สันตีรณจิตทำตทาลัมพนกิจได้ทั้ง ๖


    สำหรับทางใจ ให้ทราบว่า สันตีรณจิตเกิด แต่ไม่ได้ทำ สันตีรณกิจ ทำตทาลัมพนกิจ เพราะว่าบางวันจิตใจเต็มไปด้วยเรื่องที่หมกมุ่นครุ่นคิด ทั้งๆ ที่สิ่งนั้นก็ดับไปแล้ว อย่างเสียงที่ได้ยิน ไม่มีใครสามารถเก็บห่อรวบรวมเอาไว้ดูได้ ไม่ว่าจะเป็นคำชม หรือคำนินทาว่าร้ายต่างๆ ก็ตาม สภาพธรรมของนามธรรมและรูปธรรมเกิดและดับสูญสิ้นไปหมดไม่เหลือเลย แต่ทำไมยังคิดถึงคำที่ได้ยินและไม่ลืม ขณะนั้นก็แสดงว่า มีตทาลัมพนกิจ โดยสันตีรณจิตทำกิจตทาลัมพนะด้วย เพราะว่าธรรมดาของการรู้อารมณ์ทางใจ จะไม่มีจิตเกิดมากเหมือนทางปัญจทวาร เนื่องจากอารมณ์ไม่ได้กระทบปสาทจริงๆ แต่ใจสามารถคิดได้ เคยเห็น ดับไปแล้ว ยังคิดถึง สิ่งที่เห็นอีก เคยได้ยิน ดับไปแล้ว ก็ยังคิดถึงสิ่งที่ได้ยินอีก เคยได้กลิ่น ดับไปแล้ว ก็ยังคิดถึงกลิ่นที่เคยได้กลิ่นนั้นอีก

    แสดงให้เห็นว่า ทางใจไม่ต้องอาศัยรูปมากระทบ ทางใจมีมโนทวาราวัชชนจิตที่เกิดขึ้นรำพึงถึงหรือนึกถึงอารมณ์นั้น และทันทีที่มโนทวาราวัชชนจิตดับ โลภมูลจิต ก็เกิด หรือโทสมูลจิตก็เกิด หรือกุศลจิตก็เกิด และถ้าเป็นอารมณ์ที่ชัดเจนก็มี ตทาลัมพนจิตเกิดต่อจากกุศลและอกุศลนั้น ซึ่งสันตีรณจิตทำตทาลัมพนกิจได้ทั้ง ๖ ทวาร

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1515


    หมายเลข 14398
    28 พ.ย. 2568