ต้องรู้สิ่งที่กำลังปรากฏ ... สนทนาธรรมที่บ้านซอยพัฒนเวศม์ เช้า 15/12/68

 
nattawan
วันที่  18 ธ.ค. 2568
หมายเลข  51667
อ่าน  84

ไม่ว่าจะเกิดอะไรต้องมีเหตุปัจจัยทั้งหมด ... เกิดไม่ได้ถ้าไม่มีปัจจัย แต่ละหนึ่งๆ ต้องเกิดเพราะเหตุปัจจัยให้เป็นอย่างนั้นๆ ต่างกันไป จึงต่างกันไปแต่ละขณะเพราะปัจจัยที่ให้เกิดต่างกัน มั่นคงในความเป็นเหตุเป็นผล ... ต้องทีละหนึ่งจึงจะรู้ว่าไม่รู้แค่ไหน ที่สำคัญคือให้เข้าใจถูกต้องว่าไม่รู้แค่ไหนจึงจะเลิกความหวังว่าจะรู้โน่นจะรู้นี่ จะทำอย่างนั้นจะทำอย่างนี้ ... มันเกิดเพราะเหตุปัจจัยทั้งนั้น

ความไม่รู้นี่แค่ไหน เดี๋ยวนี้มีอะไรก็ไม่รู้!! มีแล้วก็ไม่รู้!! ไม่รู้ทั้งนั้นไม่รู้ทั้งหมดไม่ใช่ปัญญาเลย เพราะฉะนั้นสงสัยเกิดไม่ใช่เราแต่ก็ยังหาอยู่เพราะไม่รู้จึงหา ความจริงลึกซึ้งมากห่อหุ้มไว้ด้วยความไม่รู้ทุกขณะ แล้วมันจะหนาสักแค่ไหน? เพราะฉะนั้นฟังไปเพื่อเข้าใจตามลำดับทุกคำ ... แปลว่าเรารู้คำเยอะแต่ไม่ได้เข้าใจ!!

สิ่งที่ไม่ปรากฏไม่รู้ เพราะฉะนั้น ต้องรู้สิ่งที่กำลังปรากฏ !! ดูเหมือนง่ายๆ แต่ลึกซึ้งและละเอียด ต้องรู้เฉพาะสิ่งที่ปรากฏทีละหนึ่ง ... นั่นคือเริ่มละความเป็นเราเพราะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรเพิ่มขึ้น ไม่ใช่มีแต่ปัญญาเท่านั้น ยังมีสติ ... แล้วสติกับปัญญาต่างกันอย่างไร?!

เพราะฉะนั้นฟังธรรมเพื่อเข้าใจ ความไม่เข้าใจเขาทำหน้าที่เยอะแล้ว จนกว่าความเข้าใจจะมีกำลังตามระดับขั้นที่จะทำหน้าที่ประกอบด้วยสภาพธรรมะที่เกิดพร้อมกัน อาศัยกันและกันเกิดขึ้น

พระอภิธรรมคือธรรมะที่ละเอียดยิ่งลึกซึ้งอย่างยิ่ง ทุกอย่างรู้ไม่ได้ด้วยความต้องการหรือด้วยความไม่รู้ ... ไม่มีทางรู้!! ต้องมั่นคงในความจริงสสัจจบารมี

เป็นบุญแค่ไหนที่ได้ฟังสิ่งที่มีมานานแสนนานแต่ไม่เข้าใจ ไม่เคยฟังถ้าไม่มีการตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ... ต่อไปอีกนานเท่าไหร่? ฟังแล้วก็รู้เลยว่ากว่าพระองค์จะตรัสรู้อย่างนี้บำเพ็ญนานเท่าไหร่ แล้วเรากำลังเริ่มฟังอย่างนี้เข้าใจแค่ไหน ... อดทนแค่ไหน ... ไม่ใช่เราแต่เป็นธรรมะที่อดทน!! ... ฟังต่อไปใช่ไหม ... นี่แหละอดทน

ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


  ความคิดเห็นที่ 1  
 
chatchai.k
วันที่ 18 ธ.ค. 2568

กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ ด้วยความเคารพยิ่ง

ยินดีในกุศลจิตครับ

 
เขียนความคิดเห็น กรุณาเข้าระบบ