ลักษณะของสันตีรณจิตทั้ง ๓ ดวง


    สำหรับลักษณะของสันตีรณจิตทั้ง ๓ ดวง ข้อความใน อัฏฐสาลินี มีว่า

    สฬารัมมณะ วิชชานลักขณา มีการรู้อารมณ์ ๖ เป็นลักษณะ

    คือ ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ สันตีรณะสามารถรู้อารมณ์ได้ทั้ง ๖ ทาง

    สันตีรณาทิรสา มีการพิจารณาอารมณ์เป็นต้นเป็นรสะ

    ตถาภาวปัจจุปัฏฐานา มีภาวะอย่างนั้น คือ พิจารณาอารมณ์ เป็นอาการปรากฏ

    หทยวัตถุปทัฏฐานา มีหทยวัตถุเป็นเหตุใกล้ให้เกิด

    ดูเหมือนไม่น่าจะต้องทรงแสดงให้ละเอียดอย่างนี้เลย ทำให้ยุ่งยาก หรือทำให้เบื่อ แต่ความจริงเพื่อทำให้เห็นความละเอียดของจิตแต่ละประเภทว่า แม้เป็นจิตที่มี สิ่งที่ปรากฏทางตาเป็นอารมณ์รูปเดียวที่ยังไม่ดับเลย แต่จิตแต่ละประเภทก็เกิดขึ้น มีลักษณะต่างกัน และทำกิจการงานต่างกัน ซึ่งสันตีรณจิตเป็นวิบากจิตที่ ต่างกับสัมปฏิจฉันนะและทวิปัญจวิญญาณตามที่ได้กล่าวถึงแล้ว คือ นอกจาก สันตีรณจิตจะมี ๓ ดวงแล้ว ยังต่างกันโดยอารมณ์

    สำหรับจักขุวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นกุศลวิบากหรืออกุศลวิบาก จะมีอารมณ์เดียว คือ เห็นสิ่งที่ปรากฏทางตา โสตวิญญาณไม่ว่าจะเป็นกุศลวิบากหรือ อกุศลวิบากก็มีอารมณ์เดียว คือ ได้ยินเสียงที่ปรากฏทางหู ฆานวิญญาณมีอารมณ์เดียว คือ กลิ่น ชิวหาวิญญาณมีอารมณ์เดียว คือ รส กายวิญญาณมีอารมณ์เดียว คือ โผฏฐัพพะ

    นี่คือลักษณะของทวิปัญจวิญญาณ แต่สำหรับสัมปฏิจฉันนะสามารถรับรู้อารมณ์ต่อได้ทั้ง ๕ อารมณ์ ทีละอารมณ์ แต่สันตีรณะสามารถรู้อารมณ์เพิ่มขึ้นเป็น ๖ ทวาร

    นี่คือความต่างกันของจิตแต่ละประเภท จักขุวิญญาณรู้อารมณ์เดียวทาง ทวารเดียว โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณรู้อารมณ์เดียวทางทวารเดียว สัมปฏิจฉันนะรู้ได้ ๕ อารมณ์ทางทวาร ๕ ทวาร ทีละทวาร แต่สันตีรณะรู้อารมณ์ได้ ๖ อารมณ์ และ ๖ ทวาร ทีละทวาร

    ขณะนี้กำลังมีสันตีรณะ แต่เมื่อไม่สามารถประจักษ์ลักษณะของสันตีรณะ ก็เพียงฟังให้เข้าใจว่า มีจิตที่ทำกิจสันตีรณะต่อจากสัมปฏิจฉันนะในขณะที่รูปยังไม่ดับ ในขณะที่กำลังเห็น หรือกำลังได้ยิน กำลังได้กลิ่น กำลังลิ้มรส กำลังรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส

    อกุศลวิบาก ๗ ดวง กุศลวิบาก ๘ ดวง รวมเป็นอเหตุกวิบาก ๑๕ ดวง ในชีวิตประจำวัน มีใครขาดจิตดวงไหนใน ๑๕ ดวงนี้บ้างไหม ไม่รู้ แต่ไม่ขาด มีครบทุกคน

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1514


    หมายเลข 14395
    28 พ.ย. 2568