อกุศลทั้งหมดควรเป็นที่รังเกียจ -พฐ.48


    ผู้ฟัง ก็ฟังเหมือนกัน ก็เข้าใจว่าโลภะที่คนอื่นเขามีต่อเราก็น่ารังเกียจ แต่ถ้าคนอื่นเขามาเมตตาต่อเรา แล้วเราเกิดโลภะก็ยิ่งน่ารังเกียจใช่ หรือไม่

    ท่านอาจารย์ ถูกต้อง เพราะอกุศลทั้งหมดควรเป็นที่รังเกียจ ทั้งโลภะ ทั้งโทสะ ทั้งโมหะ ไม่ใช่รังเกียจแต่โทสะ

    ผู้ฟัง แม้แต่คำชมที่คนอื่นชมเรา เราก็ไม่รู้ว่าเขาชมด้วยโลภะ หรือเมตตา แล้วที่ท่านอาจารย์สอน พอเรานึกถึงคำชม ก็คิดว่าน่ารังเกียจแล้วเพราะจะทำให้เราติด และมีอกุศลเพิ่มขึ้นถ้าปัญญาเรายังไม่คมกล้า

    ท่านอาจารย์ จะเห็นธรรมตามความเป็นจริงได้เมื่อได้ศึกษาธรรมเพิ่มขึ้นโดยละเอียด และเข้าใจ ปัญญาที่เข้าใจตั้งแต่ขั้นการฟัง ก็จะทำให้ความคิดถูกต้องมากขึ้น เป็นสัมมาสังกัปปะได้ เป็นกุศลวิตกได้ มิฉะนั้นเราก็จะตรึกไปในเรื่องของอกุศลตลอด แม้เพียงจะคิดให้ตรงต่อธรรมก็คิดไม่ได้ ถ้าไม่ได้พิจารณาโดยละเอียด

    ผู้ฟัง ไม่ว่าใครจะมาชม หรือใครจะมาชอบเรา ก็ไม่มีอะไร

    ท่านอาจารย์ ถ้าเป็นผู้ที่รู้สภาพธรรมตามความเป็นจริง เพราะฉะนั้นที่พึ่งจริงๆ คือสติปัฏฐาน ถ้าเกิดยินดีเป็นความจริง แต่ปัญญาสามารถที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมนั้นได้ สติปัฏฐานสามารถที่จะรู้ลักษณะของสภาพธรรมได้ทุกอย่าง

    ที่มา ...

    พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 48


    หมายเลข 6422
    18 ม.ค. 2567