พุทธการกธรรม : วิริยะบารมี


    บารมีข้อต่อไปมีข้อความว่า

    อันพุทธการกธรรมนั้นจักมีแต่เพียงเท่านี้ก็หามิได้ เธอจักเลือกเฟ้นธรรมอันเป็นเครื่องบ่มโพธิญาณอื่นอีก เมื่อเราเลือกเฟ้นธรรมในกาลนั้น ได้พบวิริยบารมี ซึ่งพระพุทธเจ้าผู้แสวงหาซึ่งคุณอันยิ่งใหญ่ครั้งก่อนๆ ได้บำเพ็ญอบรมกันมา จักเป็นพุทธการกธรรมข้อที่ ๕ สอนตนว่าดังนี้

    เธอจงบำเพ็ญวิริยบารมี อันเป็นพุทธการกธรรมข้อที่ ๕ นี้ สมาทานให้มั่นต่อไป ถ้าเธอปรารถนาจะบรรลุโพธิญาณ ราชสีห์ย่อมมีความเพียรไม่ย่อหย่อน มีใจอันความเพียรประคองไว้ทุกเมื่อในการนั่ง การยืน และการเดิน ฉันใด เธอก็เหมือนฉะนั้น จงประคองความเพียรให้มั่นทุกภพ บำเพ็ญวิริยบารมีแล้ว จักบรรลุสัมโพธิญาณแล

    ทุกภพ ทุกชาติที่เกิด ไม่ใช่เฉพาะชาตินี้ชาติเดียว ไม่ท้อถอย ไม่คิดว่ายากเกินไปเมื่อไรจะบรรลุสักที หรืออะไรอย่างนั้น แต่รู้ว่าสภาพธรรมที่จะรู้แจ้ง คือ ขณะนี้ที่กำลังปรากฏความเกิดดับ ความไม่เที่ยง ความไม่ใช่ตัวตนของสภาพธรรมที่กำลังปรากฏ มีวิริยะ คือ มีความเพียร ระลึกศึกษาที่จะเข้าใจรู้ลักษณะของสภาพธรรมยิ่งขึ้นทุกชาติทุกภพไป นั่นจึงจะเป็นวิริยบารมี ไม่ใช่เพียรสักหน่อยหนึ่ง เดือนหนึ่ง สองเดือน สามเดือน หรือปีหนึ่ง แต่ว่าทุกภพทุกชาติ

    ที่มา ...

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ครั้งที่ 736


    หมายเลข 2230
    31 ธ.ค. 2566