พระพุทธศาสนากับความมั่นคงของชาติ


        ถ้าจิตของคนในชาติเป็นอกุศล ชาติก็เสื่อม แต่ชาติจะมั่นคงได้ก็เพราะคนในชาติ มีกุศลจิตเกิดเพิ่มขึ้น ซึ่งก็ต้องด้วยความเข้าใจพระธรรมที่ถูกต้อง


        อ.อรรณพ พระพุทธศาสนากับความมั่นคงของชาติบ้านเมือง จะเกี่ยวข้องกันอย่างไรครับ

        ท่านอาจารย์ คงไม่ลืมนะคะ ถ้าไม่ใช่สัตว์บุคคล เป็นต้นไม้ใบหญ้า ไม่สำคัญเลยใช่ไหมคะ แต่จิตเป็นใหญ่เป็นประธาน ถ้าจิตเป็นอกุศลเกิดมาก ชาติเจริญไหม ประเทศชาติของแต่ละคน ซึ่งรวมๆ กัน ที่บอกว่าประเทศชาติเจริญ และจิตเป็นใหญ่เป็นประธาน และทุกคนมีจิต และถ้าจิตทุกคนเป็นอกุศลประเทศชาติเจริญไหม

        อ.อรรณพ ก็เป็นชาติอกุศล เสื่อม

        ท่านอาจารย์ ไม่มีทางเจริญได้เลย ต้องเสื่อม เพราะฉะนั้น จะเจริญจริงๆ ต่อเมื่อกุศลจิตของคนในชาติ ด้วยเหตุนี้ขาดคุณธรรมความเข้าใจธรรมไม่ได้ เป็นความถูกต้องของจิตประเภทที่มีสภาพธรรมะที่ดีงามเกิดร่วมด้วย

        อ.อรรณพ จิตชาติกุศลมีความมั่นคงอย่างไร

        ท่านอาจารย์ การฆ่าการทำร้าย การเบียดเบียนเกิดขึ้นจากจิตประเภทใด

        อ.อรรณพ อกุศลครับโทสะ

        ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นฆ่าทั้งวัน ทุกวัน ทุกคนเป็นอย่างไรคะ เจริญไหม

        อ.อรรณพ ไม่เจริญ

        ท่านอาจารย์ เพราะฉะนั้นถ้ารู้ความจริงว่าขณะที่ฆ่า คือ อะไร อกุศลธรรม เพราะฉะนั้นถ้าไม่รู้ และก็มีแต่อกุศลธรรมก็จะมีแต่การเบียดเบียน ประทุษร้าย ถ้าจะมั่นคง ต้องมั่นคงด้วยคุณความดี คือจิต เจตสิกฝ่ายดีเกิดขึ้น เพราะไม่รู้ใช่ไหมจึงเกิดความติดข้อง ต้องการทุกอย่าง ถ้าต้องการนั้นมีมากก็สามารถที่จะกระทำทุจริตกรรมได้ทุกประการ ประเทศจะเจริญหรือไม่ ทราบหนทางที่จะทำให้ชาติมั่นคงใช่ไหมคะ แต่ถ้าเต็มไปด้วยอกุศล ชาติมั่นคงไม่ได้เลย ด้วยเหตุนี้ชาติ ศาสนา คือหลักคุณธรรม โดยเฉพาะความเข้าใจถูกความเห็นถูก ถ้ารู้ว่าสิ่งใดไม่ดี แล้วจะทำไหม ก็ค่อยๆ ลดละความที่ไม่ดีลงไปใช่ไหม

        ถ้ารู้ว่าโลภะ โทสะไม่ใช่เรา เป็นเหตุที่เมื่อได้ถึงการทำทุจริตแล้วย่อมให้ผล คือเกิดไม่ดี เห็นไม่ดี ได้ยินไม่ดี ได้กลิ่นไม่ดี ลิ้มรสไม่ดี และก็ยังติดตามมาด้วยการคิดนึกที่ไม่ดีด้วย เพราะเหตุว่า ไม่เข้าใจว่าอะไรดีอะไรชั่ว

