พระธรรมวินัย ๐๕๙
ท่านอาจารย์ น่าจะดีใจที่มีโอกาสได้ฟังพระวินัยมีใครคิดอย่างนี้บ้าง คิดบ้างไหม น่าจะดีใจที่มีโอกาสได้ฟังพระวินัย เพราะฉะนั้นทุกคำ ไม่ว่าจะชั่วโมงพระวินัยก็เป็นธรรม พระวินัยถ้าไม่มีธรรม วินัยเป็นอะไร เหตุผลมีไหมว่าเพราะอะไร ทำไมพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบัญญัติเรื่องนี้อย่างนี้เพราะอะไร ไม่ใช่ว่าเรากล่าวพระวินัยกี่ข้อๆ แล้วก็ไม่มีธรรมเลย แต่ทุกอย่างเป็นการที่จะให้เข้าใจให้ถูกต้องว่าทุกอย่างเป็นธรรมทั้งหมด เพราะฉะนั้นใครก็ตามมามูลนิธิ ชั่วโมงพระวินัยได้ฟังพระสูตรด้วย ดีใจไหม หรือเพิ่มพระสูตรขึ้นมา ดีใจมาก แถม ใช่ไหมหรือว่าพอชั่วโมงของพระอภิธรรม ก็มีพระสูตรด้วย ดีใจไหม หรือว่าไม่เอา ไม่อยากรู้ คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้มีแค่ธรรม แต่ทั้งหมดพระธรรมวินัย เพราะเหตุว่า วินัย ก็คือสภาพความเข้าใจที่ขัดเกลากิเลส ความเข้าใจมาจากไหน มาจากการเข้าใจธรรม แล้วเมื่อมีความเข้าใจธรรมแล้ว มีหรือที่จะไม่ขัดเกลากิเลส แต่คนที่พยายามที่จะไปหาทางเข้าใจธรรม และไม่คิดที่จะขัดเกลากิเลสเลย ก็ไม่ได้เข้าใจจุดประสงค์จริงๆ ว่า ฟังธรรมได้ประโยชน์ทั้งหมดเลย เพราะฉะนั้นถึงชั่วโมงพระวินัย เราก็พูดเรื่องธรรมอื่นได้ ชั่วโมงพระสูตร เราก็พูดเรื่องพระวินัยพระอภิธรรมได้ ชั่วโมงปฏิบัติธรรม เราก็พูดเรื่องธรรมที่เป็นพระสูตรได้ พระอภิธรรมได้ ไม่ใช่ว่าพอถึงชั่วโมงปฏิบัติธรรมก็คือว่าไม่มีอะไรเลยทั้งสิ้น มีแต่ปฏิบัติธรรม นั่นคือผู้ที่ไม่ได้เข้าใจว่าธรรมทั้งหมดสอดคล้องกัน อะไรที่จะเกื้อกูลให้สามารถเข้าใจได้ ทั้ง ๓ ปิฏกสอดคล้องกัน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง
ผู้ฟัง ประเด็นนี้ๆ ยากมากๆ แต่จะเริ่มว่า ถ้าเราเห็นคุณค่าของพระพุทธศาสนาที่มีต่อชาวโลก แล้วก็ตั้งหลักที่ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าบ้างพระองค์ในอดีต ไม่ได้บัญญัติพระวินัย เพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใดไม่บัญญัติพระวินัย พระศาสนาของท่านหรือพระธรรมของท่านก็จะเลือนลางสูญสลายไปอย่างรวดเร็ว หลังจากที่ทรงปรินิพพาน แล้วก็ด้วยเหตุนี้พระมหากรุณาธิคุณ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมพระองค์นี้ ถึงได้ทรงบัญญัติพระวินัยไว้มากมาย แต่ก่อนที่ พระองค์จะทรงบัญญัติพระวินัย พระองค์ต้องทรงรอจนกระทั่งเกิดเหตุ เกิดพฤติกรรมที่กระทบต่อความมั่นคงของความยั่งยืนของพระธรรมคำสอนของพระศาสนา เป็นที่รู้กันจนจะเรียกว่า คนทั้งภิกษุภิกษุณี และอุบาสกอุบาสิกา ต้องโจทย์กันขึ้นมา