แต่ละคนมีกรรมเป็นของตัวเองจริงๆ
ถ. การทำบุญเองย่อมได้สุขเอง การทำบาปเองย่อมได้ทุกข์เอง ตามหลักธรรมว่าอย่างนั้น ทั้ง ๒ อย่างนี้เห็นได้ง่าย ไม่ยาก เราจะสังเกตเห็นประชาชนทุกวันนี้ ทำบาปเองได้ทุกข์เอง ทำบุญเองได้สุขเอง พอเห็นได้ แต่พ่อทำบาป ทำไมบาปจึงไปตกแก่ลูก เช่น พ่อลอกทองคำ ... พระธาตุ (ได้ยินไม่ชัด) เอาไปขาย ทำไมลูกเกิดมาจึงไม่มีหนังหุ่มห่อร่างกาย หรือพ่อแพ้คดีความคนจน โมโห จึงจับอีแร้งไปปล่อยใส่กระท่อมคนจนในเวลาดึก คนก็แตกตื่นกันทั้งหมด ประมาณสัก ๑๐๐ ปีมาแล้ว และลูกของผู้ทำ เกิดมาแขนล่างกับแขนบนติดกันเป็นพืดเลยทั้งสองข้าง ขากับน่องก็ติดกันเป็นพืด ยืนไม่ได้ ต้องนั่งถูทรมานอยู่ เห็นมากับตา
แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 1611
อีกเรื่องหนึ่ง พ่อไปหาปลา จะเอามาทำอาหารกินกลางวัน หิวเต็มทีแล้ว ได้ปลามาก็วางไว้บนเขียง ตนเองลงไปเอาฟืนใต้ถุนเรือน และไปขุดข่ามาเพื่อจะ ปรุงอาหาร เมื่อขึ้นมาปลาหายไปแล้ว เห็นแมวกินอยู่ที่มุมกองไฟ ก็จับแมวมาวางบนเขียงหมายจะฟันหัวแมวให้ขาด แมวกลัวหดหัวเข้า แต่เท้าหน้าทั้ง ๒ ข้างติดอยู่กับเขียงจึงฟันลงไปขาดทั้ง ๒ ข้าง ลูกเกิดมามือกุดไปทั้ง ๒ ข้าง ผมเห็นกับตา เป็นลูกศิษย์มาเข้าโรงเรียน ทำไมจึงไปได้แก่ลูก
สุ. ก็น่าคิด และถ้าคิดเผินๆ ดูเหมือนทุกคนจะผสมกรรมของคนโน้น ปนกับของคนนี้ แต่ถ้าลูกไม่มีกรรม ลูกจะเกิดมาไหม เพราะฉะนั้น ที่ลูกเกิดมา เป็นอย่างนั้น เป็นกรรมของใคร ถ้าไม่ใช่กรรมของลูกเอง
แต่ละคนมีกรรมเป็นของตัวเองจริงๆ ที่จะต้องรู้ว่า เมื่อได้กระทำกรรมไว้แล้ว ผลของกรรมจะได้รับทางไหน นี่เป็นสิ่งที่ควรจะพิจารณา ทุกคนมีกรรมที่ได้กระทำมาแล้ว และเมื่อเกิดมาก็ยังกระทำกรรมต่อไปด้วย และผลของกรรมจะได้รับทางไหนเมื่อไร ถ้าไม่สามารถรู้ขณะที่เป็นกรรม และขณะที่เป็นผลของกรรมจริงๆ จะสับสนปนกัน ของพ่อบ้าง ของลูกบ้างอยู่เรื่อยๆ แต่การที่เด็กคนนั้นจะเกิดมา หรือลูกใครก็ตามที่จะเกิดมา ถ้าไม่มีกรรมเป็นของของตัวแล้วไม่เกิดแน่ๆ
