มาฟังพระธรรมของพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า


    อุไรวรรณ   มี

    ผู้ฟัง ว่า มีผู้มีฟังธรรมแล้ว ฟังไปสักพักหนึ่งก็จะเบื่อ แล้วก็จะจากไป

    อรรณพ   เรามาฟังอะไร ก็มาฟังพระธรรมคำสั่งสอนที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงให้รู้ความจริง และจริงๆความจริงก็ไม่พ้นสิ่งที่กำลังปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ และข้อความในพระสูตร ท่านก็แสดงสภาพธรรมทั้ง ๖ ทางทั้งนั้นเลย และรู้เพื่อละ ไม่ว่าจะทรงจำแนกออกโดยนัยไหน อย่างในพระสูตรนี้ โดยนัยของขันธ์ ๕ ที่เราติดในรูปขันธ์ รูปขันธ์ก็ปรากฏทางตา หู จมูก ลิ้น กาย  เพราะฉะนั้นนามธรรมปรากฏทางใจ เราก็ติดในรูปธรรมนามธรรม หรือติดอยู่ในขันธ์ ๕ หรือสรุปก็ติดในสภาพธรรมที่ยึดถือผิดว่า เป็นสัตว์ บุคคล ตัวตน แล้วพระองค์ก็ทรงแสดงตรงนี้ เราฟังแล้วเราก็เบื่อ เพราะมาฟังอยากจะได้อะไรใหม่ๆ อยากจะได้เรื่อง อยากจะได้ชื่อมากๆ ก็สนุกไปกับเรื่องกับชื่อ เพลินไปกับทะเลภาพ ทะเลชื่อ ทะเลเรื่องราวต่างๆ

    เพราะฉะนั้น ที่เบื่อ ก็คือเบื่อที่จะรู้ความจริง เบื่อที่จะฟังพระธรรมที่แสดงสิ่งที่กำลังปรากฏจริงๆ คือ เบื่อพระธรรมของพระพุทธเจ้านั่นเอง ไม่ได้เบื่ออย่างอื่นเลย โลภะเขาชักนำไปที่อยากจะรู้สิ่งต่างๆ ซึ่งจริงๆแล้ว โลภะไม่มีทางอยากรู้ความจริงเลย แต่ว่าปัญญา กุศลฉันทะเป็นไปเพื่อเห็นประโยชน์ของการเห็นความจริง และเห็นประโยชน์ของการฟังธรรม

    เพราะฉะนั้นถ้าไม่ฟังธรรม ก็ให้รู้ว่า เป็นเพราะอกุศลจิต ด้วยโลภะ สลับด้วยโทสะ โทสะก็เบื่อ โลภะก็อยากไปหาวิธีการ หารูปแบบใหม่ๆ ก็เป็นเรื่องของโลภะที่ติดไปเรื่อยๆในเรื่องราว ติดในอะไรต่างๆ


    หมายเลข 4157
    20 ก.ค. 2558