การงานไม่ขัดขวางการศึกษาธรรม
อ.นิภัทร การศึกษาธรรมไม่ได้หมายความว่าให้ทุกคนไม่ทำอะไร เป็นนักเรียน ก็ไม่เรียนหนังสือ จะมาเรียนธรรม เป็นแม่ค้า พ่อค้า ก็ไม่เอาแล้ว จะมาเรียนธรรม ทำงานก็ไม่ทำแล้ว จะลาออกมาเรียนธรรม คิดอย่างนี้ไม่ถูกธรรม เพราะว่าธรรม มีทุกอาชีพ ในสมัยพุทธกาล ผู้ที่เห็นว่า ฆราวาสคับแคบ ไม่เอาแล้ว ท่านไม่เอาจริงๆ ท่านก็บวชเป็นพระภิกษุ เป็นผู้หญิงก็บวชเป็นภิกษุณี สำหรับพวกเรา ไม่ถึงขั้นนั้น
มีอาชีพอะไรที่เป็นสุจริต เราก็ทำ เป็นนักเรียน นักศึกษา ก็ต้องศึกษาเล่าเรียนให้รู้ ให้เข้าใจ ในเรื่องที่เรียน เพื่อจะสอบได้ ถ้าเราเข้าใจธรรมแล้ว ไม่มีอะไร มาขัดขวาง เพราะทุกสิ่งทุกอย่าง เป็นธรรมทั้งหมด เราเรียนหนังสือ ก็ไม่ได้หมายความว่า เราเอาตัวทิ้งไว้ที่บ้าน แล้วไปแต่วิญญาณ อย่างนั้นไม่ใช่ ก็ไปทั้งตัว ตัวเรานี่เองคือธรรม ถ้าเราเข้าใจแล้ว จะเรียนหนังสือ ก็มีธรรม จะเป็นพ่อค้าวาณิช ก็มีธรรม เพราะว่าตัวเราคือธรรม
ถ้าเราเข้าใจ ก็คือตัวเราคือธรรม จะเป็นอะไรๆ ก็ตัวเราทั้งสิ้น ไม่ได้เอาตัวเราเก็บไว้ที่บ้าน แล้วมี ๒ ส่วน ไม่ใช่อย่างนั้น เราไปที่ไหน ธรรมก็มีที่นั่น จะอยู่ที่ไหน ธรรมก็มี ที่สำคัญก็คือ เราต้องเข้าใจด้วยการฟังบ่อยๆ บางคนทำงาน ก็ฟังธรรมไปด้วย ขับรถก็ฟังธรรมไปด้วย สมัยนี้ มีเครื่องอุปกรณ์ที่สามารถ ใช้ประโยชน์ได้ตลอดเวลา
การศึกษาธรรม มีแต่จะทำให้เราได้ประโยชน์ยิ่งขึ้น จากการศึกษานั้น เพราะว่าการศึกษาธรรมนี่ ไม่ใช่ศึกษาไปแล้วจะเก็บไว้หมดทุกอย่าง ไม่ใช่ ศึกษาไปเพื่อให้รู้แล้วละ ไม่ใช่ให้ไปยึดถือไว้ เพราะ การยึดถือเป็นทุกข์ในโลก การทิ้งไปเสีย เป็นสุข