พระอรหันต์ทั้งหลายไม่เกิด เพราะฉะนั้น การที่ใครก็ตามจะเกิด ไม่ว่าจะ ในตระกูลใด มีพ่อแม่อย่างไร มีการกระทำกรรมมาอย่างไร ก็เป็นผลของกรรม ของคนนั้นเอง แต่เมื่อไม่รู้อดีตกรรมของลูกในชาติก่อนๆ ก็คิดว่า เมื่อพ่อแม่ทำ อย่างนั้น ลูกก็ได้ผลของกรรมอย่างนั้น ซึ่งความจริงแล้ว ถ้ารู้อดีตกรรมของลูกใน ชาติก่อนๆ จะรู้ได้แน่ว่า ต้องเป็นผลของกรรมของลูก
เมื่อพระผู้มีพระภาคยังไม่เสด็จดับขันธปรินิพพาน เวลาที่มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น พระภิกษุทั้งหลายได้กราบทูลถามถึงอดีตกรรมของแต่ละบุคคลในเหตุการณ์นั้นๆ ซึ่งพระผู้มีพระภาคได้ทรงแสดงอดีตกรรมของแต่ละท่านในอดีต เป็นกรรมของ แต่ละบุคคลนั้น ไม่ได้ทรงแสดงเลยว่า พ่อแม่ทำกรรมอย่างนี้ เพราะฉะนั้น ลูกจึง เป็นอย่างนั้น นี่ไม่มีในคำสอนของพระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เมื่อ สิ่งใดเกิดขึ้นเป็นไปและมีผู้ที่ทูลถาม พระผู้มีพระภาคก็ได้ทรงแสดงอดีตกรรม ของบุคคลนั้นเอง
ในครั้งนี้ ถ้าพระผู้มีพระภาคยังไม่เสด็จดับขันธปรินิพพาน และมีผู้ที่ไปกราบทูลถาม พระองค์ก็จะทรงแสดงอดีตกรรมของลูกที่ได้กระทำแล้ว ไม่ได้ทรงแสดงว่า เพราะพ่อทำอย่างนี้ ลูกจึงได้รับผลของกรรมอย่างนั้น และเมื่อไม่มีใครสามารถแสดงอดีตกรรมของแต่ละบุคคลในชาตินี้ได้ ทุกคนก็สับสนปนกันระหว่างกรรมของพ่อกับกรรมของลูก แต่ขอเรียนให้ทราบว่า ถ้าลูกไม่มีกรรมจริงๆ ลูกก็ไม่เกิด และถ้ากรรมของลูกไม่ได้เป็นไปอย่างนั้น ผลที่จะได้รับก็ไม่เป็นไปอย่างนั้น แต่เพราะในชาติหนึ่งชาติใดในสังสารวัฏฏ์ ลูกต้องเคยกระทำกรรมเหมือนอย่างที่พ่อกระทำ ซึ่งย่อมเป็นไปได้ เพราะว่าทุกคนที่เกิดมา ถ้าเป็นเรื่องของอกุศลกรรมก็ทำคล้ายๆ กันทั้งนั้น
เรื่องการฆ่าสัตว์ จับปู จับนก จับจิ้งจก จับตุ๊กแก เด็ดขายุง หรือทำอะไร ก็แล้วแต่ ก็เป็นเรื่องที่ทำไปคล้ายๆ กัน ไม่ว่าจะเรื่องของการทรมานสัตว์ หรือ เรื่องของการนำทรัพย์ของบุคคลอื่นมาเป็นของตนด้วยกลวิธีต่างๆ เป็นเรื่องของจิตใจ ที่เต็มไปด้วยโลภะ โทสะ โมหะ ซึ่งเป็นเหตุให้กระทำอกุศลกรรมต่างๆ ตั้งแต่ใน สมัยอดีตแสนโกฏิกัปป์มาแล้วจนกระทั่งถึงเดี๋ยวนี้ และการกระทำอกุศลกรรมทางกาย ทางวาจา ก็ไม่พ้นไปจากอกุศลกรรมบถ ๑๐ เพราะฉะนั้น เมื่อใครได้กระทำกรรมอย่างใดไว้ในอดีตชาติ ผู้นั้นย่อมได้รับผลของกรรมนั้น
