วิตกเจตสิก เป็นได้ทั้งสัมมาสังกัปปะ หรือ มิจฉาสังกัปปะ
วิตกเจตสิกเป็นได้ทั้งสัมมาสังกัปปะหรือมิจฉาสังกัปปะ เพราะเหตุว่าเป็นสภาพที่จรดในอารมณ์ หรือเป็นสภาพที่ตรึก หรือคิดอารมณ์ต่าง ๆ จะสังเกตได้ว่าถ้ากุศลจิตเกิด การดำริ การตรึก การคิดเป็นไปทางฝ่ายกุศล แต่ขณะใดที่อกุศลจิตเกิดขึ้น การตรึก การคิดนั้นตรงกันข้าม เช่นคิดเรื่องโกรธนี้ที่จะต้องโกรธ ขณะนั้นไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล แต่มีฉันทะที่จะโกรธ เพราะฉะนั้นในขณะนั้นก็ต้องเป็นมิจฉาสังกัปปะ แต่บางเวลาอาจจะเห็นโทษของความโกรธ และเห็นว่าความโกรธไม่มีประโยชน์เลย ในวันหนึ่ง ๆ เคยเป็นอย่างนี้บ้างไหม ที่จะเห็นโทษของความโกรธ เห็นโทษของอกุศล ในขณะนั้นก็ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่บุคคล ไม่ใช่ตัวตน แต่เป็นสัมมาสังกัปปะ คือ วิตกเจตสิกซึ่งเป็นกุศลเกิดขึ้นในขณะนั้น
เพราะฉะนั้นการคิดหรือว่าสภาพของวิตกเจตสิกนี้ก็เป็นทางของกรรม คือถ้าเป็นสัมมาสังกัปปะก็เป็นทางของกุศลกรรม ถ้าเป็นมิจฉาสังกัปปะก็เป็นทางของอกุศลกรรม