เกิดเป็นรูปพรหมอกุศลจิตยังเกิดได้


        ผู้ฟัง ในการทำสมถกัมมัฏฐาน ถ้ามีปัญญาเกิดขึ้นบ้าง ก็คงจะนับไม่ได้ เพราะไม่ได้นึกถึงนามธรรมรูปธรรม ในเมื่อปัญญาไม่เกิด ผู้ที่ได้รูปฌาน

        สุ. ปัญญาไม่เกิดไม่ได้ จะไปได้อย่างไร ไม่มีปัญญาจะไปถึงความสงบระดับขั้นฌานจิต ซึ่งสูงกว่าขั้นทาน ศีลอีก เป็นไปไม่ได้

        ผู้ฟัง ไม่มีปัญญาที่เป็นโลกุตตรปัญญา

        สุ. ค่ะ ก็มีโลกียปัญญากับโลกุตตรปัญญา มีโลกียกุศล มีโลกุตตรกุศล

        ผู้ฟัง เพราะฉะนั้นผู้ที่เป็นพรหม ก็ไม่มีโลกุตตรปัญญา

        สุ. ขณะจิตนั้นเกิดขึ้นเป็นอะไร ต้องเป็นอย่างนั้น เปลี่ยนแปลงไม่ได้ เป็นกุศล ก็ไม่ใช่อกุศล เป็นขั้นของกามาวจรกุศล ก็เป็นกามาวจรกุศล จะเป็นรูปาวจรกุศลไม่ได้ ทีละ ๑ ขณะค่ะ

        เกิดเป็นมนุษย์ เป็นผลของกุศล แต่ไม่สามารถรู้ได้ว่า เป็นผลของทาน หรือเป็นผลของศีล เป็นผลของความสงบของจิต มีจิตที่เมตตา กรุณา หรือมุทิตา อุเบกขา ไม่สามารถจะรู้ได้ แต่ก็มีอกุศลจิต เพราะเหตุว่ายังไม่ได้ดับอกุศลจิต หรือว่ายังไม่ได้ดับอกุศลเป็นสมุจเฉท ก็มีปัจจัยซึ่งแม้ว่าจะเป็นผลของกุศล เกิดเป็นมนุษย์ ก็ยังมีอกุศลได้ฉันใด แม้เกิดเป็นรูปพรหม ยังไม่ได้ดับกิเลสเป็นสมุจเฉท ก็มีปัจจัยที่จะให้อกุศลจิตเกิดได้ ตามควรแก่ภพภูมินั้นๆ

        ผู้ฟัง แต่ว่าพรหมไม่มีอกุศลจิตเกิดขึ้น

        สุ. ค่ะ อกุศลจิตทั้งหมด มี ๑๒ ประเภท ในพรหมภูมิไม่มีอกุศลจิตประเภทไหน

        ผู้ฟัง โทสะ

        สุ. แม้อกุศลจิตก็ยังเกิดได้ทุกภูมิ ตราบใดที่ยังไม่ได้ดับเป็นสมุจเฉท แต่ต้องเป็นภูมิที่มีจิต

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 252


    หมายเลข 11911
    23 ม.ค. 2567