รูปขันธ์ไม่เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยของกุศลจิต


    ที่ว่ารูปขันธ์ทั้งหมดไม่เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยของกุศลจิต มีท่านผู้ฟังสงสัยไหมคะ

    ท่านผู้ฟังคิดว่าถูกต้องไหม ?   ที่ว่ารูปขันธ์ไม่เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยของกุศลจิต

    ทรงเกียรติ   อันนี้ก็น่าคิดอยู่  ทำไมจึงเป็นอย่างนั้นล่ะครับ  ก็ขณะที่รูปมาเป็นอารมณ์ทางตา   ขณะที่สติเกิดขึ้นระลึกรู้ว่าเป็นเพียงรูปธรรม ขณะนั้นจิตก็เป็นกุศล ทำไมว่าเป็นกุศลจิตไม่ได้ในรูปทั้งหมด

    ท่านอาจารย์ เป็นอารัมมณปัจจัยของกุศลจิตได้  แต่ไม่เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยของกุศล

    นี่เป็นความละเอียดของสภาพธรรมซึ่งเป็นอยู่ในชีวิตประจำวัน  ซึ่งจะต้องพิจารณาจริงๆ รูปธรรมเป็นปัจจัยให้เกิดกุศลจิตได้  เป็นปัจจัยให้เกิดอกุศลจิตได้ แต่รูปธรรมทั้งหมดไม่เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยของกุศลจิต

    จริงหรือไม่จริง  ธรรมนี้ต้องพิจารณา  เห็นรูปเป็นประจำ ชีวิตประจำวันที่จะให้ทราบตามความเป็นจริงว่า ขณะที่เห็น หลังจากที่เห็นแล้วเป็นกุศลหรืออกุศล เป็นกุศลก็ได้   อกุศลก็ได้  เพราะเหตุว่ารูปธรรมเป็นอารัมมณปัจจัยของกุศลจิตได้ ของอกุศลจิตได้

    แต่รูปนั้นจะเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยของกุศลจิตไม่ได้ รูปนั้นจะเป็นอารัมมณธิปติปัจจัยของกุศลจิตไม่ได้  นี่เป็นเหตุที่จะต้องพิจารณาธรรมจริง ๆ  เวลาที่เห็นพระพุทธรูป   เกิดกุศลจิต พระพุทธรูปเป็นอารัมมณปัจจัยทำให้กุศลจิตเกิด แต่พระพุทธรูปไม่เป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยของกุศลจิต เพราะเหตุว่ารูปทั้งหมดไม่สามารถที่จะทำให้กุศลจิตงอกงามไพบูลย์ได้ มีรูปไหนบ้างที่จะทำให้กุศลจิตงอกงามไพบูลย์ แต่ที่กุศลจิตจะงอกงามไพบูลย์ เพราะการสะสมอบรมกุศลจิตบ่อยๆ เนืองๆ ไม่ใช่เพราะอาศัยรูปนั้นเป็นอารัมมณาธิปติให้กุศลจิตเกิด  แต่ที่กุศลจิตจะเพิ่มขึ้น งอกงามไพบูลย์ขึ้น เพราะการสั่งสมของกุศลแต่ละขณะ  ทำให้กุศลเจริญขึ้น แต่กุศลจะเจริญขึ้นเพราะรูปเป็นอธิปติปัจจัยไม่ได้ แต่เพราะปัจจัยอื่น เช่น สหชาตาธิปติ เพราะฉันทะในกุศล หรือเพราะวิริยะในกุศล หรือเพราะปัญญาในกุศลได้  แต่ไม่ใช่เพราะรูปนั้นเป็นอารัมมณธิปติปัจจัยให้กุศลเจริญขึ้น

    เวลาที่ท่านผู้ฟังนึกอยากจะทำบุญถวายบางสิ่งบางประการเป็นพิเศษ ลองพิจารณาว่า   ขณะนั้นจะเป็นอารัมมณธิปติปัจจัยของกุศลได้ไหม ถ้าเห็นผ้าเนื้อดี จีวรที่เหมาะควรสำหรับการใช้สอยอย่างสบาย เป็นปัจจัยให้เกิดกุศลจิตคิดที่จะถวายแก่พระภิกษุได้ แต่ว่าที่จะเป็นอารัมมณาธิปติปัจจัยของกุศลได้ไหม ?

    นี่คือชีวิตประจำวันแท้ ๆ  ที่จะต้องเข้าใจตามความเป็นจริงให้ถูกต้อง  และก็ควรที่จะสังเกต บางท่านนี้ได้ถวายทานบางประการที่ประณีต เป็นที่พอใจในกุศล ขณะนั้นต้องพร้อมด้วยสติสัมปชัญญะ  จึงจะรู้ว่าเป็นโลภมูลจิตหรือว่าเป็นกุศลจิต และที่กุศลจะเพิ่มพูนไพบูลย์ขึ้น ไม่ใช่ว่าเพราะติด หรือว่ายินดีพอใจในรูปธรรมที่ปรากฏ  แต่เพราะเหตุว่าระลึกถึงกุศล   อย่าลืม ระลึกถึงสภาพความผ่องใสของจิต ด้วยโยนิโสมนสิการจึงจะทำให้จิตเป็นกุศลเพิ่มพูนขึ้นได้ แต่ถ้าไปติดในทานนั้นโดยความที่เป็นวัตถุที่ประณีต หรือโดยความที่เป็นเราที่กระทำทานนั้น หรือว่าวัตถุทานนั้นเป็นของเรา  ขณะนั้นให้ทราบว่าไม่ใช่กุศลจิตแล้ว

    การที่จะอบรมเจริญปัญญา ก็จะต้องรู้ลักษณะของกุศลตามความเป็นจริงว่า  กุศลจิตไม่ใช่อกุศลจิต แล้วกุศลจึงจะเจริญขึ้นได้


    หมายเลข 2577
    29 ส.ค. 2558