อนันเตวาสิกานาจริยสูตร
ในเรื่องของอาจารย์กับศิษย์ พระผู้มีพระภาคทรงแสดงไว้โดยอีกนัยหนึ่ง
สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค อนันเตวาสิกานาจริยสูตร ข้อ ๒๓๖ มีข้อความว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุอยู่ประพฤติพรหมจรรย์นี้ อันไม่มีอันเตวาสิก ไม่มีอาจารย์
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุยังมีอันเตวาสิก ยังมีอาจารย์ อยู่เป็นทุกข์ ไม่สำราญ ส่วนภิกษุไม่มีอันเตวาสิก ไม่มีอาจารย์ อยู่เป็นสุขสำราญ
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุยังมีอันเตวาสิก ยังมีอาจารย์ ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ไม่สำราญเป็นไฉน
ธรรมทั้งหลายอันเป็นบาป เป็นอกุศล คือ ความดำริอันฟุ้งซ่าน อันเป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพ ย่อมบังเกิดขึ้นแก่ภิกษุในศาสนานี้ เพราะเห็นรูปด้วยจักษุ อกุศลธรรมเหล่านั้นย่อมสิงอยู่ภายในของบุรุษนั้น เพราะอกุศลธรรมสิงอยู่ภายในของภิกษุนั้น เหตุนั้นเราจึงเรียกภิกษุนั้นว่า มีอันเตวาสิก เพราะอกุศลธรรมอันลามกเหล่านั้นย่อมครอบงำภิกษุนั้น เหตุนั้นเราจึงเรียกภิกษุนั้นว่า มีอาจารย์
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ก็ภิกษุผู้ไม่มีอันเตวาสิก ไม่มีอาจารย์ ย่อมอยู่เป็นสุข สำราญอย่างไร
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อกุศลธรรมอันลามก คือ ความดำริที่ฟุ้งซ่าน เป็นเครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพไม่เกิดขึ้นแก่ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เพราะเห็นรูปด้วยจักษุ อกุศลธรรมอันลามกเหล่านั้นไม่สิงอยู่ในภายในของภิกษุนั้น เพราะอกุศลธรรมอันลามกไม่สิงอยู่ในภายในของภิกษุนั้น เหตุนั้นเราจึงเรียกภิกษุนั้นว่า ไม่มีอันเตวาสิก เพราะอกุศลธรรมอันลามกไม่ครอบงำภิกษุนั้น เหตุนั้นเราจึงเรียกภิกษุนั้นว่าไม่มีอาจารย์
สำหรับเวลาที่ได้ยินเสียงด้วยหู ได้กลิ่นด้วยจมูก รู้รสด้วยลิ้น สัมผัสด้วยกาย และธัมมารมณ์ด้วยใจนั้น ก็โดยนัยเดียวกัน พระผู้มีพระภาคตรัสต่อไปว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุอยู่ประพฤติพรหมจรรย์ อันไม่มีอันเตวาสิก ไม่มีอาจารย์ดังนี้
ภิกษุผู้มีอันเตวาสิก มีอาจารย์ ย่อมอยู่เป็นทุกข์ ไม่สำราญ ผู้ไม่มีอันเตวาสิก ไม่มีอาจารย์ ย่อมอยู่เป็นสุขสำราญ ดังนี้แล
ผู้ที่ยังมีอันเตวาสิกนั้น คือ ผู้ที่เมื่อเห็นรูปด้วยจักษุ ได้ยินเสียงด้วยหู หรือได้กลิ่นด้วยจมูก ลิ้มรสด้วยลิ้น ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย รู้ธัมมารมณ์ด้วยใจแล้ว อกุศลธรรมเกิดขึ้น อกุศลธรรมนั้นย่อมสิงอยู่ภายในบุคคลนั้น เพราะฉะนั้น เมื่อไปด้วยกัน อยู่ที่ไหน จะเป็นในป่า ที่บ้าน อกุศลธรรมนั้นไม่ได้อยู่นอกตัว ไม่ได้อยู่ไกล ไปด้วยกันทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็ตาม เพราะฉะนั้นอกุศลธรรมที่อยู่ภายในจิตของบุคคลนั้น พระผู้มีพระภาคเรียกว่า ภิกษุนั้นมีอันเตวาสิก
และอกุศลธรรมอันลามกที่ครอบงำภิกษุนั้น พระผู้มีพระภาคจึงเรียกภิกษุผู้มีอกุศลธรรมอันลามก ที่ครอบงำภิกษุนั้นว่า มีอาจารย์ เป็นผู้ที่คอยให้ทำอย่างนั้น ให้ทำอย่างนี้ เชื่ออกุศลทุกอย่างที่มีอยู่ในใจ ถ้ามีโลภะๆ ให้ทำอะไรๆ ก็ทำ มีอกุศลของตัวเอง มีโลภะที่มีอยู่ในใจเป็นอาจารย์ คอยให้ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ ครอบงำบังคับบัญชาให้แสวงหา ให้ทำสิ่งต่างๆ
เพราะฉะนั้น ให้ทราบจริงๆ ว่า ผู้ที่ยังมีกิเลสนั้นเป็นผู้ที่มีลูกศิษย์ มีอันเตวาสิก และมีอาจารย์ เพราะเหตุว่ากิเลสนั้นมีกำลัง ทำให้ครอบงำจิตใจให้ประพฤติเป็นไปตามที่อาจารย์คือกิเลสสั่ง
ที่มา ...