แล้วพระองค์จึงได้ประชุมสงฆ์ บัญญัติพระวินัยทีละข้อๆ แล้วก่อนจะทรงบัญญัติก็ทรงแสดงให้เห็นประโยชน์ของพระวินัย ที่จะทรงบัญญัติสิกขาบทข้อนี้ๆ ก็เพื่อเห็นแก่ความยั่งยืนในพระธรรมคำสอนของพุทธศาสนานี่แหละ ก็ด้วยเหตุต่างๆ อย่างนี้ ค่อยๆ บัญญัติทีละบทๆ ๆ แล้วก็สืบทอดกันมาเมื่อประโยชน์อย่างนี้เกิดขึ้น เราก็จึงเห็นว่า ถ้าพระภิกษุในพุทธศาสนา ผู้เป็นหัวหน้า ผู้เป็นประธานในพุทธบริษัทได้ผิดเพี้ยนจากพระธรรมวินัยไปมากจนน่าตกใจ แล้วประโยชน์ที่เราได้รับมานี้จะสืบทอดต่อไปยังอนุชนรุ่นหลังได้อย่างไร จะต้องสูญหายไปเร็วกว่าที่ควรจะเป็น ด้วยเหตุนี้ผมก็อนุโมทนา ต้องกราบเรียนว่า ชื่นชมทางมูลนิธิว่า ท่านได้ทำในสิ่งซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อชาวโลก ไม่ใช่เฉพาะชาวไทย คนทั่วโลกจะศึกษา พระธรรมวินัยแบบนี้ ที่อื่นยากมาก แต่ยังไม่มีอยู่ที่ประเทศไทย แล้วถ้าเรามาคล้ายๆ ว่า ไม่เห็นประโยชน์ในเรื่องพระวินัย พอเราไม่ได้รับประโยชน์ส่วนตัว เราก็รู้สึกว่ามันไกลเรามากเลย แล้วก็ทอดทิ้งละเลย เมื่อพระภิกษุท่านละเลย แล้วอุบาสกอุบาสิกาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามอบภาระนี้ให้ดูแลร่วมกัน ก็จะพากันละเลย เพิกเฉย แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไร รุ่นลูกรุ่นหลานของเราไม่ได้รับประโยชน์อย่างที่เราได้รับในวันนี้ แล้วมีใครบ้างไหมในโลก ไม่ใช่ในประเทศไทยเท่านั้น ที่จะรับภาระทำหน้าที่นี้ ต้องกราบเรียนว่า ผมก็ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของพระภิกษุผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบหลายองค์ แต่ผมก็ได้พบว่า ภิกษุอลัชชี เข้ามาทำมาหากินอยู่ในพระพุทธศาสนามากขึ้นเรื่อยๆ ๆ แล้วก็ไม่มีเสียงกวดขัน ทัดทาน ทักท้วง แล้วถ้ามูลนิธิไม่ทำ ปัญหานี้ใครจะทำ นี่เป็นสิ่งที่ผมคิดว่า พวกเรากำลังทำในสิ่งที่ตอบแทนบุญคุณพระธรรมวินัยที่เราได้รับประโยชน์มาใส่ตัวเรา เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แม้จะยากแสนยาก แต่ถ้าพวกเราซึ่งมีโอกาสได้มาใกล้ชิดพระสัทธรรมที่บริสุทธิ์มากขนาดนี้ ยังไม่เห็นประโยชน์ ยังไม่เห็นคุณค่า ใครจะทำ ต้องกราบเรียนว่า ผมไม่ได้ใส่ใจในพระวินัยมาก่อน แล้วก็ไม่ได้มีความสนใจใคร่รู้อะไร เพราะเขารู้สึกว่าไกลตัวเหมือนกัน แต่เมื่อได้ฟังเหตุผล ได้ฟังข้อมูลจากท่านวิทยากรให้ความรู้หลายๆ ด้านแล้ว ผมก็เห็นว่าพวกเรานี่แหละ น่าจะต้องช่วยกันช่วยกันที่จะทำงานนี้ให้กับประเทศไทย ให้กับพุทธศาสนา ให้กับชาวโลก ในข้อนี้ผมกล้ายืนยันว่า เราได้ฟังสิ่งที่เป็นประโยชน์ แล้วเป็นสิ่งที่ประเสริฐจริงๆ ถ้าเห็นประโยชน์ เห็นคุณค่าของพระธรรมวินัยอันบริสุทธิ์นี้ เราก็จะเห็นว่า สิ่งที่ท่านอาจารย์นำพวกเราทำนี้ยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่มากๆ คนธรรมดาทำไม่ได้ คนที่ไม่รู้แน่แท้ทำไม่ได้ ขอบพระคุณท่านอาจารย์อีกครั้ง
