ลักษณะและเหตุใกล้ให้เกิดสติ


    อัฏฐสาลินี ซึ่งเป็นอรรถกถา ธัมมสังคณีปกรณ์ จิตตุปปาทกัณฑ์ กล่าวถึงลักษณะของ สติ ว่า สตินั้น มีการระลึกได้ เป็นลักษณะ

    ตรงกับสภาพธรรมที่ท่านเจริญหรือเปล่า ระลึกขณะใด รู้ลักษณะสภาพของสิ่งที่กำลังปรากฏ อีกพยัญชนะหนึ่ง มีข้อความว่า

    มีการเข้าไปช่วยประคอง เป็นลักษณะ

    มีการไม่หลงลืม เป็นกิจ คือ เป็นรสะ

    มีการรักษาอารมณ์ เป็นอาการปรากฏ คือ เป็นปัจจุปัฏฐาน

    เช่น ขณะที่กำลังรู้สึกเย็นตรงส่วนหนึ่งส่วนใด ปกติธรรมดา แล้วสติระลึกรู้สภาพที่เย็นส่วนนั้น ในขณะนั้นเป็นกิจของสติที่ว่า มีการรักษาอารมณ์ที่กำลังปรากฏให้ปรากฏโดยสภาพความเป็นอารมณ์นั้นจริงๆ

    มีความจดจ่อต่ออารมณ์ เป็นปัจจุปัฏฐาน

    มีสัญญาอันมั่นคง เป็นปทัฏฐาน

    สัญญา คือ ความจำ ถ้าท่านไม่เคยฟังเรื่องของสัมมาสติเลย สัมมาสติก็เกิดไม่ได้ แต่ถ้าเคยฟังเรื่องของสัมมาสติ และมีสัญญาความจำสิ่งที่ได้ยินได้ฟัง มีการพิจารณา และไม่ลืมสิ่งที่ได้ยินได้ฟังว่า สติสามารถที่จะเกิดขึ้นระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปเมื่อไรก็ได้ ที่ไหนก็ได้ อารมณ์อะไรก็ได้ ถ้าท่านมีสัญญาความจำอันมั่นคงในสิ่งที่ได้ยิน ได้ฟัง ได้พิจารณาแล้ว ก็เป็นปทัฏฐาน คือ เป็นเหตุใกล้ให้สติระลึกได้

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 166

    อัฏฐสาลินี อรรถกถาธัมมสังคณีปกรณ์ ได้แสดงปทัฏฐาน เหตุใกล้ให้เกิดของสติอีกนัยหนึ่ง คือ

    มีสติปัฏฐาน ๔ คือ กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน เป็นต้น เป็นปทัฏฐาน

    นอกจากนั้นยังมีข้อความว่า

    พึงเห็นว่า เป็นเช่นเดียวกับเสาเขื่อน เพราะตั้งมั่นในอารมณ์ และพึงเห็นว่า เป็นเสมือนนายประตู เพราะรักษาจักขุทวาร เป็นต้น

    สติเมื่อเกิดขึ้น ย่อมให้ใคร่ครวญคติธรรมที่เป็นประโยชน์เกื้อกูล และมิได้เป็นประโยชน์เกื้อกูลว่า ธรรมเหล่านี้เป็นประโยชน์เกื้อกูล ธรรมเหล่านี้ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล ธรรมเหล่านี้มีอุปการะ ธรรมเหล่านี้ไม่มีอุปการะ ดังนี้

    บรรเทาธรรมที่ไม่เป็นประโยชน์เกื้อกูล ประคองไว้แต่ธรรมที่เป็นประโยชน์เกื้อกูล สติมีการประคอง คือ ประคองให้อยู่ในกุศลธรรมเป็นลักษณะอย่างนี้

    สติย่อมให้กำหนด หรือย่อมให้ระลึกถึงกุศลธรรมโดยชอบ เป็นอินทรีย์ เพราะครอบงำความเป็นผู้หลงลืมสติเสียได้

    อกุศลจิตเกิด ผู้ที่เจริญสติก็ระลึกรู้ลักษณะของอกุศลจิต แต่ไม่ใช่ไปห้าม หรือไปสั่ง หรือไปบอกให้ตั้งต้นอย่างนั้น ตั้งต้นอย่างนี้ แล้วแต่สติจะระลึกรู้ลักษณะของนามใดของรูปใด

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 166

    ขณะใดที่จิตเป็นกุศล ระลึกรู้ว่า ขณะนั้นไม่ใช่ตัวตนเป็นแต่เพียงนามธรรมชนิดหนึ่ง นามธรรมชนิดนี้เกิดบ่อยไหม ใครทราบ ถ้าไม่ได้เจริญสติจะทราบไหม วันหนึ่งๆ นามธรรมประเภทไหนเกิดมากกว่ากัน แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ขณะไหนเป็นกุศลจิตหรือเป็นอกุศลจิต ถ้าสภาวะลักษณะของจิตในขณะนั้นไม่ปรากฏ

    สภาวะลักษณะที่ดีงามขณะที่ให้ทาน จะถวายอาหารบิณฑบาต หรือให้สิ่งที่เป็นประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น ผู้ที่เจริญสติจะระลึกรู้ลักษณะของนามธรรมและรูปธรรม ไม่ใช่ว่าขณะที่เจริญสติปัฏฐานแล้วให้ทานไม่ได้ แต่ไม่ว่าชีวิตปกติประจำวันของท่านจะกระทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตาม ระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปที่กำลังเป็นจริง ที่กำลังปรากฏในขณะนั้น

    แนวทางเจริญวิปัสสนา ตอนที่ 166


    หมายเลข 13835
    28 พ.ย. 2568