แยกออกได้ว่าไม่ใช่เราเพราะอะไร -พฐ.192


        สุ. แม้แต่การสะสมที่จะระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ หรือว่าแล้วแต่จะเป็นเรื่องของความสงบของจิตใจ ขณะนั้นก็เป็นธรรมด้วย ด้วยเหตุนี้จึงกล่าวว่ากี่ภพกี่ชาติก็ต้องมีความเป็นไปของสภาพธรรรมทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นกุศลระดับอื่นซึ่งไม่ใช่การรู้ลักษณะของสภาพธรรม ซึ่งผลก็คือทำให้เกิดอีกแล้วก็เป็นอย่างนี้อีก แล้วก็ไม่รู้อีก จนกว่าจะเป็นกุศลที่สามารถจะทำให้เข้าใจความจริงของสภาพธรรมได้ นี่ก็เป็นความต่างกันของความไม่รู้กับความรู้

        ผู้ถาม โดยสภาพธรรมที่มีในชีวิตประจำวันจะขาดความเป็นตัวเราไม่มีเลย แม้แต่ว่าขณะฟังธรรม แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเกิดความคิดขึ้นมาว่าสภาพธรรมที่เป็นตัวเรา เป็นสภาพธรรมอย่างหนึ่ง

        สุ. คืออะไร สภาพนั้น

        ผู้ถาม ความรู้สึกยินดี

        สุ. ค่ะความรู้สึกยินดีเป็นสภาพธรรม ไม่ใช่คุณสุกัญญาแล้ว

        ผู้ถาม ไม่ใช่ แต่ในขณะที่ยินดีเราก็มีความรู้สึกว่าเรายินดี

        สุ. เพราะว่าการที่จิตสามารถจะรู้สิ่งหนึ่งสิ่งใดได้ต้องอาศัยทางตา ๑ จึงเห็น อาศัยทางหูจึงได้ยิน อาศัยจมูกจึงได้กลิ่น อาศัยลิ้นจึงลิ้มรส อาศัยการจึงรู้สิ่งที่กำลังกระทบสัมผัส อาศัยใจจึงคิดนึก เพราะฉะนั้นขณะนั้นคือจิตที่คิดนึก เพราะฉะ นั้นเราต้องมีความชัดเจนในการศึกษาธรรม มิฉะนั้นแล้วความเป็นเราก็จะแฝงหรือปนอยู่ รวมๆ กันแล้วก็เป็นเรา ถ้าไม่สามารถที่จะแยกออกมาได้ว่าไม่ใช่เราเพราะอะไร เพราะว่าเป็นสภาพธรรมแต่ละลักษณะ เช่น ขณะที่กำลังเห็น เป็นเรานานแสนนาน แต่ต้องรู้ขณะจิตว่าจิตที่เห็นเป็นผลของกรรมเกิดขึ้นเพราะกรรม ถ้าไม่มีกรรมเป็นปัจจัย จิตเห็นขณะนี้เกิดไม่ได้เลย เพราะเหตุว่ากรรมทำให้จักขุปสาทรูปเกิดสำหรับที่จะกระทบกับสิ่งที่สามารถกระทบกับจักขุปสาทได้คือสิ่งที่กำลังปรากฏในขณะนี้เท่านั้น สิ่งอื่นไม่สามารถจะกระทบกับจักขุปสาทได้เลย และสิ่งอื่นที่กำลังกระทบจักขุปสาทก็เลือกไม่ได้ด้วยว่าจะให้เป็นสิ่งที่น่าพอใจหรือไม่น่าพอใจ นี่เริ่มเห็นแล้วว่าไม่ใช่เราเพราะได้ฟังอย่างนี้ ได้เข้าใจอย่างนี้ แต่ไม่ใช่การประจักษ์ในธาตุรู้ซึ่งกำลังเห็น และในสภาพที่กำลังปรากฏซึ่งไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใดเลย เพียงกระทบแล้วปรากฏแล้วก็ดับไป นี่ก็แสดงให้เห็นว่าเมื่อเรามีความเข้าใจขั้นต้นก็ยังต้องมีฉันทะต่อไปที่จะให้เข้าใจถูกต้องยิ่งขึ้น มิฉะนั้นเราจะปน ๖ ทางแล้วบอกไม่ได้ว่าเป็นเราเมื่อไหร่ แล้วไม่ใช่เราเมื่อไหร่ แต่ถ้าจะเป็นเราก็ทางไหน ทางคิดนึกที่กำลังคิดนึก เพราะว่าขณะนั้นคุณสุกัญญาบอกว่าความรู้สึกมี แล้วก็เริ่มคิดว่าความรู้สึกนั้นไม่ใช่เรา แต่เป็นความคิด แต่สิ่งที่มีจริงคือขณะที่สติปัฏฐานกำลังรู้ตรงลักษณะนั้น เท่านั้นในสังสารวัฏที่จะแสดงความจริงว่าสิ่งนั้นมีจริงๆ นอกจากนั้นสิ่งอื่นดับไปหมดแล้วหรือยังไม่เกิดขึ้น

        ที่มา ...

        พื้นฐานพระอภิธรรม ตอนที่ 192


    หมายเลข 10385
    25 ม.ค. 2567