ท่านอาจารย์ ก็ชัดเจน ก็อยู่ที่แต่ละคน เมื่อได้ฟังแล้วจะมีความเข้าใจ และมีความเสียสละ ซึ่งขณะนั้นต้องเป็นปัญญา เพราะว่าถ้าเป็นความเห็นแก่ตัวหรือเป็นเรา ไม่มีทางที่จะเห็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่ได้ว่า เมื่อมีความเข้าใจแล้ว คิดถึงคนอื่นที่เขาไม่เข้าใจบ้างไหม และโดยเฉพาะขณะนี้ ประเทศชาติบ้านเมืองเราก็รู้อยู่ พระพุทธศาสนาเวลานี้เป็นอย่างไร เสื่อมโทรมขนาดไหน ก็เป็นที่ประจักษ์แจ้ง เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ร่วมแรงร่วมใจกัน ก็คือว่าไม่มีใครสามารถที่จะดำรงรักษาพระศาสนาไว้ได้ ก็อยู่ที่ทั้งความเข้าใจธรรม และเห็นประโยชน์ แล้วก็กุศลทั้งหลายที่จะทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่มีอะไรมายับยั้งได้เลย
ผู้ฟัง ผมอยากจะขอแสดงความคิดเห็นส่วนตัวนิดหน่อยเกี่ยวกับพระธรรมพระวินัยพระสูตร พระธรรมพระวินัยพระสูตรก็มีความสำคัญพอๆ กัน ตามความเข้าใจ คราวนี้ที่ว่า กระแสเรื่องการพูดถึงพระวินัยมากในขณะนี้ ผมก็ไม่ได้คัดค้าน แต่ว่าตามความรู้สึกนี้ การเสนอพระวินัย หรือการอธิบายพระวินัยก่อนๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคนฟังได้ดี เพราะว่าแนวทางการเสนอพระวินัย หรือการอธิบายพระวินัยก่อนๆ บางระยะจะไม่อ้างถึงบุคคลที่ ๓ เพราะเป็นหลักคล้ายๆ สอนพระอภิธรรม ผมก็อยากจะเอ่ยความคิดเห็นว่า อยากจะให้ทางพวกเรา ให้ท่านอาจารย์วิทยากรพิจารณาว่า การเสนอพระวินัย จะเป็นแนวไหนถึงจะเหมาะสม โดยที่ไม่อ้างถึงบุคคลที่ ๓ หรืออะไร ตามความคิดเห็นส่วนตัว
ท่านอาจารย์ แต่ถ้าเป็นคนที่ตรงชัดเจน จุดประสงค์ก็คือว่า เพื่อที่จะให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง ถูกไหม เพราะฉะนั้นเมื่อมีหลักฐานพร้อมมูล เราเอ่ยชื่อได้ว่า ขณะนี้พระพุทธศาสนากำลังล่มสลายเพราะอะไร เพราะการกระทำของใคร มิฉะนั้นคนส่วนใหญ่ไม่เข้าใจเลย ก็ยังมีปากเสียงออกมาว่า ทั่วโลกจะรู้สึกผิดหวังที่ประเทศไทยทำอย่างนี้ หรืออะไรต่ออะไรอย่างนั้น นี่ก็ยิ่งทำให้คนได้เข้าใจผิดไป เพราะฉะนั้นเมื่อความถูกต้องมี สมควรอย่างยิ่งที่จะต้องเอ่ยชัดเจน เพราะว่าไม่ได้ใส่ร้ายใครเลย ถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง แล้วถ้ามีคนเข้าใจถูกต้องว่า ธัมมชโย ชัยบูล ไม่ใช่พระภิกษุ เพราะเหตุว่าปาราชิก
