เจตสิกชนิดเดียวกันที่เกิดทั้งกุศลและอกุศลมีความแตกต่างกันไหม


        ผู้ถาม เจตสิกที่เกิดทั้งกุศล และอกุศล แต่เมื่อเกิดร่วมกับอกุศลหรือร่วมกับกุศลจะมีความแตกต่างไหม

        สุ. เจตสิกนั้นจะเกิดร่วมกับกุศล และอกุศลพร้อมกันได้ไหม

        ผู้ถาม ไม่ได้

        สุ. ไม่ได้ เพราะฉะนั้นขณะที่เกิดกับจิตใด ลักษณะที่มีเจตสิกเกิดร่วมด้วยกับจิตนั้นเป็นอกุศล สภาพธรรมที่เกิดร่วมกับจิต และเจตสิกที่เป็นอกุศลขณะนั้นก็เป็นอกุศลด้วย และเวลาที่สภาพของโสภณธรรมคือเจตสิกฝ่ายดีเกิดกับจิตประเภทใด เจตสิกอื่นที่เกิดร่วมกับจิต และเจตสิกในขณะนั้นก็เป็นกุศลด้วยๆ เหตุนี้จึงกล่าวว่ามีเจตสิกซึ่งเกิดกับจิตที่เป็นกุศลก็ได้ เกิดกับจิตที่เป็นอกุศลก็ได้ แต่ไม่ใช่เกิดพร้อมกัน ต้องคนละขณะ

        ผู้ถาม แล้วสภาพของตัวเจตสิกนั้นๆ ยังคงสภาพเหมือนกันไหมทั้งสองขณะ

        สุ. เจตสิกเปลี่ยนลักษณะของเจตสิกแต่ละอย่างไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้เจตสิกจึงต่างกันเป็น ๕๒ ประเภท และเจตสิกของประเภทหนึ่งจะไปทำกิจของเจตสิกอีกประเภทหนึ่งไม่ได้ ยังคงเป็นเจตสิกที่เกิดขึ้นทำหน้าที่ของเจตสิกนั้น ไม่ว่าจะเกิดที่ไหนเมื่อไหร่ ขณะที่เป็นอกุศล เจตสิกที่เกิดร่วมกับอกุศลเจตสิก และจิตที่เป็นอกุศลขณะนั้นก็ยังทำหน้าที่ของตน เปลี่ยนกิจหน้าที่ได้ แต่ว่าเกิดเมื่อไหร่ จิตไหนก็เป็นไปตามประเภทของจิตนั้นในขณะนั้น

        ผู้ถาม แล้วจะมีความต่างกันไหมอย่างเช่นฉันทะๆ เกิดได้ทั้งกุศล และก็อกุศล ฉันทเจตสิก

        สุ. ทีละขณะ

        ผู้ถาม แล้วลักษณะสภาพของฉันทะมีความต่างไหม

        สุ. ฉันทะคือสภาพที่พอใจที่จะกระทำ ถ้าพอใจที่จะกระทำ ขณะนั้นเกิดกับอกุศลเจตนา ขณะนั้นทั้งหมดเลย เจตสิกทั้งหมด และจิต และฉันทะก็เป็นไปในอกุศล แต่ยังคงเป็นความพอใจที่จะกระทำแต่กระทำอกุศล แต่ถ้าเป็นฝ่ายกุศล ฉันทเจตสิกก็เกิดร่วมกับจิต และเจตสิกที่เป็นฝ่ายดี ฉันทะก็ไม่ได้ทิ้งหน้าที่ๆ จะพอใจที่จะกระทำ แต่ขณะนั้นเกิดร่วมกับโสภณเจตสิก เพราะฉะนั้นพอใจที่จะกระทำที่เป็นกุศล

        ผู้ถาม แล้วอย่างเวทนาที่เป็นโสมนัสเวทนาที่เกิดในจิตที่เป็นโลภะซึ่งเป็นอกุศลกับเกิดในจิตที่เป็นกุศลจะเป็นลักษณะที่ต่างกันไหม

        สุ. เวทนาเป็นความรู้สึก โสมนัสคือความรู้สึกที่สบายใจ ดีใจ เวลาที่เกิดทางฝ่ายอกุศล เราอาจจะเกิดบ่อยๆ ก็รู้ อย่างเวลาที่บางคนจะชอบไปเที่ยวที่ต่างๆ และก็ขณะนั้นมีความสบายใจที่ได้อยู่ที่นั่น ขณะนั้นก็เป็นความสบายใจที่ติดข้องในอารมณ์ที่ปรากฏด้วย แต่เวลาที่เป็นความยินดี สบายใจในขณะที่เป็นกุศล ลักษณะก็ต้องต่างกันแต่ไม่เปลี่ยนลักษณะของสภาพที่ยินดีที่ปลาบปลื้ม

        ผู้ถาม อย่างนั้นแสดงว่าลักษณะที่จะสามารถพิจารณาได้ในขั้นต้นคือลักษณะของจิตใช่ไหม ที่รู้อารมณ์ในขณะนั้น

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 223


    หมายเลข 11050
    24 ม.ค. 2567