อารมณ์ของวิปัสสนา
ผู้ฟัง อารมณ์ของการเจริญสติกับอารมณ์ของวิปัสสนา ใช้อารมณ์ปัจจุบันอย่างเดียวกันใช่ไหม
สุ . ปัจจุบันหมายความว่าอะไร เห็นในขณะนี้ ได้ยินในขณะนี้ คิดนึกในขณะนี้ สุข ทุกข์ในขณะนี้ เป็นสภาพธรรมที่เกิดปรากฏที่สติระลึกรู้ได้ เพราะเหตุว่าสภาพธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา เกิดขึ้นเพราะเหตุปัจจัย ไม่ใช่ตัวตน ไม่ใช่สัตว์บุคคล
ได้รับทราบจากท่านผู้ฟังว่า การเจริญสติปัฏฐานยาก เพราะเหตุว่าเป็นการที่สติจะค่อยๆ เริ่มระลึกรู้ลักษณะของนามและรูปที่ปรากฏเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ซึ่งปกติแล้วเป็นผู้ที่หลงลืมสติ เพราะฉะนั้น พอเริ่มที่จะระลึกรู้ลักษณะของนามของรูปตามปกติที่สติสามารถที่จะเกิดระลึกรู้แม้เพียงชั่วขณะหนึ่ง ขณะนั้นก็เป็นสติปัฏฐานแล้ว เพราะเหตุว่ารู้ในลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ แต่ว่าทีละเล็กทีละน้อยๆ ท่านก็กล่าวว่ายากเหลือเกิน
การเจริญสติปัฏฐานเป็นปกติในชีวิตประจำวัน ดูเหมือนกับว่าจะเป็นสิ่งที่สุดวิสัย เป็นไปไม่ได้ ก็คงจะเหมือนกับคำอุปมาที่ว่า มีเขาสูง แล้วคนที่ขึ้นไปถึงยอดเขาก็สามารถจะเห็นสิ่งต่างๆ ที่อยู่ข้างล่างได้ แต่คนที่อยู่ข้างล่างไม่มีโอกาสที่จะเห็นสิ่งต่างๆ เหมือนอย่างคนที่ขึ้นไปอยู่บนยอดเขา และถ้าท้อถอยคิดว่ารู้ไม่ได้ เจริญไม่ได้ การเจริญสติปัฏฐานเป็นปกติในชีวิตประวันนั้นยากมาก ถ้าคิดอย่างนี้ ก็เหมือนกับว่า ท่านไม่พยายามที่จะขึ้นไปสู่ยอดเขา ซึ่งบุคคลอื่นขึ้นได้
เพราะเหตุใดบุคคลอื่นจึงขึ้นได้ แต่ท่านขึ้นไม่ได้ ก็เป็นเพราะเหตุว่า ท่านคิดว่าการเจริญสติปัฏฐานในชีวิตประจำวันนั้นเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นี่ขั้นหนึ่ง หรือท่านคิดว่า คงจะเป็นไปได้แต่ว่ายาก จะยากเท่าไรก็ตาม ถ้าท่านเข้าใจถูกต้อง และเริ่มเจริญสติเป็นปกติทีละเล็กทีละน้อย ระลึกรู้ลักษณะของสิ่งที่กำลังปรากฏ ไม่มีเยื่อใยกับสิ่งที่หมดไปแล้ว เพราะเหตุว่าสิ่งที่กำลังปรากฏกำลังเป็นปัจจุบัน เป็นของจริง มีการเกิดขึ้นและดับไป ตามมหาสติปัฏฐานที่ได้ฟังมาตั้งแต่ต้น
กายานุปัสสนาสติปัฏฐานก็ดี เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานก็ดี จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐานก็ดี ล้วนเป็นสภาพธรรมที่เกิดแล้วก็ดับไป โลภมูลจิต สราคจิตในจิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ประจักษ์ความจริงข้อนี้หรือยัง
ไม่ว่าธรรมใดๆ ทั้งนั้นที่มีกล่าวไว้ว่า สังขารธรรมทั้งหลายไม่เที่ยง เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ประจักษ์ความจริงของสังขารธรรมหรือยัง ท่านไม่ได้ทรงแสดงธรรมเรื่องอื่นเลย นอกจากเรื่องชีวิตปกติประจำวัน
