คิดจะละอกุศล


        ผู้ฟัง อกุศลมันมากเหลือเกิน ทำอย่างไรถึงจะละได้ กราบท่านอาจารย์ช่วยกรุณา

        ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้น ตอนนี้จะละ อกุศล หรือว่าจะเข้าใจธรรม ถ้าจะละ อกุศล ก็รีบไปสำนักปฏิบัติคิดว่าจะละ อกุศลได้ แต่เป็นไปไม่ได้เลย

        อ.อรรณพ ข้อความในพระไตรปิฏกท่านก็แสดงไว้ว่า อกุศลควรละ กุศลควรเจริญ

        ท่านอาจารย์ ควร แต่ละได้อย่างไร

        อ.อรรณพ ละได้ด้วยปัญญา

        ท่านอาจารย์ เห็นไหม ควรละ ควรแน่ แต่ควรนะ แต่ต้องรู้ว่า แล้วจะละ ได้อย่างไร อะไรจะละ ควรละ แต่อะไรจะละ ทำไมไม่คิดต่อ ถ้าควรละ ก็จะรีบละหรือ

        อ.อรรณพ สิ่งที่ติดหูชาวพุทธ ก็คือ โอวาทปาฏิโมกข์ในบาทพระคาถาแรกว่า ละชั่ว ประพฤติดี ทำจิตให้บริสุทธิ์ เพราะว่าฟังแค่นี้ ก็เลยคิดว่า ทำอย่างไรถึงจะหมดความไม่ดีไปเลยในชีวิตประจำวัน

        ท่านอาจารย์ ต้องไตร่ตรอง เพราะว่า ฟังด้วยกัน อกุศลควรละ ก็เลยละ เพราะคิดว่าทำตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ว่าง่าย พระองค์ตรัสให้ละ อกุศลก็ละเลย อย่างนี้หรือ นี่ไม่ได้เข้าใจเลยว่า คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ควรเข้าใจ ควรไตร่ตรอง แม้พระองค์ตรัสและใครก็รู้ตามความเป็นจริงว่า อกุศลควรละ มีใครยุยงใครให้มี อกุศลมากๆ ให้ชกต่อยตีรันฟันแทงกันมากมายทุกวันหรือเปล่าก็ไม่ใช่ ใช่ไหม ควรละ แต่ทำไมไม่ไตร่ตรอง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัส แล้วก็พระองค์ตรัสเท่านี้หรือว่า ควรละ ไม่แสดงหนทางว่าจะละ ได้อย่างไรหรือ แล้วเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากับคนอื่นจะต่างกันตรงไหน ในเมื่อทุกคนก็อกุศลควรละ ทั้งนั้น และก็คนอื่นก็คิดง่ายๆ ก็ละ เลย วันนี้ รับประทานอาหารน้อยๆ บ้าง ทำอะไรบ้าง ที่คิดว่าละ อกุศล แต่ว่าตามความเป็นจริง คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องละเอียดและลึกซึ้ง

        เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีความเข้าใจถูกต้องจะละ อะไร แม้แต่จะละ ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะละ อะไร คิดว่าจะละโทสะ จะละโลภะ ได้ไหม ไม่รู้ต่างหากว่า แม้ขณะนั้นก็เป็นโลภะแล้ว แม้ว่าจะไม่ใช่โทสะ ทั้งนี้ทั้งหมดก็เพราะไม่รู้ ด้วยเหตุนี้ เมื่อเป็นพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสรู้ด้วยพระปัญญาอันยิ่ง

        เพราะฉะนั้น ทุกคำของพระองค์ก็เป็นคำที่ทำให้เข้าใจถูกต้องว่า ความเข้าใจถูก ความเห็นถูกคือ ปัญญาเท่านั้น ที่สามารถที่จะละ สิ่งที่ไม่ดีได้ เพราะว่าสิ่งที่ไม่ดีทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะไม่รู้ ต้องละเอียดมากแต่ละคำ ไม่ใช่เผินเลย แม้แต่เราจะพยายามก็ไม่รู้ว่าผิดแล้ว เพราะไม่มีเรา ทั้งหมดสัตว์โลกไม่รู้ ก็คิดไปด้วยความคิดของตัวเอง จะทำดีจะอย่างนั้นอย่างนี้ นั่นคือคำสอนของคนที่ไม่ใช่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เขาไม่ได้สอนให้เข้าใจความจริงว่าไม่มีเรา

        เพราะฉะนั้น เราจะดีสักเท่าไหร่ก็ตาม เราจะเก่งสักเท่าไหร่ก็ตาม เป็นคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือเปล่า

        ผู้ฟัง พูดถึงอกุศลที่มันเกิดกับตัวเราแล้ว ก็ยังเกิดกับคนอื่น คนโน้นบ้างคนนี้บ้างที่เราเห็น มันก็ทำให้จิตใจของเราก็

        ท่านอาจารย์ ก็ยังเป็นเราอยู่ ยังเป็นเราอยู่ก็เป็นอย่างนี้แหล่ะ ย่อมมีรัก ย่อมมีชัง ย่อมมีความสำคัญตน ความริษยา มีทุกอย่างที่มีให้เห็นว่ามี เพราะเหตุว่า ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้น และยังเข้าใจว่าทั้งหมดนั้นเป็นเราด้วย ถ้าไม่ใช่เราก็เขา แต่ความจริงเป็นธรรม เพราะฉะนั้น แม้แต่คำว่าธรรมคำเดียว ถ้าเข้าใจมั่นคงถ่องแท้จริงๆ ถึงความเป็นพระอรหันต์ เพราะทุกอย่างเป็นธรรม

        เพราะฉะนั้น ถ้ามีความเข้าใจธรรมทีละเล็กทีละน้อย ก็เป็นความเห็นที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะบอกอย่างคนอื่นไหม ให้ละ อกุศล หรือว่าละชั่ว ทำดี ชำระจิตให้บริสุทธิ์ เพราะฉะนั้น แสดงว่าจิตไม่บริสุทธิ์เป็นอย่างไร และจิตจะบริสุทธิ์ขึ้นเป็นอย่างไร

        เพราะฉะนั้น ต้องฟังอย่างละเอียดมากว่าละชั่ว พระอรหันต์ตรัสว่าละชั่ว หมายความว่า ละสภาพธรรมที่ชั่ว ไม่ใช่เราละชั่ว เพราะคำสอนของคนอื่น เราละชั่ว เราทำดี แต่ว่าคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ใช่เรา แต่เป็นธรรมทั้งหมด

        เพราะฉะนั้น ก่อนอื่น ก็คือว่าต้องเข้าใจถูกต้องว่าไม่ใช่เรา ได้ยินคำว่าธรรม เข้าใจธรรมหรือเปล่า ถ้าบอกว่าเข้าใจ บอกได้ไหมว่าธรรมคืออะไร ก็บอกไปต่างๆ นานา แต่จะบอกหรือไม่ว่า ธรรม คือ สิ่งที่มีจริง ซึ่งไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด ไม่ใช่คน ไม่ใช่สัตว์ ไม่ใช่สิ่งที่เที่ยง แต่มีจริงเมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป นี่คือ เข้าใจธรรม แล้วก็ต้องมั่นคงด้วย


    หมายเลข 11813
    11 ธ.ค. 2566