนคนตาบอดที่แสวงหาผ้าขาว แล้วมีคนหนึ่งเอาผ้าดำไปให้คนตาบอด คนตาบอดก็ดีใจคิดว่าได้ผ้าขาว ผ่อง สะอาด ส่วนคนตาดีก็รู้ว่า คนตาบอดไม่ได้ผ้าขาว ได้ผ้าดำ แต่คนตาบอดไม่รู้ต่างหากว่า เขาได้ผ้าดำ ส่วนคนตาดีรู้ว่าคนนั้นไม่ได้ผ้าขาว
เพราะฉะนั้นพระผู้มีพระภาคเปรียบเหมือนผู้รักษาคนตาบอดให้มองเห็นตามความเป็นจริง ให้รู้ว่า ผ้าขาวคืออย่างไร ผ้าดำคืออย่างไร ไม่ใช่เพียงแต่ตามๆกันไป
เพราะฉะนั้นถ้าจะตอบว่า เหมือน คนนั้นก็ยังไม่รู้อีก ใช่ไหมคะ
ศุกล คำถามที่ ๒ คำว่า “สติ” เฉยๆ ต่างจากการเจริญสติปัฏฐานอย่างไร
ท่านอาจารย์
วันนี้เข้าใจเรื่อง “โลก” หรือยัง วันนี้เข้าใจ “อารมณ์” หรือยัง วันนี้เข้าใจ “จิต” หรือยัง วันนี้เข้าใจ “เจตสิก” หรือยัง
ถ้าเข้าใจ เป็นจิตหรือเป็นเจตสิก ต้องค่อยๆขยับไปทีละน้อย แต่พอจะเดาได้ใช่ไหมคะ ถ้าไม่ได้ ต้องกลับมาหาความต่างกันของจิตและเจตสิก เพราะเหตุว่าเป็นสภาพรู้ เป็นนามธรรม เป็นธาตุรู้ ซึ่งเกิดพร้อมกัน ดับพร้อมกัน รู้อารมณ์เดียวกัน แต่ทำไมธรรมหนึ่งเป็นจิต ส่วนธรรมอื่นๆเป็นเจตสิก มีสภาพความจริงแล้วต้องเป็นความจริง ซึ่งมีลักษณะที่สามารถจะค่อยๆเข้าใจและค่อยๆพิสูจน์ได้
ศุกล จากคำถามตอนแรกที่ผมได้เรียนถามท่านอาจารย์ถึงลักษณะที่ต่างกัน ขอคำจำกัดความของท่านอาจารย์ว่า ลักษณะของสติต่างกับความคิด
ท่านอาจารย์
ศุกล หมายความว่า สติก็คิดได้ใช่ไหมคะ
ท่านอาจารย์
ศุกล ส่วนคิดเฉยๆ ที่ไม่ประกอบด้วยสติ
ท่านอาจารย์
ศุกล เช่น ยกตัวอย่างหน่อยครับ
ท่านอาจารย์
ศุกล เพียงแค่คิดเฉยๆ แต่ทานนั้นยังไม่สำเร็จ
ท่านอาจารย์