ภัยของมโนสัญเจตนาหารอุปมาเหมือนการถูกฉุดเข้าสู่หลุมถ่านเพลิง
ในจิตดวงเดียวซึ่งเป็นนามธรรม ซึ่งเกิดดับอย่างรวดเร็ว พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอาหารปัจจัยไว้ ๓ อย่าง
เช่นเดียวกับในรูปกลุ่มหนึ่ง แม้ว่าจะเป็นรูปกลุ่มที่เล็กที่สุดก็ตาม ในรูปกลุ่มนั้น ต้องมีอาหารรูป คือ โอชะ รวมอยู่ด้วย ๑ รูป เพราะฉะนั้นในจิตดวงหนึ่ง ซึ่งมีเจตสิกหลายดวง แต่ว่าที่เป็นอาหารปัจจัยนั้นมี ๓
ข้ออุปมาที่แสดงโทษภัยของมโนสัญเจตนาหาร ข้อความใน ปปัญจสูทนี อุปมาว่า พระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมเปรียบด้วยหลุมถ่านเพลิง ซึ่งมีข้อความอธิบายว่า
ส่วนในข้อเปรียบกับหลุมถ่านเพลิง มีเนื้อความว่า ภพ ๓ เปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิง อันหมายความว่า เป็นที่เร่าร้อนใหญ่ บุรุษ ๒ คนที่จับบุรุษคนหนึ่งข้างละแขน ดึงเข้าไปในหลุมถ่านเพลิงนั้น ฉันใด มโนสัญเจตนาก็ฉันนั้น โดยหมายความว่า ฉุดเข้าไปในภพทั้ง ๓
เพราะฉะนั้นภิกษุใดเห็นมโนสัญเจตนาหารว่า เป็นเหมือนบุรุษที่ฉุดเข้าไปในหลุมถ่านเพลิงอย่างนั้น ภิกษุนั้นก็ครอบงำความยินดีในมโนสัญเจตนาหารนั้นได้ อันนี้เป็นการประกอบเนื้อความในข้อเปรียบกับหลุมถ่านเพลิง
การมาสู่โลกนี้ของท่านผู้ฟังทุกท่าน มีใครฉุดมาหรือเปล่า ? ไม่มี ใครพามา ? มโนสัญเจตนาหารซึ่งเป็นกรรม เป็นเจตนาเจตสิก ซึ่งกระทำกิจห้สำเร็จลงไปเป็นกุศลกรรม ทำให้เกิดในสุคติภูมิ แต่ทรงอุปมาว่า
บุรุษ ๒ คนที่จับบุรุษคนหนึ่งข้างละแขน ดึงเข้าไปในหลุมถ่านเพลิง ไม่ได้พาไปในที่ ๆ สบายเลยใช่ไหม ? หลุมถ่านเพลิง ไม่ว่าจะเป็นภพไหนก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นกามภพ มนุษย์ สวรรค์ หรือว่านรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน หรือว่ารูปพรหมก็ตาม อรูปพรหมก็ตาม พระผู้มีพระภาคเปรียบเหมือนหลุมถ่านเพลิง เพราะเหตุว่านำมาซึ่งความเร่าร้อน การเกิดขึ้นและดับไป