เพราะฉะนั้นคนถ้ามีความเข้าใจอย่างนี้ เขาจะรักษาพระศาสนา หรือว่าจะรักษาธัมมชโย เพราะว่าทั้งหมดนี้เราสามารถที่จะให้คนได้เข้าใจถูกต้องว่า ไม่ใช่แต่เฉพาะธัมมชโย ธรรมกายจะเป็นยังไง ประเทศชาติล่มสลายเพราะการกระทำที่ไม่ถูกต้อง และควรที่จะให้คนอื่นได้รับรู้ไหม เพราะฉะนั้นถ้ามีหลักฐานที่พร้อมทุกอย่าง ไม่ได้เป็นการกล่าวร้ายเลย แต่ชี้แจงหลักฐานทั้งหมดว่าตรงตามพระธรรมวินัยอย่างไร ให้คนได้รู้ตามความเป็นจริงว่า การกระทำอย่างนี้ผิดจากที่พระผู้มีพระภาคทรงบัญญัติไว้อย่างไร ให้คนเห็นชัดว่า อย่าไปหลงเชื่อ อย่าไปหลงติดตาม อย่าไปหลงเข้าใจผิดว่านี่คือพระพุทธศาสนา เพราะนี่ไม่ใช่พระพุทธศาสนา เพราะว่าจะสังเกตได้ว่า ถ้าไม่มีการให้คนอื่นได้เข้าใจถูกต้อง คนเท่าไหร่ที่คิดว่าธรรมกายสอนพระพุทธศาสนา ทั้งต่างประเทศด้วย ทั้งทั่วโลกหมด เพราะฉะนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องชี้แจงทุกอย่างที่เป็นการกระทำผิด ให้รู้ว่าผิดจากพระวินัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างไร เพื่อคนที่จะได้มีความเคารพในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่หลงเชื่อบุคคล และก็มีความไม่เลื่อมใสในพระศาสนาเพราะหลงเชื่อบุคคล คิดว่าบุคคลนั้นถูก แต่ความจริงไม่ถูกต้องเลย พระศาสนาบริสุทธิ์สะอาดอย่างไร เขาผิดอย่างไร ชี้แจงให้เห็นตามความเป็นจริง เพื่อเขาจะได้ทำตัวให้ถูกต้อง เพราะเหตุว่าจุดประสงค์ผิดแล้ว ต้องแก้ ไม่ใช่ผิดแล้วเลยตามเลย ยิ่งผิดไปใหญ่ ถ้าผิดแล้วยิ่งผิดไปใหญ่ ไม่มีประโยชน์ เราไม่ใช่กัลยาณมิตร ไม่ใช่มิตรสหาย ไม่ใช่ความหวังดี ถ้าเราปล่อยให้คนไม่รู้ยังทำสิ่งที่ไม่รู้ต่อไป แต่ถ้าเราสามารถที่จะให้เขาพิจารณาในเหตุผลในความถูกต้อง ด้วยความหวังดี ถ้าเราไม่เอ่ยเลย ใครจะรู้ แต่ถ้าเอ่ยถูกต้องตามความเป็นจริง ด้วยความหวังดีว่า อย่าหลงเชื่อคนที่ไม่ได้เข้าใจธรรม คนที่อวดอ้างอุตริมนุสสธรรมคิดว่า เขาเก่งกว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังต้องไปเรียนรู้อย่างนั้น ต้องไปถามคนนี้ พูดได้อย่างไร เพราะฉะนั้นเราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่ว่าด้วยความหวังดีที่ว่า คนผิดจะได้รู้ว่าตัวเองผิด ไม่มีใครบอกเขาได้เลย นอกจากพระวินัย
