ความจริงต้องรู้ได้แต่ไม่ใช่ด้วยความไม่รู้

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์นั้น
สิ่งที่มีจริง ต้องไตร่ตรองว่ามีจริงๆ เพราะมีลักษณะให้รู้ได้ว่ามีจริงๆ ต่างกันที่รูปร่าง แต่แข็งไม่ต่างกันเลยไม่ใช่โต๊ะ ไม่ใช่สิ่งหนึ่งสิ่งใด แต่กระทบแล้วเป็นแข็งเท่านั้น ถ้าแข็งไม่เกิดไม่มีแข็งแต่ละหนึ่งขณะถ้าไม่เกิดไม่มี เกิดแล้วดับอย่างรวดเร็ว ความจริงเป็นอย่างนั้น แต่ไม่รู้จึงฟัง ศึกษาตามลำดับคือฟังจนเข้าใจว่าความจริงเป็นอย่างนั้นแน่นอน แข็งมีแน่นอนเมื่อกระทบสัมผัส แข็งเป็นแข็ง เดี๋ยวนี้มีแข็งตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า แตะตรงไหนแข็งตรงนั้น แต่ไม่มีใครรู้ว่าแข็งเป็นแข็ง ไม่ใช่เรา ไม่มีหู ไม่มีตา แต่อยู่ในโลกของอัตตา จึงเป็นเราเป็นโน่นนี่นั่น แต่ความจริงสิ่งที่ปรากฏให้เห็นไม่แข็ง การศึกษาธรรมะต้องละเอียดมาก พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ความจริงว่าเป็นธรรมะ เป็นอนัตตา เริ่มรู้ว่าธรรมะคือสิ่งที่มีจริงที่ใครๆ ก็เปลี่ยนลักษณะนั้นไม่ได้ ไม่มีใครหรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด มีแต่ธรรมะที่แข็ง ความจริงต้องรู้ได้แต่ไม่ใช่ด้วยความไม่รู้
ศึกษาธรรมะต้องรู้ว่าอะไรเป็นธรรมะและรู้ได้แค่ไหน ต้องศึกษาจนเข้าใจแจ่มแจ้งจนรู้ความจริง ทุกคำที่พระพุทธเจ้าตรัสเป็นความจริงอนุเคราะห์เกื้อกูลให้ผู้ฟังมีความเข้าใจถูกเป็นของตนเอง จึงต้องตั้งไจฟัง ใส่ใจฟังด้วยดี เพื่อรับคำที่เป็นประโยชน์เกื้อกูลให้ได้เข้าใจความจริงของธรรมะ
กราบเท้าบูชาคุณท่านอาจารย์ด้วยความเคารพยิ่ง
ยินดีในความดีของทุกท่านค่ะ


