ให้เข้าใจขึ้นว่าเป็นธรรมแต่ละอย่าง


        ผู้ถาม อยากให้ท่านอาจารย์อธิบายว่าขณะที่สติปัฏฐานเกิด ศรัทธาทำกิจยังไงครับ

        สุ. ไม่ว่าสติปัฏฐานจะเกิดหรือไม่ใช่สติปัฏฐาน ศรัทธาก็ทำกิจของศรัทธาเปลี่ยนไม่ได้ ศรัทธาเป็นศรัทธา จะให้ศรัทธาเป็นสติได้ไหม

        ผู้ถาม ไม่ได้

        สุ. จะให้ศรัทธาเป็นปัญญาได้ไหม

        ผู้ถาม ไม่ได้

        สุ. ศรัทธาเกิดเมื่อไหร่ ก็เป็นศรัทธานั่นแหละ จะเปลี่ยนศรัทธาให้เป็นอื่นไม่ได้เลย เพราะศรัทธาไม่ใช่ปัญญา ไม่ว่าสติปัฏฐานจะเกิดหรือไม่ใช่สติปัฏฐานก็ตาม ศรัทธาก็เป็นศรัทธานั่นเอง

        ผู้ถาม แล้วมีความแตกต่างกันยังไงครับ

        สุ. จิตรู้อารมณ์อะไร ศรัทธาก็มีอารมณ์นั้น ศรัทธามีจริง เป็นสภาพธรรม ขณะนี้ก็มี แต่ตราบใดที่สติสัมปชัญญะยังไม่รู้ลักษณะนั้น ลักษณะนั้นก็ไม่ปรากฏเหมือนลูกศรที่ยิงไปในความมืด มีเกิดแล้วดับแล้วทั้งหมด จนกว่าสติสัมปชัญญะระลึกลักษณะใด ลักษณะนั้นจึงปรากฏตามความเป็นจริงของลักษณะนั้นให้เข้าใจขึ้นว่าเป็นธรรมแต่ละอย่าง

        กุล. ศรัทธาเป็นอินทรีย์ด้วย และอินทรีย์ครองใหญ่ในสภาพธรรมทั้งปวง ลักษณะของศรัทธาก็มีจริง แต่การที่จะรู้ลักษณะของศรัทธาได้ก็ต้องเป็นสติปัฏฐานที่รู้ลักษณะของสภาพธรรมตามความเป็นจริง ก็อยากจะกราบเรียนท่านอาจารย์อธิบายถึงศรัทธาที่เป็นสัทธินทรีย์

        สุ. ก็ต้องเกิดร่วมกับอินทรีย์อื่นด้วย คือต้องเกิดร่วมกับ วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา

        อ.อรรณพ เมื่อมีโอกาสที่เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วๆ ก็มีธรรมที่พระองค์ท่านทรงแสดง ผู้ที่สะสมศรัทธาที่เห็นประโยชน์ในหนทางหรืออริยมรรคซึ่งเป็นทางสายเอก ควรที่จะสะสมศรัทธาเพิ่มขึ้นในการฟัง การพิจารณา และการอบรมเจริญปัญญาด้วยศรัทธาที่สะสมมีกำลังเพิ่มขึ้นจนกว่าจะเป็นอินทรีย์ เป็นพละ เป็นศรัทธาที่มีกำลังจนถึงขั้นโลกุตตรธรรม

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 240


    หมายเลข 11661
    23 ม.ค. 2567