คิดเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ก็เพราะปกตูปนิสยปัจจัย


        สุกิจ เมื่อสักครู่อาจารย์ถามว่า จำอะไร จำเพื่อผลที่เราได้เคยสภาพของผลอันนั้น อย่างเช่นโทสะเป็นต้น เวลาเกิดโทสะ เราก็จำสภาพการเกิดโทสะอันนั้น ผลของมัน โทษของมัน ทำให้หมกมุ่นครุ่นคิด หรือความรำคาญก็เหมือนกัน

        สุ. ค่ะ ฟังธรรมนี่จะจำชื่ออะไร ไม่ใช่จำอะไร จำชื่ออะไร

        สุกิจ คำตอบผมก็คือ สภาพธรรม

        สุ. เพราะฉะนั้นไม่ใช่ชื่อ

        สุกิจ สภาพธรรมที่เกิด อย่างเช่นโทสะ เป็นต้น ผลของโทสะ ก็จะทำให้เกิดความขุ่นใจ ครุ่นคิดอยู่

        สุ. นี่คือจำด้วยความเข้าใจลักษณะของโทสะ โทษของโทสะ ไม่ใช่จำชื่อโทสะเฉยๆ

        สุกิจ ใช่ครับ แต่ชื่อก็จำเป็นต้องจำว่า สภาพธรรมนี้เรียกว่าโทสะ เป็นคำๆ

        สุ. เรียกว่า โกธะ ได้ไหมคะ

        สุกิจ ได้ครับ

        สุ. เรียกว่า ปฏิฆะ ได้ไหมคะ

        สุกิจ ได้ครับ

        สุ. ก็แล้วแต่จะจำชื่ออะไร แต่ต้องมีลักษณะของสภาพธรรมนั้น

        สุกิจ บางครั้งหลบมุมไปเลย เกิดโทสะ เกิดความรำคาญ หลบมุมเข้าห้องน้ำไป ทั้งๆ ที่ไม่มีอะไร เข้าห้องน้ำไปนั่งเฉยๆ ก็คลาย อย่างนี้เป็นต้น

        สุ. สะสมมาเป็นอุปนิสัยที่จะทำอย่างนั้นแล้ว คนอื่นไม่ได้ทำอย่างนั้นเลย ใช่ไหมคะ

        สุกิจ ใช่ครับ หรือหลบไปข้างนอก ห่างๆ เดินออกไปแล้วเดินเข้ามาใหม่

        สุ. เห็นอุปนิสยปัจจัยไหมคะ

        สุกิจ อย่างนี้ก็คือผลของโทสะ

        สุ. ผลของการสะสมว่า โทสะเกิดแล้วจะทำอะไร

        สุกิจ คือจิตเราไปรับอารมณ์ของเขาทำไม ไปยึดนี่แหละว่า ตัวตน อยากจะให้เขาดีขึ้น แต่เราก็ทำแล้ว ไม่เกิดผล

        สุ. เป็นผลของการเข้าใจธรรม ทำให้ไม่เดือดร้อนใช่ไหมคะ

        คุณสุกิจทราบไหมว่า สุขทุกข์ของคุณสุกิจตลอดระยะเวลาเหล่านี้มาจากไหน มาจากความคิด เพราะเหตุว่าสิ่งที่กำลังปรากฏทางตา จะทำให้คุณสุกิจเป็นทุกข์เพียงปรากฏเท่านั้นได้ไหม เสียงที่ปรากฏทางหู เมื่อปรากฏแล้ว จะทำให้คุณสุกิจเป็นทุกข์เพียงการปรากฏของเสียงได้ไหม ทางจมูก ทางลิ้น โดยนัยเดียวกัน ทุกข์จริงๆ สำหรับกายที่กระทบสัมผัสกับอารมณ์ที่ไม่สบาย ไม่ควรจะให้สุขเวทนาเกิด ขณะนั้นสุขเวทนาไม่เกิด ก็ต้องเป็นทุกขเวทนา แต่เรื่องราวทั้งหมดมาจากเห็น ได้ยิน ได้กลิ่น ลิ้มรส รู้สิ่งที่กระทบสัมผัสแล้วคิด เพราะฉะนั้นกว่าใครจะคิดถูก ต้องฟังพระธรรมมากแค่ไหน ที่จะรู้ว่า แม้คิดเป็นสุขหรือเป็นทุกข์ ก็เพราะปกตูปนิสยปัจจัย การสะสมมาที่บางคนไม่ได้คิดเป็นทุกข์มากมาย เขาสามารถจะเข้าใจ แล้วก็รู้ว่าจริงๆ แล้ว ขณะเห็น ขณะได้ยินเหล่านี้เป็นผลของกรรม แต่หลังจากนี้แล้วไม่ใช่ เป็นการสะสมของอกุศลบ้าง กุศลบ้างที่สะสมมาแล้วในอดีต ปรุงแต่งให้ในขณะนั้นเดี๋ยวเป็นกุศล เดี๋ยวเป็นอกุศล

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 244


    หมายเลข 11753
    10 ม.ค. 2567