พระธรรมที่ได้ทรงแสดงไว้ ถ้ารับฟัง และเป็นผู้ที่เป็นกุศลจิตหรือมีกุศลแม้เพียงเล็กน้อย ก็ต้องกลับมากลับตัวได้ ทำสิ่งที่ถูก ทุกคนทำผิด แล้วก็ผิดนั้นได้ทำไปแล้วด้วย เมื่อเพื่อนของเราสักคนหนึ่งในพุทธบริษัท สหายธรรมส่วนของบริษัทส่วนหนึ่งทำผิดไปแล้ว ทางเดียวคือต้องให้รู้ว่าผิด แล้วแก้ไข ไม่ใช่ปล่อยไปให้เขาผิดต่อไป อย่างนั้นเราไม่ใช่เพื่อนของใครเลยทั้งสิ้น เราไม่ได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับใครเลย แต่การกระทำทั้งหมดที่จะให้คนได้เข้าใจความถูกต้อง ไม่ผิด ควรทำ ถ้าใครไม่ทำก็เป็นไง ใจดำหรือเปล่า ถ้าใครคิดว่าธรรมกายหรือธัมมชโยธรรมทำสิ่งที่ดีส่งมาที่มูลนิธิ และเราจะได้ชี้แจงพระธรรมวินัยให้เข้าใจถูกต้องว่า ไม่ถูกต้องตามพระวินัยไม่ใช่สิ่งที่ดี นี้คือสิ่งที่เราจะช่วยคนอื่นที่ไม่เข้าใจให้ได้เข้าใจถูกต้อง พุทธบริษัทด้วยกันก็ช่วยกันบำรุงรักษาพระศาสนา ไม่ให้มีการกระทำที่ทำลายพระศาสนา ไม่ใช่ว่าบอกว่าเขาผิดแต่ไม่ได้ชี้แจงอะไรเลย ชี้แจงทั้งพระวินัยและธรรมด้วย
เหมือนอย่างที่คุณอรรณพยกตัวอย่างพระสูตรขึ้นมา ยอดมหาโจร พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้แล้ว เราจะไม่นำคำของพระองค์มากล่าวชี้แจงให้คนอื่นได้เข้าใจหรือ ไม่ใช้คำของเรา เราไม่ได้ทำอะไรผิดเลย แต่เพราะเขาไม่รู้ เราก็หยิบยกขึ้นมาแสดงตามความเป็นจริง ให้เข้าใจให้ถูกต้องว่า โจรคือใคร มหาโจรคือใคร ยอดมหาโจรคือใคร เขาจะได้เข้าใจได้ถูกต้องตามธรรมวินัย
เวลานี้ทุกคนก็รู้สถานการณ์ของพุทธศาสนา เพราะไม่เข้าใจพระวินัยใช่ไหม และไม่เข้าใจธรรมด้วยใช่ไหม ไม่ได้แยกกันเลย ถ้าเข้าใจธรรมทำอย่างนี้ไม่ได้ จะผิดพระวินัยอย่างนี้ไม่ได้ แต่เพราะไม่เข้าใจธรรมดีถูกต้องว่า สมควรอย่างไรที่จะต้องประพฤติ ไม่ใช่ฟังธรรมเพื่อเข้าใจแล้วไม่ทำอะไร แต่เพราะความเข้าใจ จึงเห็นว่าสิ่งใดถูก สิ่งใดผิด และคนที่ไม่เข้าใจ เราเผยแพร่ทำไม ทุกคนไม่ต้องมามูลนิธิเลย มูลนิธิไม่พูดอะไรทั้งสิ้น ไม่สอนอะไรเลย อยู่กับบ้าน ผิดก็ผิดไป ไม่เข้าใจธรรมก็ไม่เข้าใจไป แต่พระอะไรจึงมีมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์อะไร เพื่อให้คนที่ไม่รู้ได้รู้ได้เข้าใจได้ถูกต้อง ทำไมต้องทำ อยู่เฉยๆ ไม่ดีกว่าหรือ ไม่เดือดร้อนอะไร แต่เพราะเห็นประโยชน์อย่างยิ่งของพระธรรมทุกคำที่เป็นประโยชน์ต่อสัตว์โลก ไม่ว่าจะเป็นเพศใดก็ตาม บรรพชิตหรือคฤหัสถ์ สมควรอย่างยิ่งที่จะได้เผยแพร่ไหม ให้คนได้เข้าใจถูกไหม และถ้าได้เข้าใจถูกแล้ว จะมีการประพฤติผิดที่เป็นการทำลายพระพุทธศาสนาอย่างนี้ไหม ผ้ายันต์ ตะกรุด หรือว่าพิฆเนศ หรืออะไรทั้งหมด สูญเงินไปเท่าไหร่ และสิ่งต่างๆ เหล่านั้น ก็บ่อนทำลายความเห็นถูกต้อง เพราะฉะนั้นที่มีมูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา ก็แสดงจุดประสงค์อยู่แล้วใช่ไหม ศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา เพื่อประโยชน์กับคนทั้งหมดเลย