วิญญัตติรูป ๒ วิการรูป ๓ หรือวิการรูป ๕


    . ถ้าเราเคลื่อนไหวร่างกายโดยที่เราไม่ได้ตั้งใจ ก็ต้องอาศัยความเบา ความอ่อน ความควรแก่การงานของรูปเหมือนกัน

    สุ. ปกติมีอยู่แล้ว

    . ถ้าอย่างนั้น วิการรูปที่เกิดจากอุตุเป็นสมุฏฐานก็น่าจะเกิดได้ ใช่ไหม ที่กลุ่มของรูปในขณะนั้น ถ้าเราเคลื่อนไหวร่างกายโดยที่เราอาจจะเผลอไป เคลื่อนไหวธรรมดา แต่ก็ต้องอาศัยความเบา ความอ่อน ความควรแก่การงานของรูป ไม่อย่างนั้นก็เคลื่อนไหวไม่ได้ รูปก็ต้องเป็นแค่วัตถุธรรมดา

    สุ. เพราะฉะนั้น กายวิญญัตติรูปต่างกับวิการรูป แต่มีลักษณะที่ มีความสามารถคล้ายกัน บางแห่งจะกล่าวว่า วิการรูป ๕ คือ รวมเลย แต่ที่แยกเป็นวิการรูป ๓ กายวิญญัตติรูป ๑ วจีวิญญัตติรูป ๑ เพื่อที่จะแสดงให้เห็นว่า เวลาที่มีวิการรูปโดยที่ไม่มีกายวิญญัตติรูปก็มี เพราะไม่มีความต้องการให้รูปนั้นมีความหมายอย่างหนึ่งอย่างใด ไม่เหมือนกับในขณะที่มีวิการรูปและมีกายวิญญัตติรูปด้วย อย่างเช่น บางคนอาจจะซ้อมบทบาทท่าทางในกระจก ซึ่งปกติก็เป็นการเดิน การเหลียวธรรมดา แต่ในขณะที่ต้องการจะให้แสดงหรือส่องถึงความหมาย ขณะนั้นจะมีรูปที่ชื่อว่ากายวิญญัตติรูปรวมอยู่ด้วย เพราะไม่ใช่มีแต่เฉพาะวิการรูป แต่ยังมีความต้องการให้รูปนั้นแสดงความหมายตามความต้องการของจิต ฉะนั้น กลุ่มนั้นจึง มีรูปเพิ่มขึ้นอีก คือ กายวิญญัตติรูป ซึ่งเกิดดับพร้อมกับจิต

    . ถ้าอย่างนั้นเวลาเราพูดปกติธรรมดา ก็ตัดออกไป จาก ๑๓ รูปเหลือ ๑๐ รูป ซึ่งต้องมีวจีวิญญัตติรูปอยู่แล้ว

    สุ. วจีวิญญัตติรูปจะขาดไม่ได้เลย

    . ต้องมี เพราะต้องให้มีความหมาย แต่ที่เราพูดอยู่ปกติธรรมดา ก็ต้องอาศัยความเบา ความอ่อน ความควรแก่การงานของรูปด้วย ใช่ไหม

    สุ. ถ้าเราจะดัดเสียง ขณะนั้นก็ ...

    . ถ้าพูดธรรมดา ต้องอาศัยหรือเปล่า

    สุ. ถ้าพูดธรรมดา วจีวิญญัตติทำหน้าที่เหมือนกับวิการรูปได้

    . หมายความว่า ก็ ...

    สุ. สามารถทำให้เกิดเสียง โดยทำให้กระทบกันที่ฐานของเสียง นั่นคือ วจีวิญญัตติรูป ไม่ใช่รูปอื่น ไม่ใช่วิการรูป

    เป็นเรื่องที่สามารถจะศึกษาตาม และพยายามพิจารณาให้เข้าใจ แต่การที่จะประจักษ์แจ้งนั้น ต้องเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    . ขอบพระคุณมาก

    สุ. เป็นสิ่งที่น่าพิจารณาจริงๆ ในเรื่องของวิญญัตติรูปและวิการรูป ซึ่ง บางแห่งเรียกรวมกันเป็นวิการรูป ๕ ไม่ได้กล่าวถึงว่า เป็นวิญญัตติรูป ๒ วิการรูป ๓ เพราะว่าลักษณะของวิญญัตติก็เหมือนกับวิการ แต่ไม่ใช่เป็นวิการรูป ๓ ที่เป็น ลักษณะที่เบา ที่อ่อน ที่ควรแก่การงาน แต่สามารถให้เกิดความหมายทางกาย หรือทำให้เกิดเสียงตามวิตกวิจารที่เป็นวจีสังขาร ซึ่งเป็นไปอย่างรวดเร็วมากในขณะที่พูด มีใครจะรู้บ้างว่า วิตกวิจารกำลังคิดคำ เพราะว่าเสียงออกมาแล้ว ใช่ไหม แสดงให้เห็นถึงการเป็นปัจจัยของสภาพธรรมว่า เมื่อวิตกวิจารเกิดคิดถึงสิ่งใด วจีวิญญัตติรูปก็ทำให้เกิดเสียงโดยกระทบที่ฐานของเสียงที่ทำให้เกิดเสียงได้

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1456


    หมายเลข 14293
    28 พ.ย. 2568