แด่ผู้มีทุกข์ ๑๑ - เป็นเทวดาก็ทุกข์

 
chaiyut
วันที่  26 พ.ย. 2550
หมายเลข  5669
อ่าน  1,763

ทุกขณะในชีวิตเป็นนามธรรมและรูปธรรม ที่สติสามารถระลึกได้ ไม่ว่าจะเป็นอกุศลธรรมที่เล็กน้อยสักเพียงไร และไม่ว่าจะอยู่ในภพภูมิไหน ไม่ว่าจะเป็นโทสมูลจิต ซึ่งเป็นความทุกข์อย่างเบาบางเล็กๆ น้อยๆ หรือว่าจะเป็นโทสมูลจิตซึ่งเป็นความทุกข์ โทมนัสอย่างรุนแรง สติก็สามารถที่จะระลึกได้ ในมนุษยภูมินี้มีสุขกับทุกข์ก็เจือกัน แต่ว่าในบางภูมิสุขย่อมมากกว่าทุกข์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะปราศจากทุกข์เสียเลย

ข้อความในมโนรถปุรณี อรรถกถาอังคุตตรนิกาย ติกนิบาต ปฐมปัณณาสก์ วรรคที่ ๓ แสดงทุกข์ของเทพ มีข้อความว่า ...

ความสุขและความทุกข์อันเจือกัน ความสุขย่อมมีแก่มนุษย์ทั้งหลายโดยกาล ความทุกข์ย่อมมีแก่มนุษย์ทั้งหลายโดยกาล เทวดาชั้นกามาวจร ความสุขย่อมมีแก่เทพดาเหล่านั้นโดยกาล ความทุกข์ย่อมมีแก่เทพดาเหล่านั้นโดยกาล เทพดาเหล่านั้นผู้ต่ำกว่า เห็นเทพดาผู้มีศักดิ์ใหญ่กว่าแล้ว จำต้องลุกขึ้นจากอาสนะ ต้องหลีกออกไปจากทาง พึงนำออกซึ่งผ้าคลุม พึงกระทำอัญชลีกรรม สิ่งนั้นทั้งหมดชื่อว่า เป็นความทุกข์

ดูเหมือนไม่ใช่ทุกข์ แต่ใจใครจะรู้ ว่ามีความขุ่นเคืองใจ มีความไม่พอใจ มีความน้อยใจ ในขณะที่เห็นเทพผู้มีศักดิ์ใหญ่กว่า แล้วจำต้องลุกจากอาสนะ ต้องหลีกออกไปจากทางและพึงกระทำอัญชลี

บางคนอาจจะไม่อยากไหว้คนอื่น เพราะคิดว่าคนอื่นควรจะไหว้เขา ฉะนั้น เมื่อมีคนซึ่งจะต้องทำอัญชลีกรรม ก็อาจจะรู้สึกขุ่นเคืองใจ หรือเป็นทุกข์อย่างเบาบางเล็กน้อย แต่ขณะนั้น ก็ให้ทราบว่าเป็นความไม่สบายใจแล้ว ถ้าเป็นผู้ที่ละเอียดจริงๆ สติปัฏฐานก็สามารถที่จะระลึกลักษณะของความขุ่นใจซึ่งต้องรู้ ถ้าไม่รู้ความขุ่นใจนั้นก็เป็นเรา เป็นตัวตน ไม่สามารถที่จะดับการยึดถือสภาพธรรมนั้นว่าเป็นตัวตน สัตว์ บุคคลได้

ขอเชิญคลิกอ่านตอนต่อไป ...

แด่ผู้มีทุกข์


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 24 ก.ค. 2563

ขออนุโมทนาครับ

 
  ความคิดเห็นที่ 2  
 
yu_da2554hotmail
วันที่ 16 ส.ค. 2565

ขออนุโมทนาค่ะ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