ไม่ใช่เฉพาะคนที่ไม่เข้าใจพระอภิธรรม แล้วก็มานั่งสอนพระอภิธรรมเขา เข้าใจเข้าใจได้มากน้อยแค่ไหน เห็นแก่ตัวหรือเปล่าว่า เราจะเรียนเราจะศึกษา แต่ทำไมไม่ร่วมกันทั้งหมด ไม่ว่าใครทั้งนั้น แล้วก็ทั้ง ๓ ปิฏกด้วย เพราะเหตุว่าเพราะไม่รู้พระวินัยจริงได้เป็นอย่างนี้ใช่ไหม แล้วยังจะไม่รู้วินัยต่อไปกันอีกหรือ ถ้าเข้าใจพระวินัยเข้าใจธรรม จะไม่เป็นอย่างนี้เลย แต่ที่เป็นอย่างนี้ก็แสดงอยู่ชัดเจนว่า เพราะไม่ศึกษาไม่เข้าใจ
และพระธรรมทั้งหมด อีกครั้งหนึ่ง คำใดที่เป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกคำ เป็นประโยชน์ทั้งพระสูตรพระวินัยพระอภิธรรม เพราะทั้งหมดเป็นธรรม ถ้าใครยังไม่เข้าใจอย่างนี้ ก็จะคิดว่าพระอภิธรรมเท่านั้นที่ควรเรียน หรือพระสูตรเท่านั้นที่ควรรู้ ไม่จำเป็นต้องรู้พระวินัย นั้นผิด เพราะไม่รู้คุณของพระวินัยซึ่งเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่อย่างนั้นพระองค์จะทรงแสดงทำไม ถ้าสิ่งนั้นไม่เป็นประโยชน์
อ. อรรณพ ต้องเป็นเรื่องจริงเรื่องตรง มิฉะนั้น อาจจะดูว่าเหมือนเป็นการที่มูลนิธิเอ่ยชื่อ แล้วก็เหมือนเป็นการไปว่าหรือไปส่อเสียด อาจมีความเข้าใจผิดอย่างนี้ แต่ขอให้พิจารณาธรรมหลอกลวง ประการหนึ่ง ตรงนี้พอดีเลยคือ ความเป็นผู้ไม่ใคร่ประโยชน์ย่อมลวงเสมือนเป็นผู้ไม่กล่าวส่อเสียด เราจะไม่กล่าวส่อเสียดใคร ซึ่งการไม่กล่าวส่อเสียดเป็นสิ่งที่ดี แต่จริงๆ จิตคือไม่ใคร่ประโยชน์ ศาสนาจะเป็นอย่างไรจะกระทำย่ำยีพระวินัยอย่างไร ไม่ใคร่ประโยชน์ที่จะแสดงที่จะกล่าวเพื่อแก้ เพื่อที่จะให้มีการปรับปรุงในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ใคร่ประโยชน์เลย การไม่ใคร่ประโยชน์ของพระศาสนาและสังคม เป็นอกุศลธรรมแน่นอน เพราะตอนนั้น คิดแต่ตัวเอง รักแต่ตัวเอง หนึ่ง กลัวว่าจะเดือดร้อนบ้างจากอลัชชีเหล่านี้ คนพาลเหล่านี้ หรือรักตัวที่อยากจะฟังธรรมให้ตัวเองได้สบายใจ ให้ตัวเองได้รู้เรื่องที่ตัวเองอยากรู้ นี่คือไม่ใคร่ประโยชน์ต่อพระธรรมวินัย นี้คืออกุศล แต่ลวงเหมือนกับเป็นผู้ที่ดี คือผู้ที่ไม่กล่าวส่อเสียดใคร ไม่เอ่ยชื่อใคร เพราะฉะนั้น ลวงได้อย่างนั้น แต่ถ้าเป็นผู้ที่ใคร่ประโยชน์จริงๆ ก็จะกล่าว ก็จะแสดงเพื่อประโยชน์ เพราะฉะนั้นความเป็นผู้ไม่ใคร่ประโยชน์ของพระศาสนา ลวงเหมือนกับเป็นผู้ที่ไม่กล่าวส่อเสียด เราไม่ว่าใคร เราไม่อะไรพวกนี้ เราก็จะศึกษาพระธรรมวินัยของเราไปอย่างเงียบๆ ดูเหมือนดี แต่เพราะถูกอกุศลลวงอย่างนี้ ท่านจึงกล่าว ธรรมหลอกลวง ข้อนี้ไว้ เพราะฉะนั้นเตือนใจพวกเราว่า ใคร่ประโยชน์ต่อพระศาสนาไหม