        เพราะฉะนั้นคำสอนที่เป็นความจริงที่ทำให้เกิดความเห็นที่ถูกต้องเท่านั้นที่สามารถที่จะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น พระพุทธศาสนาไม่จำกัดไม่มีชาติเฉพาะ ว่าเป็นไทย เป็นจีน ฝรั่งเศส ญวณ พม่า เป็นธรรมะที่ทั้งสากลจักรวาลเป็นความจริงถึงที่สุด เห็นไม่ใช่ชาติไหนเลย แต่นกก็เห็น คนก็เห็น ไทยก็เห็น พม่าก็เห็น จีนก็เห็น แต่เห็นเป็นเห็น เพราะฉะนั้นก็ไม่จำกัดเลยว่าประเทศชาติใด ก็จะเห็นได้ว่าเสื่อมเพราะอะไร และถ้าประเทศใดก็ตามที่มีคนที่อยู่ในคุณธรรม มีคุณธรรม และมีความเข้าใจธรรมะ ประเทศชาตินั้นก็ปลอดภัย หรือเสื่อมน้อยกว่าประเทศอื่นซึ่งมีแต่อกุศล ด้วยเหตุนี้ จะไปปกครอง จะไปคุ้มครอง จะไปชักชวนไปทำอะไร เป็นไปได้ไหม ในเมื่อธรรมทั้งหลายเป็นอนัตตา

        เพราะฉะนั้นแล้วแต่บุญกรรม คำนี้ไม่ผิดเลย คือคนโบราณท่านใช้คำถูก แต่ต้องเข้าใจให้ถูกต้องด้วย บุญเป็นกรรม บาปก็เป็นกรรม แต่ว่าคนส่วนใหญ่จะตัดสั้นเหมือนกับว่าบุญเป็นบุญ และบาปเป็นกรรม เพราะฉนั้นใช้คำว่าแล้วแต่บุญกรรม คือแล้วแต่กุศลกรรม และกุศลกรรมที่ได้ทำมา

        เพราะฉะนั้นจริงๆ แล้วจะเห็นได้ว่า แต่ละประเทศซึ่งเสื่อมจนสลาย แต่คนในชาตินั้นบางคนก็มีความสุขตามผลของกรรมที่ได้กระทำแล้ว ประเทศเล็ก ประเทศน้อย อย่างในเอเชียล่มสลาย แต่ก็มีหลายคนที่อยู่ที่ฝรั่งเศสหรืออยู่ที่เมืองไหนที่เจริญแล้วด้วยความผาสุกตามบุญตามกรรมของแต่ละคน เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องซึ่งไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนในพื้นโลก หรือที่ไหนก็ตาม ไม่มีอะไรที่ยิ่งใหญ่หรือสำคัญกว่ากรรมที่กระทำแล้ว เพราะฉะนั้นถ้าได้รู้เหตุไม่ต้องหวั่นเกรงอะไรทั้งสิ้น ผลของกรรมดีที่ได้ทำแล้วย่อมให้ผลที่ดี และเมื่อไรก็ตามที่ทำกรรมไม่ดี คนอื่นไม่ได้รับกรรมแทนเรา แต่ว่ากรรมที่ไม่ดีที่ได้กระทำแล้วเป็นเหตุที่จะให้เกิดผล เริ่มตั้งแต่ขณะแรกของชีวิตคือการเกิดขณะแรกเป็นผลของกรรม และเมื่อเกิดแล้วก็เห็น ไม่ใช่เพียงแค่เกิด ยังต้องเห็น ต้องได้ยิน ต้องได้กลิ่น ต้องลิ้มรส ต้องรู้สิ่งที่กระทบสัมผัส ปกติก็ ๕ ทางเว้นแต่คนตาบอดก็ไม่เห็น คนหูหนวกก็ไม่ได้ยิน เมื่อมีการเห็น ได้ยิน มีหรือซึ่งจะไม่มีจิตที่จำเกิดดับสืบต่อคิดนึกถึงสิ่งที่เห็น เพราะฉะนั้นแม้ฝันก็ยังเป็นเรื่องราวของสิ่งที่เคยเห็นแล้ว เคยได้ยินแล้ว ทั้งหมดไม่พ้นจากรูปเห็นได้ทางตา เสียงรู้ได้ทั้งหู กลิ่นรู้ได้ทางจมูก รสรู้ได้ทางลิ้น ฯลฯ การกระทบเย็นร้อนอ่อนแข็งที่ปรากฏรู้ได้ทางกาย ก็เท่านี้เอง แล้วจะอยากได้อะไรกันนักหนา


    หมายเลข 10530
    13 ก.พ. 2567