อุปมาวิถีจิตด้วยเรื่องเด็กชาวบ้าน
ข้ออุปมาเปรียบเทียบอีกเรื่องหนึ่ง เปรียบด้วยเรื่องเด็กชาวบ้าน
เด็กชาวบ้านหลายคนเล่นดินอยู่ที่ระหว่างถนน เผอิญเหรียญกหาปณะ ไปกระทบมือเด็กคนหนึ่ง เด็กคนนั้นพูดว่า อะไรนี่กระทบมือเรา ขณะนั้นเด็ก คนหนึ่งบอกว่า นั่นเป็นสีขาวนี่ อีกคนหนึ่งจับเสียแน่นพร้อมกับดิน อีกคนหนึ่ง พูดว่า นี่เป็นสี่เหลี่ยมหนา อีกคนหนึ่งพูดว่า นั่นคือเหรียญกหาปณะ ขณะนั้นเขานำเหรียญนั้นไปให้มารดา มารดาของเด็กนั้นก็เอาไปใช้ได้
ความเป็นไปของภวังคจิต เปรียบเหมือนกาลที่พวกเด็กๆ นั่งเล่นอยู่ที่ระหว่างถนน กาลที่อารมณ์กระทบปสาท เปรียบเหมือนเหรียญกหาปณะกระทบมือ กาลที่ปัญจทวาราวัชชนะรู้อารมณ์ที่กระทบ เปรียบเหมือนกาลที่พูดว่า อะไรนี่ กาลที่จักขุวิญญาณทำทัสสนกิจ เปรียบเหมือนกาลที่เด็กพูดว่า นี่เป็นสีขาว กาลที่สัมปฏิจฉันนะทำสัมปฏิจฉันนกิจ เปรียบเหมือนกาลที่เด็กจับเสียแน่นพร้อมกับดิน กาลที่สันตีรณะทำสันตีรณกิจคือพิจารณาอารมณ์ เปรียบเหมือนกาลที่เด็ก พูดว่า นี่เป็นสี่เหลี่ยมหนา กาลที่มโนทวาราวัชชนะเกิดขึ้นทำโวฏฐัพพนกิจ ทางปัญจทวารเป็นกาลที่ตัดสินอารมณ์แน่นอนในขณะนั้น เปรียบเหมือนกาลที่เด็กพูดว่า นั่นเหรียญกหาปณะ กาลที่ชวนะเกิดขึ้น เปรียบเหมือนกาลที่มารดาเอากหาปณะไปใช้
ข้อความในอรรถกถาต่อไปมีว่า
ข้อเปรียบเทียบนี้แสดงอะไร
แสดงว่า ปัญจทวาราวัชชนะ สัมปฏิจฉันนะ สันตีรณะ โวฏฐัพพนะ ชวนะ ไม่เห็นเลย จักขุวิญญาณเท่านั้นทำกิจเห็นโดยส่วนเดียว
คือ แต่ละอุปมาจะแสดงว่า ในอุปมานั้นๆ มุ่งเปรียบเทียบเพื่อแสดงอะไร แต่นี่เป็นเพียงการเปรียบเทียบ ไม่ใช่จริงๆ ซึ่งอรรถกถาจารย์ท่านพยายามยกตัวอย่างที่ทำให้พิจารณาเข้าใจในลักษณะสภาพของจิตแต่ละขณะได้