ท่านอาจารย์ ที่กล่าวถึงโจร มาหาโจร ยอดมหาโจร ส่อเสียดหรือเปล่า
อ. อรรณพ เป็นการกล่าวที่เพื่อประโยชน์
ท่านอาจารย์ ทุกคำเป็นคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหมด เป็นคำจริง พูดถึงโจร พูดถึงมหาโจร พูดถึงยอดมหาโจร เพื่อประโยชน์ให้เข้าใจให้ถูกต้อง แล้วเราจะไม่กล่าวคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหรือ ต้องไม่ลืม คำสอนทุกคำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยิ่งเปิดเผยยิ่งรุ่งเรือง เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่พูด และปกปิดไว้ ไม่กล่าวถึงด้วยประการใดๆ ก็ตาม ขณะนั้นเราก็ไม่ได้ทำให้คนอื่นได้รับประโยชน์อะไรจากพระธรรม
อ. จริยา การกระทำต่างๆ ที่ยกตัวอย่างขึ้นมา กรณีของธัมมชโยเป็นกรณีที่ศาลมีมาจากมีการกระทำที่ออกมาทางสื่อ ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการกระทำผิดมาช้านาน แต่บ้านเมืองก็ยังทำอะไรไม่ได้ คงกำลังกระทำอยู่ เพราะฉะนั้นในฐานะที่เราศึกษาพระธรรม ศึกษาพระวินัยแล้ว หน้าที่ของเราก็คือดูแลรักษาพระศาสนาไม่ให้มัวหมอง แม้ว่าจะทำได้หรือไม่ได้ จึงคิดว่าเป็นสิ่งที่เราควรกระทำอย่างยิ่ง แม้ว่าชีวิตของเราจะเป็นอย่างไรไปในวันนี้พรุ่งนี้ เราก็ยังไม่ทราบ แต่ถ้าเราได้มีโอกาสได้รักษาพระวินัย แม้น้อยนิดก็คือ
๑. การให้ความรู้กับคนทั่วไปในเรื่องพระวินัย พื้นๆ ที่ควรจะทราบได้
๒. ผู้มีการกระทำผิดวินัยของพระขึ้น เราก็ควรที่จะช่วยกันร่วมมือ เราไม่ได้ประจาน เราไม่ได้ไปกล่าวร้าย เราใช้ความจริงที่มีอยู่ พูดโดยจิตที่มีความกรุณาต่อเขา เพื่อไม่ให้เขาไปสู่ที่ที่ไม่ดี และก็เป็นทางที่จะช่วยกันรักษาพระศาสนาสืบไป จึงคิดว่าสิ่งเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่เราทำไม่ได้ เราสามารถที่จะทำได้ แล้วจริงๆ ไม่ใช่มีกรณีของธัมมชโยเท่านั้น ยังมีกรณีของพระต่างๆ ที่เราเห็น ทางหน้าหนังสือพิมพ์ ทางสื่อออนไลน์ ทั้งวีดิทัศน์อะไรต่างๆ ที่มีการกระทำผิดในกรณีต่างๆ ซึ่งน่าที่จะต้องยกขึ้นมาพิจารณา การที่เรายกมาพิจารณาอย่างนี้ เราทำด้วยความตั้งใจดีต่อพระศาสนา ไม่ได้รังเกียจเดียดฉันท์ต่อใคร เราพูดถึงการกระทำนั้นๆ เพราะฉะนั้น ดิฉันคิดว่าขอกราบเท้าท่านอาจารย์ที่ท่านอาจารย์กล้าหาญ จึงทำให้เราผู้ซึ่งได้ศึกษาพระธรรมกับท่านอาจารย์ ก็มีความมั่นใจ แล้วก็มีความรู้สึกว่า หน้าที่ของเราอย่างยิ่งในขณะนี้ก็คือ รักษาพระศาสนา แม้ว่าการที่จะรักษานี้จะรักษาได้ด้วยชีวิตของเรา ก็ควรที่จะรักษาสืบไป
ท่านอาจารย์ คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ควรกล้าอย่างยิ่งที่จะเปิดเผยให้ได้เข้าใจถูกต้อง