ถ้าพระผู้มีพระภาคยังไม่เสด็จดับขันธปรินิพพานและมีผู้กราบทูลถาม ก็คงจะทรงแสดงอดีตกรรมของลูกด้วย แต่เรื่องอดีตกรรมก็ผ่านไปแล้ว ไม่มีใครสามารถ ระลึกได้ นอกจากในชาตินี้ที่ได้กระทำกรรมแล้ว ถ้าเป็นกุศลกรรมก็จะเป็นเหตุให้ได้รับผลที่ดี ถ้าเป็นอกุศลกรรมก็เป็นเหตุให้ได้รับผลที่ไม่ดี แต่ต้องทราบละเอียดกว่านั้นว่า ในการรับผลของกรรมขณะไหนที่เรียกว่าดี และขณะไหนที่เรียกว่าไม่ดี ต้องแยกออกไปแต่ละทาง ทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย
การที่จะได้รับผลของกรรม มีตาสำหรับเห็น จริง แต่เห็นสิ่งที่ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง แล้วแต่ว่าจะเป็นผลของกรรมอะไร มีหูไว้ทำไม สำหรับรับผลของกรรมอีก คือ ได้ยินเสียง และขณะใดที่ได้ยินเสียงที่ดี ขณะนั้นเป็นผลของกุศลกรรม ขณะใดที่ได้ยินเสียงที่ไม่ดี ขณะนั้นเป็นผลของอกุศลกรรม ทางจมูกก็เช่นเดียวกัน ทางลิ้น ทางกาย ก็โดยนัยเดียวกัน
เพราะฉะนั้น ต้องเป็นผู้ที่ละเอียดที่จะพิจารณาแต่ละขณะจิต หรือแต่ละทางของการรับผลของกรรมด้วย
ถ. ยังไม่กระจ่าง ในพระไตรปิฎกมีตัวอย่างเช่นนี้หรือไม่
สุ. ถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้น พระผู้มีพระภาคทรงแสดงอดีตกรรมของบุคคลนั้นๆ แต่ไม่ได้กล่าวว่า เพราะพ่อทำกรรมอย่างนี้ ลูกจึงเป็นอย่างนั้น ไม่มี มีแต่การที่ลูกเกิดมาเป็นอย่างนั้น เพราะครั้งหนึ่งในอดีตกาลเคยกระทำกรรมอะไรจึงทำให้ ไม่มีหนัง หรือไม่มีอะไรก็แล้วแต่
ถ. แต่เห็นชัดๆ ว่า พ่อทำ ๒ – ๓ ปีต่อมา ลูกเกิดมามือกุดเลย
สุ. ขอประทานโทษ เมื่อพ่อกระทำกรรมนั้นแล้ว คิดว่าวันหนึ่งพ่อจะได้รับผลของกรรมนั้นไหม หรือเมื่อลูกได้รับแล้ว พ่อก็สบาย ไม่ต้องได้รับผลของกรรมนั้นอีกต่อไป
ถ. ผมเข้าใจว่า เป็นการทำให้พ่อเห็นก่อน และพ่อนั้นก็ได้รับทุกขเวทนา ยิ่งกว่าลูกเสียอีก
สุ. และลูกมีกรรมของตัวเองที่จะทำให้เป็นอย่างนั้นหรือเปล่า ในอดีต ลูกต้องเคยกระทำกรรมอะไรที่เป็นของตัวเอง ที่จะทำให้เป็นอย่างนั้นไหม
ถ. ต้องมี
สุ. เพราะฉะนั้น ก็เป็นกรรมของลูกที่ทำให้เป็นอย่างนั้น และเป็นกรรมของพ่อที่ทำให้เห็นอย่างนั้น แต่กรรมที่พ่อกระทำ วันหนึ่งพ่อจะต้องได้รับด้วยไหม ก็ต้องได้รับแน่นอน เพราะฉะนั้น กรรมนั้นก็ยังคงเป็นของพ่อ สนา
